สื่อนอกยก ‘4EVE’ เทียบ ‘BLACKPINK เมืองไทย’ T-Pop ทรงอิทธิพล ตบเท้าร่วมงานแบรนด์ระดับโลก

ในรอบหลายปีที่ผ่านมา “ไทยป๊อป คัลเจอร์” หรือวัฒนธรรมป๊อปของไทยได้รับความนิยมอย่างกว้างขวาง ไม่เพียงในประเทศเท่านั้นแต่ยังพบว่า ศิลปินไทยมีชื่อเสียงไปไกลทั้งระดับเอเชียและระดับโลก โดยสำนักข่าว “เซาท์ ไชน่า มอนิ่ง โพสต์” (South China Morning Post) ยก “โฟอีฟ” (4EVE) เกิร์ลกรุ๊ปเลือดใหม่สัญชาติไทยเทียบ “แบล็คพิงก์” (BLACKPINK) เกิร์ลกรุ๊ปแดนกิมจิที่ได้รับการยอมรับและมีชื่อเสียงไปทั่วโลก

“เซาท์ ไชน่า มอนิ่ง โพสต์” ให้ความเห็นว่า ในบรรดาวงดนตรีที่ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นทั้งในประเทศบ้านเกิดและระดับเอเชีย “โฟอีฟ” คือหนึ่งในผู้ขับเคลื่อนวัฒนธรรมป๊อปผ่านสมาชิกทั้ง 7 คน ได้แก่ ฝ้าย ณัฐธยาน์ บุตรธุระ, พั้นช์ ทิพานัน นิลสยาม, มายด์ อาทิตยา ตรีบุดารักษ์, อ๊ะอาย กรณิศ เล้าสุบินประเสริฐ, แฮนน่า โรสเซ็นบรูม, โจริญ คัมภีรพันธุ์ และตาออม เบญญาภา อุ่นจิตร

ที่ผ่านมา อุตสาหกรรมภาพยนตร์และโทรทัศน์ไทยมีชื่อเสียงจากภาพยนตร์สยองขวัญมายาวนาน ทว่าปัจจุบันลมเปลี่ยนทิศไปแล้ว ป๊อปคัลเจอร์ไทยมีชื่อเสียงจากซีรีส์แนวโรแมนติกคอมเมดี้และซีรีส์วาย อาทิ F4 Thailand ที่มี “ไบรท์-วชิรวิชญ์ ชีวอารี” แสดงนำ รวมถึงภาพยนตร์ “Hunger” ที่สตรีมมิ่งผ่าน “เน็ตฟลิกซ์” (Netflix) ต่างมีส่วนทำให้วัฒนธรรมทีป๊อปเติบโตไปไกลกว่าในอดีต

นอกจากนี้ ยังมี “ลิซ่า-ลลิษา มโนบาล” หนึ่งในสมาชิกเคป๊อปชื่อก้องโลก “แบล็คพิงก์” (BLACKPINK) ความสำเร็จของ “ลิซ่า” ทำให้สปอตไลต์สาดแสงมาถึงวงการดนตรีเพลงไทย วงดนตรีหลายวงได้รับอิทธิพลจากวงการเคป๊อป เราจึงเห็นว่า บรรดาโซเชียลมีเดียของศิลปินไทยมีผู้ติดตามหลายล้านคนซึ่งไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่อีกต่อไปแล้ว

“เซาท์ ไชน่า มอนิ่ง โพสต์” ยังให้ความเห็นเพิ่มเติมอีกว่า ผู้ติดตามอินสตาแกรม “โฟอีฟ” ราว 300,000 คน มีส่วนสำคัญในการผลักดันจำนวนยอดผู้เข้าชมเพลงของวงดนตรี “โฟอีฟ” กว่า 400 ล้านครั้งบนยูทูบ การเติบโตอย่างสม่ำเสมอของวงทำให้เริ่มมีผู้ติดตามในระดับสากลช้าๆ แม้ว่าเนื้อเพลงจะใช้ภาษาไทยเป็นส่วนใหญ่แต่ท่วงทำนองเพลงของ “โฟอีฟ” ได้ทำลายกำแพงทางภาษาไปทั้งหมด และเมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายน 2566 “โฟอีฟ” ได้ยกระดับการมีส่วนร่วมกับแฟนอินเตอร์ไปอีกขั้น โดยเป็นการร่วมงานกับ “The Sandbox” แพลตฟอร์มเกมออนไลน์ในการแสดงคอนเสิร์ตเสมือนจริงเป็นครั้งแรกของวง

ขณะเดียวกันสมาชิกวงแต่ละคนก็เริ่มสะสมชื่อเสียงจากโปรเจกต์ส่วนตัวไปด้วย ไม่ว่าจะเป็น “แฮนน่า” สมาชิกเชื้อสายลาว-อเมริกัน ที่ได้เข้าร่วมเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติเซี่ยงไฮ้ ในฐานะผู้ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลนักแสดงหน้าใหม่ยอดเยี่ยมจากภาพยนตร์ลาวเรื่อง “The Signal” ทั้งยังได้รับบทบาทในละครไทยเรื่อง “กามเทพก้นครัว” (A Match by Maid) ในปีนี้ด้วย

ด้าน “โจริญ” ได้เข้าร่วมการแข่งขันร้องเพลงในรายการ “The Mask Singer” ทั้งยังได้เข้าร่วมแคมเปญกับแบรนด์ระดับโลก อาทิ “ดิออร์” (Dior) และ “จิมมี่ ชู” (Jimmy Choo) และ “พั้นช์” ปรากฏตัวในแคมเปญผ่านโซเชียลมีเดียแพลตฟอร์มของ “ทอมฟอร์ด” (Tom Ford) และ “บาเลนเซียกา” (Balenciaga) เช่นกัน

 

อ้างอิง: South China Morning Post