‘หนังรอมคอม’ หายจากจอเงิน นักแสดงไม่อยากเล่น ค่ายไม่ให้ทุน

‘หนังรอมคอม’ หายจากจอเงิน นักแสดงไม่อยากเล่น ค่ายไม่ให้ทุน

ภาพยนตร์โรแมนติกคอมเมดี้ หรือ “หนังรอมคอม” กลายเป็นหนังที่กำลังจะหายไปจาก “ฮอลลีวู้ด” หลังผู้สร้างสนใจทำแต่หนังฟอร์มยักษ์ นักแสดงไม่อยากเล่น เพราะมีแต่บทไม่ดี ขาดบุคลากรมีฝีมือ รวมถึงผู้ชมไม่ซื้อสูตรสำเร็จเดิม ๆ 

ภาพยนตร์โรแมนติกคอมเมดี้ หรือ “หนังรอมคอม” เป็นหนึ่งแนวภาพยนตร์ที่อยู่คู่กับวงการ “ฮอลลีวู้ด” อย่างยาวนาน และได้รับความนิยมอย่างมากในช่วงยุค 80-2000 แต่ไม่ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา หนังรอมคอมกลับเลือนหายไปจากหน้าจอโรงภาพยนตร์ไปเรื่อย ๆ เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงของอุตสาหกรรมภาพยนตร์บุคคลทำหนังแนวนี้ที่ค่อย ๆ หายไปทีละคน แถมหนังแนวนี้ก็ไม่ทำเงิน โดยหนังรอมคอมเรื่องล่าสุดที่ทำรายได้ทะลุ 100 ล้านดอลลาร์ในสหรัฐ ก็ต้องย้อนกลับไปถึงปี 2015 เรื่อง "Trainwreck"

ส่วนหนึ่งเป็นเพราะหนังรอมคอมที่ทำออกมาไม่โดนใจผู้ชม ผู้คนยุคปัจจุบันไม่เชื่อเรื่องรักประโลมโลก ที่พระนางบังเอิญกันเจอกัน ตกหลุมรักกันแล้วก็ลงเอยด้วยการแต่งงานกันอีกต่อไป บิลลี เมอร์นิท นักวิเคราะห์เรื่องราวของ Universal บอกกับสำนักข่าว Business Insider 

“ตอนนี้คนแต่งงานกันน้อยลง และคนที่แต่งงานกันตั้งแต่ยังเด็กก็น้อยลงเมื่อเทียบกับเมื่อหลายปีก่อน ที่สำคัญวัฒนธรรมการเดทเปลี่ยนไป หันมาใช้แอปพลิเคชันและอยู่ในโลกออนไลน์มากขึ้น ทำให้แนวคิดของผู้ชมที่มีต่อหนังรอมคอมเปลี่ยนไปอย่างมาก” 

ดังนั้นหนังที่ใช้สูตรเดิม ๆ ประเภทนางเอกเป็นคนมั่นใจไม่กลัว พบรักกับพ่อหนุ่มชายแท้ จึงขายไม่ออกในปัจจุบันอีกแล้ว แต่นี่ไม่ใช่ปัจจัยเดียว ยังมีปัจจัยจากฝั่งผู้ผลิตอีกหลายประการที่ทำให้หนังรอมคอมหายไปจากวงการฮอลลีวู้ด

  • ขาดแคลนนักแสดง

เคท ฮัดสัน นักแสดงภาพยนตร์ฮอลลีวู้ดให้สัมภาษณ์ในรายการทอล์กโชว์ “The View” ช่วงหนึ่งได้พูดถึงประเด็น “หนังรอมคอม” หายไปจากวงการ ฮัดสันในฐานะนักแสดงที่แจ้งเกิดจากหนังโรแมนติกคอมเมดี้เรื่อง “How to Lose a Guy in 10 Days” ได้กล่าวว่าสาเหตุหลักที่ปัจจุบันไม่ค่อยมีคนทำหนังประเภทนี้เท่าใดนักเป็นเพราะไม่มีนักแสดงชายมาเล่น

“มันยากที่จะหานักแสดงชายมาเล่นหนังรอมคอม ก็คงจะดีถ้าหากพวกนักแสดงชายจากหนังมาร์เวลหันมาเล่นบ้าง” ฮัดสันกล่าว

อันที่จริงนักแสดงชายก่อนใน “จักรวาลมาร์เวล” หลายคนก็เล่นหนังรอมคอมมาก่อนทั้งนั้นไม่ว่าจะเป็น คริส อีแวนส์, โรเบิร์ต ดาวนีย์ จูเนียร์, และมาร์ค รัฟฟาโล ซึ่งภาพยนตร์เหล่านั้นก็สร้างชื่อเสียงให้แก่พวกเขาทั้งสิ้น ขณะที่ เจสัน โมโมอา เจ้าของบท “Aquaman” สนใจที่จะเล่นหนังรอมคอม แต่กลับไม่มีใครจ้างเขา ซึ่งบางหนังแนวนี้อาจจะกลับมาได้รับความนิยมอีกครั้ง หากได้นักแสดงระดับ A-list หันมาเล่นหนังรอมคอม

ส่วนหนึ่งที่ผู้สร้างไม่กล้าใช้นักแสดงเบอร์ใหญ่มาเล่นหนังรอมคอมอาจเป็นเพราะว่าหนังแนวนี้มีต้นทุนไม่สูงมาก ทำให้ไม่งบไปจ้างนักแสดงระดับ A-list นอกจากนี้ภาพยนตร์แนวนี้ไม่ใช่ “หนังทำเงิน” บนบ็อกซ์ออฟฟิศอีกต่อไป “Anyone But You” หนังรอมคอมที่พึ่งเปิดตัวไปเมื่อช่วงคริสต์มาส 2023 ทำรายได้ไปเพียง 58 ล้านดอลลาร์เท่านั้น ซึ่งยังไม่ถึงจุดคุ้มทุนของหนัง (ข้อมูลถึงวันที่ 8 ม.ค.) ต่างจาก How to Lose a Guy in 10 Days หนังสร้างชื่อของเคท ฮัดสันที่ทำรายได้ทั่วโลกไป 177 ล้านดอลลาร์ทั่วโลก 

ขณะเดียวกัน เมื่อรายได้ไม่ถึงเป้า การจะปั้นนักแสดงให้เป็นตัวท็อปของหนังแนวนี้ก็ทำได้ยากขึ้น ต่างจากยุค 90-2000 ที่เป็นยุคทองของหนังรอมคอม จนสามารถแจ้งเกิดนักแสดงได้มากมาย และเป็นตัวพ่อตัวแม่ของหนังแนวนี้ เช่น จูเลีย โรเบิร์ตส์, ฮิวจ์ แกรนท์, ซานดร้า บูลล็อค, รีส วิเธอร์สปูน เป็นต้น 

ดังนั้นนักแสดงหนังรอมคอมในยุคหลังไม่สามารถยืนระยะเป็นพระนางหนังรอมคอมได้ยาวนัก ทำให้หลายคนต้องผันตัวไปเล่นหนังแนวอื่นแทน เช่น แซค แอฟรอน, ไมลส์ เทลเลอร์ จนสามารถรักษาตำแหน่งนักแสดงแถวหน้าไว้ได้ แต่ก็ไม่ใช่ทุกคนที่จะโชคดีเช่นนี้ หลายคนต้องดิ้นรนกลายเป็นตัวรองในหนังเรื่องอื่น ๆ และชื่อเสียงเริ่มเลือนหายไปตามกาลเวลา

เมื่อไม่มีพลังดาราเป็นตัวดึงดูดให้ผู้ชม ก็ทำให้หนังโรแมนติกคอมเมดี้ไม่สามารถครองพื้นที่ในวงการฮอลลีวู้ดได้อีกต่อไป 

 

  • ขาดบทและผู้สร้างที่ดี

ผู้กำกับหลายคนมีลายเส้นเป็นของตัวเอง เห็นแล้วรู้เลยว่าจะทำหนังอย่างไร อัลเฟรด ฮิทช์ค็อก เป็นเจ้าพ่อหนังระทึกขวัญ ส่วนเจมส์ วานก็เป็นตัวแทนของผู้กำกับหนังผียุคใหม่ ถ้าอยากดูหนังแนวจิตวิทยาก็ต้องดูหนังคริสโตเฟอร์ โนแลน ส่วนหนังบล็อกบลัสเตอร์ทุนสร้างสูงก็ต้องเจมส์ คาเมรอน และสตีเวน สปีลเบิร์ก แต่ไม่มีใครเป็นตัวแทนของหนังรอมคอมเลย เพราะแกรี่ มาร์แชล และ นอรา เอฟรอน ผู้กำกับหนังรอมคอมขึ้นหิ้งเสียชีวิตแล้ว ส่วนบางคนก็หาทุนสร้างหนังเรื่องใหม่ไม่ได้ ขณะที่บางส่วนย้ายไปทำหนังแนวอื่นที่ได้ทุนสร้างสูงกว่าแทน ทำให้หนังรอมคอมขาดโอกาสเติบโตและเฟ้นหาผู้กำกับหน้าใหม่มาทดแทนอีกด้วย

นอกจากนี้ เคท ฮัดสันได้อธิบายเพิ่มเติมว่า หนังโรแมนติกคอมเมดี้ที่ดีไม่ได้อาศัยเพียงแค่พลังของนักแสดงเพียงอย่างเดียว แต่จะต้องมีเรื่องราว บทหนัง และการกำกับที่ดี “ถ้าคุณย้อนไปดูหนังรอมคอมขึ้นหิ้งเก่า ๆ คุณก็จะเห็นว่าเนื้อเรื่องของพวกมันใช้ได้อยู่ตลอด ไม่เก่าเลย ทำให้คนหันกลับไปดูได้เสมอ ค่ายหนังต้องให้ความสำคัญกับประเด็นเหล่านี้บ้าง”

สอดคล้องไปกับความเห็นของเจ้าแม่หนังรักอย่าง “จูเลีย โรเบิร์ตส์” ที่ห่างหายจากการแสดงหนังรอมคอมไปร่วม 20 ปี หลังจากแสดงหนังรอมคอมเรื่อง “America’s Sweethearts” เมื่อปี 2001 จนได้มาเล่นเรื่อง “Ticket to Paradise” ประกบคู่กับ จอร์จ คลูนีย์ในปี 2022 ซึ่งโรเบิร์ตส์เปิดเผยว่าช่วงที่ผ่านมาเธอไม่เล่นหนังโรแมนติกคอมเมดี้เป็นเพราะไม่มีบทที่ดี

“คนชอบเข้าใจผิดว่าฉันไม่เล่นหนังรอมคอมเพราะฉันไม่อยากเล่น มันไม่ใช่เลย แต่เพราะไม่มีบทหนังดี ๆ ให้ฉันเล่นเลยตังหาก ถ้าฉันเจอบทที่อ่านแล้วรู้สึกว่าอยู่เลเวลเดียวกับ Notting Hill หรือสนุกจนวางไม่ลงแบบ My Best Friend's Wedding ฉันก็จะรับเล่น แต่มันไม่มีเลยนะสิ” 

 

  • สตูดิโอผู้สร้างเลิกทำหนังทุนปานกลาง

นับตั้งแต่ที่หนังซูเปอร์ฮีโร่กลายเป็นภาพยนตร์ที่ทำเงินให้แก่ค่ายหนัง ค่ายหนังส่วนใหญ่ก็หันไปให้ความสำคัญกับหนังฟอร์มยักษ์มากยิ่งขึ้น และหวังสร้างจักรวาลภาพยนตร์ไว้ทำเงินยาว ๆ สตูดิโอจึงเลิกสนใจกับหนังที่ใช้ทุนสร้างปานกลาง ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นรอมคอมและหนังผี โดยข้อมูลจาก Boxoffice Mojo ระบุว่าในปี 2017 ไม่มีหนังรอมคอมจากค่ายหนังใหญ่เข้าฉายเลยแม้แต่เรื่องเดียว แต่หนังซูเปอร์ฮีโร่กลับมีมากถึง 5 เรื่อง

นี่จึงเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้ แนนซี เมเยอร์ส ห่างหายจากการทำหนังแนวนี้ไป ทั้ง ๆ ที่ผลงานหนังรอมคอมของเธอจะทำเงินมาอย่างยาวนานมากกว่าสองทศวรรษ 

ด้านเบน แอฟเฟล็ก นักแสดงและผู้กำกับ กล่าวว่า การแพร่ระบาดของโควิด-19 ยิ่งทำให้ค่ายหนังไม่อยากเอาหนังทุนกลางเข้าฉายในโรงภาพยนตร์ เพราะคิดว่าไม่น่าทำเงินได้ หันไปทุ่มเงินโปรโมตกับหนังบล็อคบลัสเตอร์ และเอาหนังรอมคอมไปฉายในสตรีมมิงแทน

แม้ว่าสตูดิโอหนังใหญ่ ๆ ลังเลที่จะสร้างโรแมนติกคอมเมดี้ แต่ก็ยังพอมีที่ทางให้แก่หนังแนวนี้อยู่บ้าง บริการสตรีมมิงกลายเป็นผู้สนับสนุนหลักของหนังรอมคอม มีหนังรายเรื่องที่ตั้งใจจะนำไปฉายโรง แต่สุดท้ายก็กลับขายให้บริการสตรีมมิงแทน เช่น “Set It Up” (2018) ที่กลายเป็นออริจินัลคอนเทนต์ของ Netflix 

หลังจากนั้น Netflix ก็เริ่มผลิตซีรีส์และหนังแนวรอมคอมหลากหลายช่วงวัยและโอบรับความหลากหลายทางเพศเป็นของตัวเองเพื่อใช้ดึงดูดให้ผู้ชมใหม่ ๆ หันมาสมัครใช้บริการมากขึ้น

อย่างไรก็ตาม ในปี 2024 ดูเหมือนสถานการณ์หนังรอมคอมจะเริ่มดูดีขึ้น เพราะมีนักแสดงเบอร์ใหญ่หวนกลับมาเล่นหนังแนวนี้อีกครั้ง ไม่ว่าจะเป็น แอนน์ แฮททาเวย์ ในหนังเรื่อง The Idea of You กับบทบาทคุณแม่ที่บังเอิญไปมีสัมพันธ์กับศิลปินคนโปรดของลูก ส่วนนิโคล คิดแมน จับคู่กับ แซค แอฟรอนเป็นครั้งแรกใน A Family Affair ขณะที่หนังเรื่อง Irish Wish ได้ ลินด์ซีย์ โลแฮน มารับบทสาวที่ตกหลุมรักคู่หมั้นเพื่อนรัก ซึ่งก็ต้องรอดูว่าจะมีเรื่องใดที่จะสามารถสร้างความประทับใจ จนช่วยฟื้นคืนชีพหนังรอมคอมของฮอลลีวู้ดได้อีกครั้ง


ที่มา: Business InsiderLooperScreenrantVariety