Ciao Terrazza เปิดโลกความอร่อยอาหารอิตาเลียนจากทะเลสาบโคโมสู่เจ้าพระยา
โรงแรมแมนดาริน โอเรียนเต็ล กรุงเทพฯ เปิดครัวห้องอาหารอิตาเลียน Ciao Terrazza (เชาว์ เทอราซซ่า) ประจำฤดูหนาว 2565 ภูมิใจนำเสนอความอร่อยของอาหารอิตาเลียนจริตญี่ปุ่น อันเป็นลายเซ็นสุดโด่งดังของเชฟรับเชิญจากแมนดาริน โอเรียนเต็ล อิตาลี มาพร้อมวัตถุดิบพรีเมียมทั่วอิตาลี
ฤดูหนาวปี 2565 ห้องอาหาร Ciao Terrazza (เชาว์ เทอราซซ่า) ซึ่งเป็นห้องอาหารอิตาเลียนตั้งอยู่บริเวณระเบียงริมแม่น้ำเจ้าพระยาของโรงแรมแมนดาริน โอเรียนเต็ล กรุงเทพฯ สร้างประสบการณ์ใหม่ให้กับนักชิม ด้วยการเปิดครัวต้อนรับ เชฟมาสสิมิเลียโน บลาโซเน (Massimiliano Blasone) หัวหน้าพ่อครัวประจำห้องอาหาร L~ARIA (ลาเรีย) เชฟดังจากโรงแรมแมนดาริน โอเรียนเต็ล ลาโก ดิ โคโม (Mandarin Oriental, Lago di Como) ตั้งอยู่ที่ทะเลสาบโคโม ทางตอนเหนือของประเทศอิตาลี ซึ่งเชฟมาสสิมิเลียโนให้เกียรติมาเป็นเชฟรับเชิญตั้งแต่วันที่ 1 – 15 ธันวาคม 2565
ความน่าสนใจอยู่ตรงที่ เชฟมาสสิมิเลียโน มีชื่อเสียงเป็นอย่างมากในการนำเสนอความอร่อยของอาหารอิตาเลียนที่มีกลิ่นไอตะวันออกสอดแทรกอยู่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งคือการนำเทคนิคการปรุงอาหารแบบญี่ปุ่นมาผสมผสานอย่างกลมกลืนและเป็นเอกลักษณ์
มาทำความรู้จัก “เชฟมาสสิมิเลียโน” กันสักนิด ทำไมเขาจึงมีความสามารถในการสร้างสรรค์อาหารอิตาเลียนในรูปแบบที่ผสานกับเทคนิคการปรุงอาหารแบบญี่ปุ่น ซึ่งทำให้เขาโด่งดังทั่วอิตาลีชั่วข้ามคืน
ก่อนที่เชฟมาสสิมิเลียโนจะมาร่วมงานกับโรงแรมแมนดาริน โอเรียนเต็ล ลาโก ดิ โคโม เขามีโอกาสร่วมงานอย่างใกล้ชิดกับเชฟที่มีชื่อเสียงระดับโลกหลายท่าน ทำให้สไตล์การสร้างสรรค์อาหารของเขานั้นได้รับอิทธิพลมาจากประสบการณ์การร่วมงานกับเชฟที่มีชื่อเสียงเหล่านั้น และเชฟบางท่านก็ยังเป็นแรงบันดาลใจให้เขาริเริ่มการนำเสนอ อาหารอิตาเลียนที่แตกต่างไปจากเดิม ทั้งหมดนี้ส่งผลให้เชฟมาสสิมิเลียโนเป็นที่รู้จักในเรื่องของการนำเสนออาหารอิตาเลียนที่ประณีตและมีจริตของอาหารญี่ปุ่นสอดแทรกอยู่
เชฟมาสสิมิเลียโน บลาโซเน และทีมงานจากห้องอาหาร L~ARIA อิตาลี
ในเดือนธันวาคมนี้ เชฟมาสสิมิเลียโนให้เกียรติมาเป็นเชฟรับเชิญ และปรุงอาหารเคียงบ่าเคียงไหล่กับ เชฟดาริโอ บุสเนลลี่ หัวหน้าเชฟประจำห้องอาหาร เชาว์ เทอราซซ่า โดยเชฟมาสสิมิเลียโนจะนำนักชิมทุกท่านเดินทางจากแม่น้ำเจ้าพระยาสู่ทะเลสาบโคโม ประเทศอิตาลี ผ่านความอร่อยจากอาหารค่ำแบบ เซตเมนู 9 คอร์ส
เซตเมนูนี้เป็นการนำรายการอาหารจานเด่นของเขามาจัดเป็นเซต โดยแต่ละคอร์สจะเสิร์ฟในขนาดพอดีคำเพื่อให้ทุกท่านได้เปิดประสบการณ์ความอร่อยกับอาหารของเขาได้หลากหลายเมนูในมื้อเดียว ด้วยวัตถุดิบชั้นเลิศของอิตาลีตั้งแต่เหนือจรดใต้ จากผืนป่าสู่ท้องทะเล ร่วมกับสุดยอดวัตถุดิบของยุโรป
Grissini (ซ้าย) และขนมปังประจำโต๊ะอาหารอิตาเลียน
เชฟมาสสิมิเลียโนเริ่มต้นพานักชิมมุ่งหน้าขึ้นสู่ภาคเหนือของอิตาลีด้วย Grissini (กริสสินี่) ขนมปังประจำโต๊ะอาหารอิตาเลียนทางตอนเหนือของประเทศ รูปลักษณ์เหมือนขาไก่แต่บิดเป็นเกลียว ทำจากแป้ง pizza dough ผสมน้ำมันมะกอก เกลือ น้ำตาล น้ำอุ่น ยีสต์ ด้วยสัดส่วนที่ทำให้ "กริสสินี่" กรอบ เบา รสชาติกำลังดี กินเปล่าๆ ก็อร่อย จิ้มน้ำมันมะกอกที่เสิร์ฟมาในถ้วยเล็กๆ เฉพาะบุคคลก็ดีไปอีกแบบ
ใครที่คิดถึง “ตะกร้าขนมปัง” ของห้องอาหาร เชาว์ เทอราซซ่า อาทิ เซียบัตตา (Ciabatta) ผิวนอกกรอบ เนื้อขนมปังนุ่มเป็นรูพรุน, ฟอคคาเซีย (Focaccia) นุ่มชุ่มเนย ก็ยังมีบริการเคียงกัน
Red prawn, carasau bread, coral beans
เชฟมาสสิมิเลียโน เปิดเซตเมนูคอร์สแรกด้วย Red prawn, carasau bread, coral beans เมนูนี้นำเสนอวัตถุดิบซิกเนเจอร์จาก 2 เกาะใหญ่กลางทะเลเมดิเตอร์เรเนียนของอิตาลี คือ red prawn กุ้งทะเลน้ำลึก สัญลักษณ์วัตถุดิบชั้นเลิศของเกาะซิลิลีทางตอนใต้ของอิตาลี เป็นที่ต้องการของภัตตาคารอาหารทะเลชั้นนำทั่วยุโรป
เชฟนำ red prawn มาเสิร์ฟแบบซาชิมิ คู่กับ carasau bread ขนมปังแผ่นบางกรอบแห่งเกาะซาร์ดิเนีย
Seabass carpaccio with black truffle
Beetroot salad
คอร์สที่ 2 เป็นอาหารจานปลา Seabass carpaccio with black truffle เนื้อปลากะพงขาวแล่เป็นแผ่นหนากำลังดีให้เคี้ยวได้ความเป็นเนื้อปลา คลุกเคล้ากับเดรสซิ่งน้ำส้มสายชูบัลซามิกและเกล็ดเนื้อส้มยูสุ รสชาติเปรี้ยวกลมกล่อม โดยมีความนุ่มหอมของเห็ดทรัฟเฟิลดำฝานเป็นแผ่นบางๆ ช่วยซึมซับความขลุกขลิกของเดรสซิ่ง เสิร์ฟคู่กับ Beetroot salad บีทรูทหั่นชิ้นพอคำในเดรสซิ่ง
Scottish salmon capers, citrus fruit
ผักโขมลวกในซอสงาขาว
คอร์สที่ 3 เปิดประสบการณ์ต่อด้วย Scottish salmon capers, citrus fruit, spinach, citrus, sesame sauce แซลมอนที่จับมาจากแหล่งน้ำธรรมชาติในเขต highland ของสกอตแลนด์ ได้ชื่อว่าเป็นแอตแลนติกแซลมอนเกรดพรีเมียม
น้ำที่เย็นจัดและกระแสน้ำที่ไหลแรงทำให้ปลาแซลมอนแข็งแรงและมีไขมัน(ที่ดี)สูง ปริมาณไขมันที่สูงกว่าของ Scottish salmon ให้ความรู้สึกเหมือนเนยที่นุ่มละมุนอยู่ในปาก
เชฟมาสสิมิเลียโนเสิร์ฟเนื้อปลา Scottish salmon แบบซาชิมิ เพิ่มรสชาติด้วยซอสพอนสึผสมผลไม้รสเปรี้ยวที่ราดมาเหมือนซอสเกรวี่ จานข้างเคียงเป็นผักโขมลวกในซอสงาขาวรสเปรี้ยว (Spinach, citrus, sesame sauce)
Ciao Salad
ก่อนเข้าสู่เมนคอร์ส เชฟเคลียร์รสชาติในปากด้วย Ciao Salad ยอดอ่อนของผักสลัดหลายชนิด เดรสซิ่งมีส่วนผสมของขิงเบาๆ
Maccheroncino, Boston lobster, thyme, tomatoes, almond pesto
อุ่นเครื่องเมนคอร์สด้วย Maccheroncino, Boston lobster, thyme, tomatoes, almond pesto ส่วนผสมระหว่างผืนแผ่นดินกับมหาสมุทร มะกะโรนีท็อปด้วยเนื้อนุ่มแน่นของบอสตันล็อบสเตอร์ราดด้วยซอสโหระพาอัลมอนด์ที่ให้ทั้งสีเขียวสวยและมีความครีมมี่ของอัลมอนด์
คอร์สนี้แปลกตาด้วย Maccheroncino พาสต้าประเภทมะกะโรนีที่ตัวใหญ่มาก มีรูปร่างคล้ายท่อเลยทีเดียว ทำจากแป้งข้าวสาลีดูรัม (durum) นำมาจากอิตาลีโดยตรงเพื่อเซ็ตเมนูนี้โดยเฉพาะ
ขนาดของ Maccheroncino ช่วยทอนรสชาติอันเข้มข้นของซอสโหระพาอัลมอนด์ กินแล้วเข้ากันพอดี ทั้งยังได้ความหนึบของพาสต้าและความนุ่มของล็อบสเตอร์ในคำเดียว
Tiger prawn with spicy citrus fruit
จานต่อมาเป็นเมนู Tiger prawn with spicy citrus fruit กุ้งลายเสือย่าง แกะเปลือกมาให้เรียบร้อย เสิร์ฟกับซอสข้นผลไม้รสเปรี้ยวเจือความเผ็ดเล็กน้อย และมะนาวเหลืองชิ้นโตย่างมานิดหน่อย ทำให้บีบได้ง่ายขึ้น เพิ่มกลิ่นหอมสดชื่น เหมือนได้กินกุ้งกับน้ำจิ้มซีฟู้ด แต่รสชาติละมุนสบายปาก ไม่เผ็ดร้อนแบบไทย
คอร์สนี้ยังเสิร์ฟพร้อม tomatoes-grilled eggplant เครื่องเคียงจานเล็กๆ อีกหนึ่งจาน มะเขือเทศสด กรอบหวานตามธรรมชาติ และมะเขือม่วงย่างในเดรสซิ่งแบบญี่ปุน
Iberico pluma pork with black truffle
green asparagus, apple
ปิดท้ายสำหรับเมนคอร์สด้วย Iberico pluma pork with black truffle สเต็กเนื้อหมูพลูมาอิเบริโก ย่างมาแบบสุกกำลังดี เนื้อนุ่มชุ่มฉ่ำ ท็อปด้วยเห็ดทรัฟเฟิลดำฝาน เกรวี่เป็นซอสครีมมี่ข้นแบบญี่ปุ่น อร่อยจนต้องหยิบขนมปังในตะกร้ามาเช็ดให้เกลี้ยงจาน
ผักข้างเคียงที่เสิร์ฟพร้อมสเต็กหมูพลูมาอิเบริโก เชฟมาสสิมิเลียโนเลือกเป็น green asparagus, apple แอสพารากัสย่างกับซอสพอนสึแอปเปิลเขียว
พลูมา (pluma) ในภาษาสเปนแปลว่า “ขนนก” Iberico pluma pork จึงหมายถึงเนื้อหมูดำสเปนที่มีความนุ่มดุจขนนก นั่นก็คือเนื้อซี่โครงส่วนที่ถัดลงไปจากสันคอทั้งสองด้าน มีรูปร่างเป็นสามเหลี่ยม ขนาดประมาณฝ่ามือ มีไขมันแทรกอยู่ในกล้ามเนื้อ จึงให้เนื้อสัมผัสและรสชาติที่ยอดเยี่ยม
Strawberry crostatina
ปิดท้ายด้วยคอร์สของหวาน Strawberry crostatina ไอศกรีมวานิลลาในแป้งขนมพายแบบอิตาเลียนและสตรอว์เบอร์รี่สด จบด้วยเครื่องดื่มชาหรือกาแฟ
เซตเมนูพิเศษฝีมือการรังสรรค์โดยเชฟมาสสิมิเลียโนเป็นการนำเสนออาหารอิตาเลียนที่เป็นเอกลักษณ์ของเขา และเป็นสไตล์ที่ทำให้เชฟมาสสิมิเลียโนมีชื่อเสียง อาหารค่ำแบบเซตเมนู 9 คอร์สโดยเชฟรับเชิญนี้มีให้บริการเพียงสองสัปดาห์ ตั้งแต่วันที่ 1 – 15 ธันวาคม 2565 สำหรับเมนูปกติของ Ciao Terrazza ก็ยังคงมีให้บริการตามปกติ
Ciao Terrazza โรงแรมแมนดาริน โอเรียนเต็ล กรุงเทพฯ
เปิดประสบการณ์การเดินทางสู่ทะเลสาบโคโมภายในหนึ่งมื้ออาหาร โดยมีเชฟมาสสิมิเลียโนเป็นผู้สร้างสรรค์การเดินทางของรสชาติความอร่อยในทริปนี้ ณ ห้องอาหาร เชาว์ เทอราซซ่า เปิดให้บริการเฉพาะ มื้อค่ำ ตั้งแต่วันจันทร์ - วันอาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 17.00 – 23.00 น.
ติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมและสำรองที่นั่ง กรุณาโทร.0 2659 9000 หรือ อีเมล [email protected] สำรองที่นั่งทางออนไลน์ กรุณาสำรองผ่าน เว็บไซต์โรงแรมแมนดาริน โอเรียนเต็ล กรุงเทพฯ