Sabyasachi แบรนด์อินเดียสุดหรู ที่มาส่าหรีสุดปังของ Alia Bhatt บนพรมแดง

สร้างความฮือฮาได้ไม่น้อยสำหรับการปรากฏตัวในงาน Met Gala ครั้งที่ 2 ของนักแสดงสาวชาวอินเดียชื่อดัง อเลีย บาตต์ (Alia Bhatt) ที่ครั้งนี้เธอเลือกสวมใส่ “ส่าหรี” สุดอลังการสีเขียวมิ้นต์โดดเด่นด้วยลวดลายดอกไม้นานาชนิดพร้อมทั้งอัญมณีหรูหราดูแพงเรียกได้ว่าเป็นชุดหนึ่งที่ถือว่าอลังการสุดๆ สำหรับ Met Gala 2024 ของฝ่ายหญิง เพราะนอกจากจะตรงตามธีมของงาน “The Garden of Time” แล้ว ยังเป็นการเสนอวัฒนธรรมการแต่งตัวด้วยชุดประจำชาติของอินเดียได้อย่างน่าสนใจ

หลังจากภาพของเธอกลายเป็นที่พูดถึงอย่างรวดเร็วบนโลกออนไลน์ ทำให้หลายคนสงสัยว่าแล้วแบรนด์อะไรที่อยู่เบื้องหลังความงดงามอันวิจิตรของส่าหรีชุดนี้ แล้วก็ได้คำตอบว่าเป็นแบรนด์แฟชั่นสุดหรูของอินเดียอย่าง “Sabyasachi”

อเลีย บาตต์ ในชุดส่าหรีจาก Sabyasachi

Sabyasachi แบรนด์หรูสุดปังจากฝั่งอินเดีย

จุดเริ่มต้นของแบรนด์ “Sabyasachi” มาจากตอนที่ สัพยาศจี มุครจี (Sabyasachi Mukherjee) เรียนจบจากสถาบันเทคโนโลยีแฟชั่นแห่งชาติ เมืองโกลกาตา ด้วยเกียรตินิยมอันดับหนึ่ง แต่กลับปฏิเสธข้อเสนองานจากเหล่าดีไซเนอร์ชั้นนำของอินเดียในขณะนั้น เนื่องจากเขามีความทะเยอทะยานและตั้งใจจะทำตามความฝันในการสร้างแบรนด์ของตัวเอง หลังจากนั้น 6 เดือนต่อมาเขายืมเงิน 20,000 รูปี จากครอบครัวและเริ่มต้นสร้างแบรนด์ขึ้นมาแม้ว่าจะมีพนักงานเพียงแค่ 3 คน ในปี 1999

ต่อมาในปี 2001 เขาก็ได้รับรางวัลดีไซเนอร์หน้าใหม่ที่โดดเด่นที่สุดของ Femina British Council ก่อนจะเดินทางไปทำงานวิจัยที่ Victoria & Albert Museum ในลอนดอน หลังจากนั้นเมื่อกลับมาที่อินเดียเขาก็ได้เปิดเผยงานวิจัยออกมาสู่สาธารณะ ซึ่งมีใจความสำคัญเกี่ยวกับชาติตะวันตกที่ยังขาดความตระหนักเกี่ยวกับประวัติศาสตร์อันยาวนานและหรูหราของอินเดีย ต่อมาเขาก็ได้เริ่มเพิ่มจำนวนพนักงานและกำหนดทิศทางของแบรนด์

สัพยาศจี มุครจี (Sabyasachi)

Sabyasachi เปิดตัวครั้งแรกในงาน Lakmé Fashion Week ของอินเดียเมื่อปี 2002 โดยนำเสนอแฟชั่นแนวโบฮีเมียนที่เป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์ แต่ก็ผสมผสานศิลปะ วัฒนธรรม งานฝีมือที่มีคุณค่าในแบบฉบับอินเดียเข้าไปด้วย ทำให้เขาได้รับการขนานนามจากสื่อว่าเป็น “อนาคตของแฟชั่นอินเดีย”

หลังจากนั้นในปี 2003 เขาก็ได้รับรางวัล The Grand Winner Award จากงาน Mercedes Benz New Asia Fashion Week ที่สิงคโปร์ เนื่องจากผลงานของเขามีความโดดเด่นและแสดงออกถึงมรดกทางวัฒนธรรมอินเดียได้เป็นอย่างดี ทำให้เขาได้มีโอกาสเข้าไปฝึกงานจากดีไซเนอร์ของแบรนด์ดังอย่าง Jean Paul Gaultier และ Azzedine Alaïa ที่ปารีส

ความสำเร็จของ Sabyasachi เพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ จนกลายเป็นแบรนด์ที่รู้จักไปทั่วโลกโดยเฉพาะในฝั่งตะวันตกที่เต็มไปด้วยแบรนด์หรูมากมาย และสามารถจัดแสดงผลงานได้ที่ Milan Fashion Week นอกจากนี้ยังได้รับการโหวตจาก Asia Inc ของสิงคโปร์ให้เป็น 1 ใน 10 ชาวอินเดียที่มีอิทธิพลมากที่สุดในเอเชียอีกด้วย รวมถึงคว้าตำแหน่ง Hot List ของนิตยสาร Vogue อังกฤษ มาครองได้ด้วย

แม้ว่า Sabyasachi จะเข้ามาเป็นผู้เล่นในอุตสาหกรรมแฟชั่นของอินเดียได้ไม่นาน แต่ก็ต้องยอมรับว่าเขาเติบโตอย่างก้าวกระโดด ทั้งการเปิดตัวคอลเลกชันในงานแฟชั่นโชว์ดังๆ ของฝั่งยุโรป การคว้ารางวัลมาได้มากมาย การเข้าไปมีบทบาทในการทำเสื้อผ้าให้กับวงการภาพยนตร์อินเดียหรือบอลลีวูด การสร้างสรรค์ชุดเจ้าสาวที่มาพร้อมเครื่องประดับสุดหรู จนเกิดเป็นกระแส “Sabya Bride” แต่เหตุการณ์ที่แจ้งเกิดให้กับแบรนด์สุดๆ ในระดับสากลคงหนีไม่พ้นชุดส่าหรีสีเขียวมิ้นต์บนพรมแดงงาน Met Gala

ชุดส่าหรีแฮนด์เมด สวยตาแตกบนพรมแดง Met Gala

ตามที่ได้กล่าวไปข้างต้นว่าชุดส่าหรีจากแบรนด์ Sabyasachi ที่ อเลีย สวมใส่นั้นเรียกเสียงฮือฮาได้เป็นอย่างมากและกลายเป็นไวรัลบนโลกออนไลน์อย่างรวดเร็ว แต่เมื่อทางแบรนด์เปิดเผยเบื้องหลังว่าส่าหรีชุดนี้เป็นของแฮนด์เมดแล้ว ก็ยิ่งได้รับความสนใจมากยิ่งขึ้นไปอีก

เนื่องจากธีมเครื่องแต่งกายของ Met Gala 2024 คือ “The Garden of Time” ที่มาพร้อมกับนิทรรศการ Sleeping Beauties: Reawakening Fashion ทำให้อเลียและสไตลิสต์ของเธอ อไนตา ชรอฟ อดาจาเนีย (Anaita Shroff Adajania) ร่วมกันตีความของธีมในภาพรวมเพื่อที่จะสรรหาเสื้อผ้าที่เหมาะสมกับงานแต่ต้องไม่ทิ้งความเป็นรากเหง้าของอินเดีย ซึ่ง “Sabyasachi” คือคำตอบ

สำหรับชุดส่าหรีสีเขียวมิ้นต์นี้เป็นการออกแบบพิเศษโดยต้องการใช้เป็นชุดที่โปร่งใสเหมือนกับแก้วแต่ก็มีความไหลลื่น จึงเลือกใช้ผ้าบางเบาพลิ้วไหวที่มีความยาวถึง 23 ฟุต หรือประมาณ 7 เมตร ปักลวดลายดอกไม้นานาพันธุ์อย่างประณีตด้วยมือทั้งหมด รวมถึงนำอัญมณีหลายชนิดมาประดับเพิ่มเติมบริเวณเสื้อท่อนบน (Blouse) ซึ่งการทำชุดส่าหรีชุดนี้ใช้เวลามากถึง 1,965 ชั่วโมง โดยช่างฝีมือถึง 163 คน

ภาพจาก Sabyasachi

โดยอัญมณีที่จะนำมาเป็นส่วนประกอบของชุดนั้นต้องผ่านการคัดเลือกมาเป็นอย่างดีว่ามีความสอดคล้องกับวัฒนธรรมของอินเดียมากน้อยแค่ไหน และจะทำหน้าที่นำเสนอ “ความเป็นอินเดีย” ได้อย่างไรบ้าง ซึ่งอัญมณีที่อยู่บนส่าหรีชุดนี้มีทั้งมรกต ไข่มุกบาสรา ทัวร์มาลีน และแซปไฟร์ ไม่ใช่แค่ชุดเท่านั้น แต่กระเป๋า และเครื่องประดับ ก็มีความสำคัญไม่แพ้กัน นอกจากนี้ในเว็บไซต์ของ Sabyasachi ได้อธิบายเอาไว้ว่าส่าหรีชุดนี้บ่งบอกถึงสัตว์ป่าในตำนานและเหล่านางไม้อีกด้วย

กระเป๋า และ เครื่องประดับเข้าชุดจาก Sabyasachi

ทางด้าน สัพยาศจี ก็ได้เปิดเผยว่าการสร้างสรรค์ชุดส่าหรีครั้งนี้เป็นการผสมผสานงานฝีมือแบบดั้งเดิมเข้ากับความงดงามแบบทันสมัย เนื่องจากชุดส่าหรีถือเป็นงานฝีมือที่ต้องใช้เทคนิคเฉพาะที่สืบทอดกันมาอย่างช้านานหลายชั่วอายุคน จึงถือว่าเป็นการแสดงออกถึงประวัติศาสตร์และความภาคภูมิใจในงานฝีมือของอินเดียอีกด้วย

ท้ายที่สุดนี้แม้ว่าชุดส่าหรีสีเขียวมิ้นต์ของ “Sabyasachi” อาจจะไม่ได้ติดโผชุดเดินพรมแดงที่ดีที่สุดของการจัดอันดับจากสื่อแฟชั่นมากเท่าที่หลายคนคาดหวังเอาไว้ แต่ก็ถือว่าแบรนด์ประสบความสำเร็จในการทำให้คนทั่วโลกหันมามองเห็นความสวยงามของวัฒนธรรมอินเดียผ่านตัวแบรนด์มากขึ้น สังเกตได้จากรายงานของ lefty.io (แพลตฟอร์มด้านการตลาดและอินฟลูเอนเซอร์ที่ต้องทำงานร่วมกับแบรนด์ต่างๆ) ที่พบว่า Sabyasachi กลายเป็นแบรนด์ที่ได้รับความสนใจจากผู้เล่นอินสตาแกรมมากเป็นอันดับหนึ่ง แซงหน้าแบรนด์หรู เช่น Burberry และ Thom Browne รวมถึงยังทำให้อินสตาแกรมของอเลียมีผู้ติดตามเพิ่มขึ้นกว่าล้านคนในไม่กี่วัน

อ้างอิงข้อมูล : Sabyasachi และ Vouge