ฟินเบา ๆ กับเครื่องดื่มคลายร้อน 'Espresso Tonic'

ฟินเบา ๆ กับเครื่องดื่มคลายร้อน 'Espresso Tonic'

'Espresso Tonic' หนึ่งในเครื่องดื่มเย็นที่เหมาะกับหน้าร้อนสุด ๆ ตัวหนึ่ง เติมความซ่าสดชื่นให้กับการดื่มกาแฟได้ง่าย ๆ จะทำเองที่บ้านหรือนั่งฟิน ๆ ตามร้านก็ได้

ใครรู้สึกเหมือนผู้เขียนบ้างไหมครับว่าฤดูร้อนในบ้านเรามันร้อนเหลือจะทนทานจริง ๆ แถมอากาศยังมีปัญหาจากฝุ่นพิษ PM 2.5  เข้ามาซ้ำเติมอีก ร่างกายและจิตใจต้องการความสดชื่นแบบสุด ๆ เมนูกาแฟทั้งยามเช้าพ่วงยามบ่ายจึงต้องปรับเปลี่ยนไปเป็นสูตรเย็นแทบจะทุกวัน มีเพื่อนทักมาว่าถ้าชอบดื่ม 'อเมริกาโน่เย็น' เพื่อดับกระหาย ก็น่าจะลองเมนูที่เรียกว่า 'เอสเพรสโซ่ โทนิค' ดูบ้าง รับรองได้ทั้งความสดชื่นบวกความซ่า แบบว่าขมหน่อยแต่เข้มได้ฟิน

'เอสเพรสโซ่ โทนิค' (Espresso Tonic) เป็นหนึ่งในเมนูกาแฟเย็นที่เหมาะกับหน้าร้อนสุด ๆ ตัวหนึ่ง จัดอยู่ในกลุุ่ม 'ม็อกเทลกาแฟ' (Mocktail Coffee) ไม่ใช่ค็อกเทลกาแฟซึ่งมีส่วนผสมของแอลกอฮอล์รวมอยู่ด้วย สูตรกาแฟตัวนี้มีอายุอานามไม่ถึงกับใหม่อะไรนัก ถือกำเนิดเกิดขึ้นครั้งในกลุ่มประเทศสแกนดิเนเวีย ค่อย ๆ กลายมาเป็นเครื่องดื่มหลักของร้านกาแฟยุโรปอย่างช้า ๆ ตามด้วยอเมริกาเหนือ และญี่ปุ่น

ก่อนขยับมาเป็นเมนูประจำฤดูร้อนของเมืองหนาว และเมนูถาวรของประเทศเมืองร้อน ทั้งในร้านกาแฟเกรดพรีเมี่ยมและแบบสเปเชียลตี้ทั่วโลก รวมไปถึงร้านกาแฟเมืองไทยเราด้วย แล้วก็มีการปรับปรุงสูตรกันมากมายหลายสูตร เช่น ใส่น้ำเชื่อมกลิ่นรสต่าง ๆ ลงไปผสม เป็นต้น

ส่วนผสมก็ไม่ได้มีมากมายอะไร แค่กาแฟเอสเพรสโซ่, น้ำแข็งก้อน และโทนิคซึ่งเป็นน้ำเปล่าอัดแก๊ส ก็ทำได้แล้ว จะท็อปปิ้งหน้าด้วยเปลือกมะนาวเลม่อนฝานหรือเปลือกส้มแมนดารินฝาน เพื่อเพิ่มความหอมก็ได้ เรียกว่าเป็น 'เครื่องดื่มคลายร้อน' ในระดับที่ฟินเบา ๆ สามารถทำเองได้ง่าย ๆ ที่บ้าน หรือจะออกนอกบ้านไปนั่งจิบคลายร้อนตามร้านกาแฟก็ย่อมได้

ฟินเบา ๆ กับเครื่องดื่มคลายร้อน \'Espresso Tonic\' ส่วนผสมหลัก ๆ ของเอสเพรสโซ่ โทนิค ประกอบด้วยกาแฟเอสเพรสโซ่, น้ำแข็งก้อน และโทนิค  (ภาพ : pexels.com/Lucie Liz)

ด้วยความเรียบง่ายของกาแฟเย็นสูตรนี้ที่มีส่วนผสมหลัก ๆ จากเอสเพรสโซ่กับโทนิค จึงถูกนำไปเปรียบเทียบว่าเป็นการดีไซน์เมนูกาแฟตามวิถี Scandi minimalism อันเป็นสไตล์การออกแบบสินค้าอุปโภคบริโภคและการตกแต่งบ้านจากประเทศแถบสแกนดิเนเวีย ที่เน้นให้ความสำคัญกับความเรียบง่าย, การใช้งานจริงที่ไม่ซับซ้อน และตัดทอนสิ่งที่ไม่จำเป็นออกไป

ขณะที่ 'โทนิค' ได้รับการจดสิทธิบัตรครั้งแรกที่อังกฤษในปีค.ศ.1858 ในฐานะเครื่องดื่มอัดแก๊สซ่าที่มีรสขมผสมควินินเล็กน้อย ที่สมัยก่อนใช้รักษาโรคมาลาเรีย ปัจจุบันนิยมใช้ผสมเพื่อทำค็อกเทลสูตรคลาสสิก เช่น จิน โทนิค  ส่วน 'เครื่องชงเอสเพรสโซ่' ถูกประดิษฐ์ขึ้นเป็นครั้งแรกที่อิตาลีเมื่อปี 1905 แต่กว่ามีจะคนจับคู่เอสเพรสโซ่กับโทคนิคแล้วสร้างเป็นเครื่องดื่มแนวใหม่ก็ต้องรอจนถึงค.ศ. 2007 หรือ 17 ปีที่แล้ว

ตามข้อมูลที่เผยแพร่กันโดยทั่วไปนั้น เครื่องดื่มเอสเพรสโซ่ โทนิค ถูกคิดค้นขึ้นเป็นครั้งแรกในปีค.ศ. 2007 จากไอเดียหนึ่งในเพื่อนร่วมงานของ 'แอนเน่ ลุนเนลล์' กับ 'ชาร์ล นีย์สแตรนด์' ซึ่งตอนนั้นทั้งสองทำงานเป็นบาริสต้าอยู่ที่ออสโล เมืองหลวงของนอร์เวย์  โดยเพื่อนร่วมงานได้ทำเครื่องดื่มกาแฟสำหรับงานเลี้ยงพนักงาน นำโทนิคผสมกับน้ำเชื่อมเล็กน้อยแล้วใส่เอสเพรสโซลงไป ซึ่งแอนเน่บอกว่าเป็นเครื่องดื่มที่ให้ความรู้สึกสดชื่นและอร่อย

ฟินเบา ๆ กับเครื่องดื่มคลายร้อน \'Espresso Tonic\' เอสเพรสโซ่ เป็นกาแฟพื้นฐานที่นำไปสร้างเครื่องดื่มได้มากมาย รวมไปถึงสูตรกาแฟม็อกเทลด้วย  (ภาพ : Jason Betz on Unsplash)

ก่อนที่ในอีกหนึ่งปีต่อมา แอนเน่และชาร์ลส์จะร่วมกันเปิดโรงคั่วพ่วงร้านกาแฟที่ชื่อว่า 'ค็อปปี้ โรสเตอร์ส' (Koppi Roasters) ในเฮลซิงบอร์ก เมืองท่องเที่ยวของสวีเดน และนำไอเดียเครื่องดื่มของเพื่อนไปปรับปรุงใหม่ ก่อนบรรจุเข้าเป็นเมนูประจำร้าน ใช้ชื่อว่า คัฟเฟ่ & โทนิค (Kaffe & Tonic) ถือเป็นเมนูดังประจำร้านเลยทีเดียว

แอนเน่ ลุนเนลล์ เป็นบาริสต้าที่ชื่อเสียงจากสวีเดน เคยคว้าแชมป์บาริสต้าของประเทศมาแล้วในปีค.ศ. 2006 คว้าอันดับ 4 จากรายการเวิลด์ บาริสต้า แชมเปี้ยนชิพ และเป็นแชมป์บรูเออร์ คัพ 2016 ของสวีเดน ขณะที่ชาร์ล นีย์สแตรนด์ เคยเป็นแชมป์บาริสต้าสวีเดนประจำปี 2005 ตอนนี้ทั้งสองคนยังคงมีสถานะเป็นเจ้าของโรงคั่วกาแฟค็อปปี้ โรสเตอร์ส ส่วนบาร์กาแฟนั้นปิดไปตั้งแต่ปลายปีค.ค. 2017

ในช่วงกลางทศวรรษ 2010 เครื่องดื่มเอสเพรสโซ่ โทนิค ได้แพร่เข้าสู่วัฒนธรรมกาแฟในอเมริกาเหนือ ผลมาจากการแข่งขันบาริสต้าระดับนานาชาติ 

ฟินเบา ๆ กับเครื่องดื่มคลายร้อน \'Espresso Tonic\' โฉมหน้าเอสเพรสโซ่ โทนิค ต้นตำรับจากโรงคั่วค็อปปี้ โรสเตอร์ส ในเฮลซิงบอร์ก เมืองท่องเที่ยวของสวีเดน  (ภาพ : facebook.com/koppiroasters)

ในญี่ปุ่น กาแฟที่มีต้นกำเนิดจากสแกนดิเนเวียกลายเป็นที่นิยมในร้านกาแฟฮิปสเตอร์นับจากปีค.ศ. 2015 เป็นต้นมา ก่อนหน้านั้นยักษ์ใหญ่วงการกาแฟอย่าง 'เนสกาแฟ' กับ 'ซันโตรี่' เคยลองวางกาแฟอัดแก๊ส (carbonated coffee) แบบบรรจุกระป๋องในตลาดมาก่อน แต่ไม่ประสบผลสำเร็จเท่าที่ควร แต่อาจต้องขอบคุณช็อตเอสเพรสโซที่มีคุณภาพ เอสเพรสโซ่โทนิคจึงกลายเป็นที่นิยมตามร้านกาแฟพิเศษในญี่ปุ่น โดยเฉพาะช่วงหน้าร้อน จากนั้นไม่นาน แฟรนไชส์กาแฟรายใหญ่ก็ตามรอยมาอย่างไม่พลาด

ปีค.ศ. 2019 'คัฟเฟ่ เนโร' เครือร้านกาแฟสัญชาติอังกฤษ ร่วมมือกับบริษัทผลิตโทนิคชื่อ 'ฟีเวอร์ ทรี' ผลิตเอสเพรสโซ่ โทนิค ในแบบเครื่องดื่มบรรจุกระป๋องออกจำหน่ายในร้านกาแฟแดนผู้ดีรายนี้

มาถึงปีค.ศ. 2023 'คาริบู คอฟฟี่' เชนร้านกาแฟจากรัฐมินิโซต้าของสหรัฐ เปิดตัวเอสเพรสโซ่ โทนิค แบบบรรจุกระป๋องถึง 2 รสชาติด้วยกัน เป็นเมนูประจำฤดูร้อนในตลาดอเมริกาเหนือ อันได้แก่ คลาสสิค เอสเพรสโซ่ โทนิค กับ เชอรี่ พีช เอสเพรสโซ่ โทนิค ใช้โทนิคเกรดพรีเมี่ยมจากค่ายฟีเวอร์ ทรี

ฟินเบา ๆ กับเครื่องดื่มคลายร้อน \'Espresso Tonic\' เอสเพรสโซ่ โทนิค เสิร์ฟในแก้วทรงกลมจากร้านซีนีม่า คอฟฟี่ โรสเตอร์ส ในประเทศญี่ปุ่น  (ภาพ : instagram.com/cinemacoffeeroasters)

ในโพสต์เปิดตัวผลิตภัณฑ์ในอินสตาแกรม คาริบู คอฟฟี่ เรียกเอสเพรสโซ่ โทนิค ว่า 'ม็อกเทลแห่งโลกกาแฟ' พร้อมบรรยายสรรพคุณว่าการเติมโทนิคลงในเอสเพรสโซ่นั้น ให้รสชาติกาแฟที่สดชื่นอย่างมีเอกลักษณ์ ตัดกับความเข้มข้นแบบดั้งเดิมของเอสเพรสโซ่อย่างลงตัว

ส่วน 'สูตร' เอสเพรสโซ่ โทนิค ซึ่งเป็นครื่องดื่มม็อกเทลที่ปรับแต่งได้ไม่รู้จบและดื่มง่ายตลอดทั้งปีในประเทศเมืองร้อน โดยทั่วไปจะเติมน้ำโทนิคลงในแก้วที่มีน้ำแข็งก้อน แล้วราดช้า ๆ ด้วยเอสเพรสโซหนึ่งช็อต สร้างเป็นเครื่องดื่มสองเลเยอร์ กาแฟสีเข้มจะแยกออกจากน้ำโทนิคที่สว่างและใส ตกแต่งด้านบนแก้วด้วยเปลือกมะนาวฝาน, เปลือกส้มฝาน หรือใบสะระแหน่ แล้วยกเครื่องดื่มขึ้นจิบ เป็นอันเสร็จสิ้นพิธีกรรม

การเติมเอสเพรสโซ่ลงไปทีหลัง จะทำให้เกิดเครื่องดื่มที่แยกเป็นสองเลเยอร์อย่างที่บอกไปแล้ว แต่หากเทน้ำโทนิคลงบนเอสเพรสโซ่ร้อน ๆ แทน ก็จะได้ฟองกาแฟฟู ๆ บนหน้าแก้ว ดูเก๋ไก๋ไปอีกแบบหนึ่ง หรือชอบกลิ่นรสแบบไหน อาจก็ปรับแต่งได้ด้วยใส่ไซรัปลงไป เช่น กลิ่นรสเชอรี่, ส้ม, มะนาว หรือน้ำผึ้ง

สำหรับ 'สัดส่วน' ที่เหมาะสมระหว่างเอสเพรสโซ่กับโทนิคนั้นอาจแตกต่างกันไปบ้าง แต่ส่วนใหญ่นิยมใช้เอสเพรสโซ่ 1 ส่วนต่อโทนิคอย่างน้อย 3 ส่วน เช่น หากใช้เอสเพรสโซ่ดับเบิลช็อตในปริมาณ 2 ออนซ์ ก็ใช้น้ำโทนิค 6-8 ออนซ์ โดยสัดส่วนนี้ปรับได้ตามความชอบ เพื่อค้นหาความสมดุลที่เหมาะสมของแต่ละคนแต่ละการดีไซน์

ฟินเบา ๆ กับเครื่องดื่มคลายร้อน \'Espresso Tonic\' ระดับการคั่วของเมล็ดกาแฟที่ใช้กับเอสเพรสโซ่ โทนิค ไม่ได้กำหนดไว้ตายตัว ขึ้นอยู่กับการออกแบบรสชาติเครื่องดื่มเป็นสำคัญ  (ภาพ : Felix Wagner on Unsplash)

ระดับการคั่วของเมล็ดกาแฟที่ใช้กับเอสเพรสโซ่ โทนิค ไม่ได้กำหนดไว้ตายตัว ขึ้นอยู่กับการออกแบบว่าอยากได้รสชาติเครื่องดื่มแบบไหน กลุ่มลูกค้าคือใคร

ถ้าเป็นสูตร 'ต้นตำรับ' ของค็อปปี้ โรสเตอร์ส นั้น แอนเน่ ลุนเนลล์ เคยแจกแจงวิธีทำไว้ในเว็บไซต์ europeancoffeetrip.com เธอเน้นย้ำถึงความสำคัญของ 'น้ำแข็ง' โดยบอกว่า ข้อผิดพลาดที่พบบ่อยที่สุดที่เห็นคือการใช้น้ำแข็งน้อยเกินไป ส่วนวิธีชงเอสเพรสโซ่ โทนิค มีสามขั้นตอนง่าย ๆ ดังนี้

1. เติมน้ำแข็งลงในแก้วไซส์ใหญ่ (350 มล.) จนถึงขอบแก้ว

2. เทโทนิคเกรดดีลงในแก้วแล้วพักไว้ จากนั้นก็ไปเตรียมเอสเพรสโซ่ ด้วยวิธีนี้ โทนิคจะเริ่มเย็นขึ้นจากการแช่น้ำแข็ง เติมไซรัปกลิ่นรสต่าง ๆ ได้หากต้องการ

3. เตรียมช็อตเอสเพรสโซ่จากเมล็ดกาแฟคั่วที่มีกลิ่นรสโทนผลไม้ นำไปเทเบา ๆ ลงในแก้ว แล้วเสิร์ฟทันที โดยปกติจะเสิร์ฟพร้อมกับมะนาวฝาน 2-3 ชิ้น

โทนิคที่ค็อปปี้ โรสเตอร์ส เลือกใช้เป็นสูตรเมดิเตอร์เรเนียน โทนิค ของฟีเวอร์ ทรี ส่วนเมล็ดกาแฟใช้ของเอธิโอเปียหรือเคนย่า ซึ่งแอนเน่ไม่ได้ระบุลงไปว่าเป็นคั่วอ่อนหรือคั่วกลาง อย่างที่ไม่ได้เจาะจงลงไปว่าใช้ปริมาณโทนิคเท่าไรต่อการชงเครื่องดื่มหนึ่งแก้ว เข้าใจว่าเธออยากให้ไปค้นหากันเอง(หรือเปล่า)

ฟินเบา ๆ กับเครื่องดื่มคลายร้อน \'Espresso Tonic\' เอสเพรสโซ่ โทนิค ในแบบบรรจุกระป๋องของคาริบู คอฟฟี่ ที่ผลิตออกมาเป็นเมนูประจำฤดูร้อนในตลาดอเมริกาเหนือ  (ภาพ : facebook.com/cariboucoffee)

ในร้านกาแฟพิเศษหลาย ๆ แห่ง ไม่เลือกที่จะแต่งกลิ่นเครื่องดื่มด้วยกลิ่นรสต่าง ๆ แต่เลือกใช้เมล็ดกาแฟแบบ 'ซิงเกิ้ล ออริจิ้น' แทน เพื่อให้สำแดงกลิ่นรสตามธรรมชาติ จะเป็นเมล็ดกาแฟคั่วอ่อนหรือคั่วกลางที่ให้กลิ่นรสในแบบดอกไม้, ผลไม้ หรือสมุนไพร ได้ทั้งนั้น

ในญี่ปุ่นเองเดิมทีนั้น เสิร์ฟเอสเพรสโซ่ โทนิค ในแก้วแบบคอลลินส์ พร้อมหลอดดื่ม แต่ระยะหลังไม่กี่ปีที่ผ่านมา ตามร้านกาแฟพิเศษ เริ่มปรับไปใช้แก้วทรงต่าง ๆ ตามการออกแบบเครื่องดื่ม เช่น ร้านควบโรงคั่วกาแฟเล็ก ๆ แต่นารักที่ชื่อ 'ซีนีม่า คอฟฟี่ โรสเตอร์ส' ในจังหวัดเฮียวโกะ นำแก้วทรงกลมมาใช้เสิร์ฟ น่าจะถูกใจสำหรับผู้ที่ไม่ชอบเครื่องดื่มแก้วใหญ่ ๆ

สำหรับเอสเพรสโซ่ โทนิค แล้ว บางคนบอกว่านี่คือกาแฟเย็นทางเลือกที่ดื่มแล้วสดชื่นที่สุดยามอากาศร้อน ๆ แต่จะเชื่อหรือไม่เชื่อ  ใช่หรือไม่ใช่ ต้องไปทดลองดื่มกันดูเองแล้วล่ะครับ!

...............................

เขียนโดย : ชาลี วาระดี