“Black Panther 2” - “Black Adam” 2 หนังฟอร์มยักษ์ ทำไมอดฉายในจีน

ขณะที่ภาพยนตร์ซูเปอร์ฮีโร่สุดยิ่งใหญ่ช่วงปลายปีนี้ทั้ง “Black Adam” ของฝั่ง “DC Comics” และ “Black Panther: Wakanda Forever” ภาพยนตร์ภาคต่อและปิดเฟส 4 ของจักรวาลมาร์เวล (MCU) กำลังโกยรายได้ทั่วโลกให้กับสตูดิโอ แต่ดูเหมือนว่ารายได้ของภาพยนตร์ทั้ง 2 เรื่องอาจจะไม่ถึงเป้าที่หวังไว้ เมื่อทั้ง Black Adam และ Black Panther 2 ไม่ได้เข้าฉายในจีน ซึ่งเป็นตลาดภาพยนตร์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก

ในช่วงไม่กี่ปีมานี้ มีภาพยนตร์ฮอลลีวูดใหม่เพียงไม่กี่เรื่องต่อปีเท่านั้นที่ได้เข้าฉายในประเทศจีน อันเนื่องมาจากนโยบายการเซ็นเซอร์ภาพยนตร์ที่เข้มงวด รวมถึงนโยบายโควิดเป็นศูนย์ของทางการจีนที่ทำให้ต้องปิดโรงภาพยนตร์เป็นระยะในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา ก็เป็นอีกมาตรการสำคัญที่ทำให้ภาพยนตร์ฮอลลีวูดเจาะตลาดจีนได้ยากกว่าเดิม

โดยปกติแล้ว หน่วยงานกำกับดูแลการเซ็นเซอร์ภาพยนตร์ของจีนไม่ค่อยประกาศหรืออธิบายถึงเหตุผลต่อสาธารณชนว่า ทำไมถึงไม่ให้ภาพยนตร์เรื่องนั้น ๆ เข้าฉายในโรงภาพยนตร์ ปล่อยให้สตูดิโอผู้ผลิตหนังและผู้ชมที่รอชมต้องรออย่างมีความหวัง ซึ่งส่วนใหญ่มักจะรอเก้อและคาดเดาเหตุผลกันไปต่าง ๆ นานา แต่แหล่งข่าวที่ทำงานในอุตสาหกรรมจีนยืนยันกับนิตยสาร The Hollywood Reporter ว่าทั้ง Black Panther 2 และ Black Adam ไม่มีโอกาสได้เข้าฉายในจีนแล้ว

ทั้งที่ Black Panther ภาคแรกที่เข้าฉายในจีนเมื่อปี 2561 ทำรายได้ไปกว่า 105 ล้านดอลลาร์ ส่วนภาพยนตร์เรื่องอื่น ๆ ของ "ดเวย์น จอห์นสัน” หรือที่รู้จักกันอย่างดีในชื่อ “เดอะ ร็อค” ที่เคยเข้าฉายในจีนก็ทำรายได้ดีไม่แพ้กัน เช่น Skyscraper (2561) ทำรายได้ 98 ล้านดอลลาร์ และ Hobbs & Shaw (2562) กวาดรายได้ไป 201 ล้านดอลลาร์

• หนังมาร์เวลไม่ได้เข้าฉายในจีนมานานแล้ว

การไม่ได้เข้าฉายของ Black Panther 2 จึงเป็นเรื่องที่ค่อนข้างน่าแปลกใจ เพราะภาคแรกทำรายได้ไว้ดีมาก แต่หากย้อนกลับไปดูภาพยนตร์ในจักรวาลมาร์เวลทั้งหมดแล้ว จะพบว่าภาพยนตร์ 6 เรื่องล่าสุดของ MCU นั้นไม่ได้เข้าฉายในจีนเลย โดย Black Widow (2564) เป็นภาพยนตร์มาร์เวลเรื่องสุดท้ายที่เข้าฉายในจีน ทำให้หลายคนที่อยู่ในอุตสาหกรรมภาพยนตร์ของจีนเชื่อว่า จีนได้แบนภาพยนตร์ของมาร์เวลทุกเรื่องต่อจากนี้ไปเรียบร้อยแล้ว

สำหรับ Shang-Chi and the Legend of the Ten Rings (2564) และ Eternals (2564) ไม่ได้เข้าฉายเพราะ ซือมู่ หลิว นักแสดงนำผู้รับบาท ชางชี และ โคลอี เจา ผู้กำกับของ Eternals เคยให้สัมภาษณ์วิจารณ์ทางการจีน 

ขณะที่ Spider-Man: No Way Home (2564) น่าจะถูกห้ามฉายเพราะมีฉากไฮไลต์ของเรื่องเป็นการต่อสู้บนเทพีเสรีภาพ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ที่แสดงให้เห็นถึงค่านิยมทางการเมืองของอเมริกาที่ทรงพลังมากเกินไปกว่าที่จะยอมรับได้

อีกทั้ง Eternals ยังมีตัวละครที่มีความหลากหลายทางเพศ เช่นเดียวกับ Doctor Strange in the Multiverse of Madness (2565) และ Thor: Love and Thunder (2565) ที่มีตัวละครหญิงรักหญิงทำให้ถูกห้ามฉายไปตามระเบียบ ดังนั้น Black Panther 2 ที่มีตัวละคร LGBTQ+ จึงถูกแบนด้วยเช่นกัน

เดิมที สตูดิโอผู้สร้างภาพยนตร์จะตัดฉากที่มีความสัมพันธ์ของตัวละครLGBTQ+ ออก เพื่อให้สามารถเข้าฉายในจีนและประเทศมุสลิมได้ ก่อนที่ Disney จะเข้าซื้อ 20th Century Fox มีการตัดการพูดถึงรสนิยมทางเพศของ “เฟรดดี้ เมอร์คิวรี” นักร้องนำวง “Queen” และฉากที่ได้รับการวินิจฉัยว่าเฟรดดี้ติดเชื้อ HIV ออกจาก Bohemian Rhapsody (2561) ภาพยนตร์อัตชีวประวัติของนักร้องนำวง Queen 

ส่วน Warner Bros. เลือกตัดบทสนทนาที่กล่าวถึงความสัมพันธ์ระหว่างของ อัลบัส ดัมเบิลดอร์ และ เกลเลิร์ต กรินเดลวัลด์ ใน Fantastic Beasts: The Secrets of Dumbledore ที่เข้าฉายในปีนี้  เพื่อให้เข้าฉายในจีนได้

อย่างไรก็ตาม เมื่อเร็ว ๆ นี้ Disney มีจุดยืนจะไม่ลบเนื้อหาเกี่ยวกับกลุ่ม LGBTQ+ ทำให้ภาพยนตร์หลายเรื่องไม่ได้เข้าฉายในจีนและหลายประเทศในกลุ่มประเทศมุสลิม

 

• เหตุผลที่ Black Adam ไม่ได้เข้าฉาย

The Batman เวอร์ชันล่าสุดที่นำแสดงโดย โรเบิร์ต แพตทินสัน ที่เข้าฉายในปีนี้ เป็นภาพยนตร์ซูเปอร์ฮีโร่เรื่องแรกของฮอลลีวูดในรอบ 3 ปีที่ได้เข้าฉายในจีน โดยเก็บรายได้ไป 25.3 ล้านดอลลาร์ และเหตุนี้เองหลายคนจึงคาดว่า Black Adam ที่เป็นภาพยนตร์จาก DC Comics เหมือนกัน น่าจะได้เข้าฉายในจีนเช่นกัน 

ทว่าไม่ได้เป็นเช่นนั้น ผู้บริหารของโรงภาพยนตร์รายใหญ่ของจีนเปิดเผยกับ นิตยสาร The Hollywood Reporter ว่า ได้เลิกหวังไปแล้วว่า Black Adam จะได้เข้าฉายในจีน 

สาเหตุหลักที่หลายฝ่ายคาดกันว่า Black Adam ไม่ได้เข้าฉายในจีน เป็นเพราะ เพียร์ซ บรอสแนน ผู้รับบท Doctor Fate หนึ่งในตัวละครสำคัญของเรื่อง เคยโพสต์รูปเขากับครอบครัวคู่กับ ทะไลลามะ ผู้นำทางจิตวิญญาณของทิเบต พร้อมอวยพรวันเกิดในวันครบรอบวันเกิด 85 ปี เมื่อ 2 ปีก่อน

ทางการจีนมองว่า ทะไลลามะเป็นบุคคลอันตรายที่หวังจะแบ่งแยกดินแดนทิเบตออกจากจีน ทำให้บุคคลในวงการบันเทิงฮอลลีวูดที่มีท่าทีสนับสนุนทะไลลามะจึงถูกเซ็นเซอร์ในจีน ไม่ว่าจะเป็น เลดี้ กาก้า ริชาร์ด เกียร์ และคีอานู รีฟส์

หากจะว่ากันตามจริงแล้ว ผู้ที่รับผลกระทบจากการไม่ได้เข้าฉายของภาพยนตร์ฮอลลีวูดมากที่สุด อาจจะไม่ใช่สตูดิโอผู้สร้าง เพราะยังมีรายได้จากการเข้าฉายที่อื่นอยู่ แต่อาจเป็นเจ้าของโรงภาพยนตร์ในจีน ตามข้อมูลจาก Artisan Gateway บริษัทที่ปรึกษาอุตสาหกรรมภาพยนตร์และโรงภาพยนตร์ภาพยนตร์ แสดงให้เห็นว่า ยอดขายตั๋วทั้งหมดในประเทศจีนสำหรับปี 2565 ลดลง 35% เมื่อเทียบกับปีก่อน

 

ที่มา: The Hollywood Reporter, TIME, VOA News