‘ไวน์ออสเตรีย’ หนึ่งในจอมยุทธ์ของ ‘ไวน์ยุโรป’
ในเมืองไทย มีไวน์ออสเตรียมากกว่า 50 แบรนด์ ‘ไวน์ออสเตรีย’ นั้นไม่ธรรมดา เป็นชาติเล็ก ๆ แต่ผลิตไวน์ได้อย่างน่าอัศจรรย์ มีพื้นที่ปลูกองุ่นประมาณ 113,000 เอเคอร์ มีผู้ปลูกองุ่น 23,000 ราย ถือเป็นหนึ่งในจอมยุทธ ‘ไวน์ยุโรป’
ไวน์ออสเตรีย ส่วนใหญ่เป็นไวเนอรีขนาดเล็กแบบครอบครัว ที่ทำกันมายาวนานหลายศตวรรษ ขณะที่ไวน์ระดับคุณภาพทำจากพันธุ์องุ่น 35 พันธุ์ ที่ได้รับอนุญาตอย่างเป็นทางการ
ไวน์ที่ออสเตรียผลิตได้เป็นไวน์ขาว 63% องุ่นหลักคือกรือเนอร์ เฟลท์ลิเนอร์ (Grüner Veltliner) ประมาณ 37% ตามด้วยเวลส์รีสลิ่ง (Welschriesling) ไวน์แดงประมาณ 15% ทำจากองุ่นซไวเกลท์ (Zweigelt) ซึ่งเป็นองุ่นที่เพิ่งเกิดมาเมื่อศตวรรษที่ 20 ขณะที่เบลาฟรานคิสช์ (Blaufrankisch) ซึ่งปลูกมานานมี 8% ถือว่ามากที่สุด
ออสเตรียอยู่ในอันดับที่ 16 ของประเทศผู้ผลิตไวน์มากที่สุดในโลก
ไวเนอรีใน Poysdof
หลังจากเริ่มปลูกองุ่นต้นแรกตั้งแต่ศตวรรษที่ 4 ก่อนคริสต์ศักราช และพบว่าองุ่นพื้นเมืองอย่าง กรูเนอร์ เวลท์ไลเนอร์ และเบลาฟรานกิสช์ ดังกล่าวมีการปลูกมาตั้งแต่สมัยโรมัน
ชาวเซลต์ (Celt) ปลูกองุ่นต้นแรกในออสเตรีย แต่มาเริ่มเติบโตมากในยุคกลางโดยพระในคริสตจักร ต่อมาอำนาจทางการเมืองของออสเตรียที่กว้างกระจาย ทำให้อิทธิพลของการปลูกองุ่นครอบคลุมไปทั่วยุโรปกลาง ภายใต้จักรวรรดิออสเตรีย-ฮังการี
มรดกสำคัญที่ออสเตรียสร้างไว้และดำเนินมาจนถึงทุกวันนี้คือ การวิจัยและการทดลองใน โรงเรียนสอนไวน์ ที่คลอสเตอร์นอยบวร์ก (Klosterneuburg) ใกล้ ๆ กับกรุงเวียนนา ในปี 1860
หลังสงครามโลกครั้งที่ 1 ขนาดของประเทศลดลง ออสเตรียอาศัยรายได้จากการท่องเที่ยว การเติบโตของอุตสาหกรรมไวน์ถูกลดบทบาทลงไป ก่อนจะกลับมาเติบโตอีกครั้งในช่วง 2 ทศวรรษที่ผ่านมา
ศตวรรษที่ 20 ไวน์ออสเตรียเข้าสู่ระบบอุตสาหกรรมอีกก้าวหนึ่ง และเริ่มเป็นธุรกิจมากขึ้น เมื่อมีการขายน้ำไวน์แบบถังใหญ่ ๆ (Bulk) ไปยังเยอรมนี ปี 1986 มีการก่อตั้ง The Austrian Wine Marketing Board เพื่อทำการตลาดไวน์ออสเตรียอย่างจริงจัง
เขตผลิตไวน์ของออสเตรีย
หลังจากการเข้าร่วมกับสหภาพยุโรปหรืออียู (EU) ทำให้การจัดเกรดไวน์ของออสเตรียมี 3 ระบบ คือ ระบบดั้งเดิม ที่อ้างอิงระบบของเยอรมนี, การจัดเกรดของเขตวาเคาโดยเฉพาะ และระบบใหม่ทันสมัยควบคุมเขตผลิตคล้าย ๆ เอโอซีของฝรั่งเศส เรียกว่า Districtus Austriae Controllatus = DAC ปัจจุบันมี 17 DAC ล่าสุดคือ วากราม (Wagram) ที่เริ่มผลิตไวน์ภายใต้กฎใหม่ตั้งแต่วินเทจ 2021 เป็นต้นมา
องุ่นเขียวประจำชาติ กรือเนอร์ เฟลท์ลิเนอร์
การที่ประเทศออสเตรียมีโรงเรียนสอนไวน์และศูนย์วิจัยด้านไวน์ที่ คลอสเตอร์นอยบวร์ก ทำให้ได้องุ่นที่เกิดจากการปรับปรุงสายพันธุ์ สายพันธุ์ที่สำคัญที่สุดจนแทบจะเรียกได้ว่าเป็นองุ่นเขียวประจำชาติคือ กรือเนอร์ เฟลท์ลิเนอร์ นอกจากนั้นยังมี เบลาแฟรงคิสช์ (Blaufränkisch) ที่ทำไวน์ได้ดีในเขตเบอร์กึนแลนด์ (Burgenland) พรมแดนติดฮังการี
และ ซไวเกลท์ (Zweigelt) องุ่นแดงที่เกิดผสมข้ามสายพันธุ์ระหว่างองุ่นแดงเซนต์ ลอเรนท์ (St. Laurent) กับเบลาแฟรงคิสช์ (Blaufränkisch) โดย ดร.เฟรดริช ซไวเกลท์ (Dr.Friedrich Zweigelt) ในปี 1922
ไร่องุ่นในเขตคาเวา
ออสเตรียมีกิจกรรมที่เรียกว่า Wine Taverns เป็นที่นิยมของชาวออสเตรียและนักท่องเที่ยว ส่วนใหญ่จัดขึ้นในเขตที่มีการผลิตไวน์ ที่ได้รับความนิยมคือรอบกรุงเวียนนา (Vienna) หรือวีน (Wien) เมืองหลวง ซึ่งวัฒนธรรมนี้ UNESCO ได้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกในปี 2019 โดยเวียนนานั้นเป็นเมืองหลวงของประเทศเดียว ที่มีพื้นที่การปลูกองุ่นทำไวน์มากที่สุดในโลก
กิจกรรม Wine Taverns
ประชาชนจะออกมานั่งดื่ม กิน ฟังดนตรีสด และเครื่องดื่มที่นิยมคือไวน์ที่เรียกว่า ฮอยริเกอร์ส (Heurigers) แปลว่า ปีนี้ ซึ่งหมายถึงไวน์ที่เพิ่งผลิตในปีนี้นั่นเอง บางแห่งอาจใช้คำว่า บุชเชนส์ชังค์ (Buschenschanks) เป็นวัฒนธรรมเก่าแก่ที่เริ่มมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 17 เกษตรกรผู้ผลิตไวน์จะนำไวน์ที่ผลิตในปีวินเทจนั้นสด ๆ ของพวกเขาออกมาให้ผู้คนได้ลิ้มรส พร้อมอาหารโฮมเมด
หนึ่งในสถานที่ยอดนิยมคือ นุสส์แบร์ก (Nussberg) ซึ่งเป็นเนินเขาสูงประมาณ 340 เมตร อยู่ชานกรุงเวียนนา มีไวเนอรี ร้านอาหาร กลางคืนมองลงมายังเมืองเวียนนาสวยงามมาก
ยังมีไวเนอรี่เล็ก ๆ แบบโฮมเมด อีกมากมายที่เปิดบริการนักท่องเที่ยว อย่างไรก็ตามให้สังเกตที่ป้ายถ้ามีคำว่า Ausg’steckt หมายถึง “เปิด” แน่นอน
พิพิธภัณฑ์ไวน์ - Vino Versum ใน Poysdorf (Cr.ferienmax.at)
ถ้าชอบแบบชนบทนิด ๆ ก็ต้องไปที่ โปยส์ดอร์ฟ (Poysdorf) เป็นเมืองเล็ก ๆ เงียบสงบ มีพลเมืองประมาณ 5 พันคน สังกัดรัฐ Lower Austria ซึ่งอยู่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของออสเตรีย ติดพรมแดนทางใต้ของสาธารณัฐเชก ด้านตะวันออกติดสโลวาเกีย และอยู่เหนือเวียนนาเมืองหลวงของออสเตรีย จากเวียนนาใช้ทางด่วนสาย A5 แล้วไปต่อถนนธรรมดา B7 นั่งแท็กซี่ประมาณ 40 นาที รถโดยสารอื่น ๆ ประมาณ 1.20 ชม.
ชมวิธีทำไวน์สมัยโบราณในปอยสดอร์ฟ ไวน์มิวเซียม
Poysdorf เป็นเมืองที่คนรักไวน์ต้องไปสักครั้งชีวิต เพราะกรุ่นกลิ่นไวน์ไปทั่วทั้งเมือง ที่เต็มไปด้วยไร่องุ่นและถ้ำเก็บไวน์ ที่สำคัญมี วีโน เวอร์ซุม โปยส์ดอร์ฟ (Vino Versum Poysdorf) หรือ พิพิธภัณฑ์ไวน์ ด้วย เปิดให้ดูเรื่องราวของไวน์ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน
ระหว่างเดือนพฤษภาคม - ตุลาคม จะมี Open Cellar ผู้ผลิตไวน์จะเปิดเซลลาร์ของตนเอง ให้คนรักไวน์เข้าไปชิมและดูการผลิตไวน์ของพวกเขา มีการตั้งโต๊ะหน้าเซลลาร์กลางถนนในซอยกันเลย ช่วงนี้นักท่องเที่ยวเยอะ
ไวน์มิวเซียมจัดกิจกรรม ปิกนิกชิมไวน์ (Cr.ferienmax.at)
อาหารดั้งเดิมของออสเตรียที่จับคู่กับไวน์ ได้แก่ ชนิทเซิล (Schnitzel) คือเนื้อที่ถูกทุบให้บางลงด้วยค้อนทุบเนื้อ แล้วนำไปทอดด้วยน้ำมันหรือไขมันสัตว์ โดยทั่วไปมักจะหมายถึงเนื้อที่ชุบแป้งและเกล็ดขนมปังทอด มีต้นกำเนิดมาจากประเทศออสเตรีย
ชนิทเซิลแบบชุบเกล็ดขนมปังเป็นที่นิยมในหลายประเทศทั่วโลก สามารถใช้เนื้อลูกวัว เนื้อแกะ เนื้อวัว ไก่งวง เนื้อกวางเรนเดียร์ และเนื้อหมูในการทำ
ชนิทเซิลหมูกับสลัดมันฝรั่งแบบเยอรมัน (Cr.foodandwine.com)
ต้นตำรับออสเตรียคือ วีเนอร์ ชนิทเซิล (Wiener Schnitzel) ที่มีประวัติย้อนไปถึงปี 1845 ทำมาจากเนื้อลูกวัว เสิร์ฟพร้อมเลมอนฝานและสลัดมันฝรั่ง พร้อมทั้งใบพาร์สลีย์และเนย วีเนอร์ ชนิทเซิล ได้รับการคุ้มครองการตั้งชื่อจากแหล่งกำเนิด (PDO) ในประเทศออสเตรียและเยอรมนี โดยต้องทำจากเนื้อลูกวัวเท่านั้น
สามารถจับคู่กับไวน์แดงก็ได้ ไวน์ขาวก็ดี โดยเฉพาะไวน์ขาวจากองุ่นกรือเนอร์ เวลต์ลิเนอร์ (Grüner Veltliner) องุ่นเขียวประจำชาติออสเตรีย รวมไปถึง ชาร์โดเนย์ (Chardonnay)
นอกจากไวน์แล้ว เวียนนา เมืองหลวงของออสเตรีย ยังได้รับการยกย่องจากคอกาแฟทั่วโลกให้เป็น เมืองหลวงของกาแฟ เพราะเชื่อว่าเป็นเมืองต้นแบบของคาฟเฟ เฮาส์ (Wiener Kaffeehaus)
ร้านกาแฟในเวียนนา
โดยเมื่อเดือนตุลาคม 2011 Viennese Coffee House Culture ได้รับการขึ้นบัญชีเป็น Intangible Cultural Heritage ของ UNESCO ...วัฒนธรรมกาแฟดังกล่าวนอกจากกาแฟแล้วยังประกอบด้วย น้ำเปล่า 1 แก้ว หนังสือพิมพ์ และโต๊ะหินอ่อน
คนเวียนนานิยมดื่มกาแฟ Kaffeehaus จึงเสมือนหนึ่งวิถีชีวิตของคนเวียนนิช เป็นแหล่งพบปะ พูดคุยกัน ระหว่างเพื่อนฝูง ญาติมิตร นักคิด นักเขียน นั่งไปคุยไป เขียนไป ดูผู้คน เดินผ่านไปมา ว่ากันว่า เมืองปารีส เลียนแบบ Kaffeehaus จากที่นี่
แนะนำไวน์ออสเตรียสัก 1 ไวเนอรี เป็นผู้ผลิตเล็ก ๆ เน้นคุณภาพ เป็นไวน์ขาว 3 รุ่น ซึ่งทั้ง 3 รุ่นนี้ผมชิมเมื่อกลางปีที่แล้วยังไม่อร่อยเพราะไวน์เพิ่งเดินทางมาถึงเมืองไทย พอมาชิมช่วงที่ออสเตรียเตะฟุตบอลยูโร 2024 ไวน์นิ่งแล้วอร่อยมาก
เฟือร์ธอฟ กรือเนอร์ เวลต์ลีเนอร์ 2021
เฟือร์ธอฟ รีด สไตเนอร์ ไกส์แบร์ก เครมส์ตัล ดีเอซี รีเซิร์ฟ กรือเนอร์ เวลต์ลีเนอร์ 2021 (Förthof Ried Steiner Gaisberg Kremstal DAC Reserve Grüner Veltliner 2021) : ทำจากองุ่นกรือเนอร์ เวลต์ลีเนอร์ องุ่นเขียวประจำชาติออสเตรีย เป็นองุ่นอายุกว่า 30 ปี จากไร่ Gaisberg เป็นซิงเกิ้ล วินเยิร์ด เก็บด้วยมือแล้วหมักพร้อมกากยีสต์ในถังสแตนเลส ก่อนบรรจุขวดโดยไม่กรอง
สีเหลืองทองอร่าม สดใส และมีสารแขวนลอยอยู่ด้วย เป็นผลการจากไม่มีการกรองก่อนบรรจุขวด ทำให้ได้รสชาติของไวน์อย่างแท้จริง หอมกลิ่นผลไม้ เช่น เกรพฟรุต พีช แอพริคอท เลมอน ไลม์ มิเนอรัล ยีสต์ หินเปียก ๆ น้ำ สไปซี่ไวท์ เปปเปอร์กรุ่น ๆ แอสิดสดชื่น จบยาวด้วยผลไม้ มิเนอรัล เฮิร์บสดเขียว ๆ แนะนำให้แช่เย็น 11-12 องศา เหมาะกับหน้าร้อนมาก ดื่มกับอาหารไทยได้หลากหลาย โดยเฉพาะที่ผักเป็นส่วนประกอบ เช่น ก๋วยเตี๋ยวลุยสวน ผัดผัก ราดหน้า ปลาชุบแป้งทอด ผัดไทยกุ้งสด สลัดต่าง ๆ.....19/20 คะแนน
เฟือร์ธอฟ รีด สไตเนอร์ พัฟเฟนแบร์ก เครมส์ตัล รีสลิง รีเซิร์ฟ 2021
เฟือร์ธอฟ รีด สไตเนอร์ พัฟเฟนแบร์ก เครมส์ตัล ดีเอซี รีเซิร์ฟ รีสลิ่ง 2021 (Förthof Ried Steiner Pfaffenberg Kremstal DAC Reserve Riesling 2021) : รีสลิ่งซิงเกิ้ล วินเยิร์ด จากไร่ Pfaffenberg เขตเครมส์ตัลริมแม่น้ำดานูบ อยู่เหนือกรุงเวียนนาประมาณ 70 กิโลเมตร
Kremstal เป็นหนึ่งในเขตผลิตไวน์เก่าแก่ของออสเตรีย ทำไวน์มากว่า 1 พันปี เป็น 1 ใน 5 เขตผลิตไวน์ที่อยู่เคียงข้างกับแม่น้ำดานูบ เป็นเขตที่อากาศค่อนข้างอบอุ่น ทำไวน์แดง 80% ไวน์ขาว 20% โดยไวน์ขาวทำจากองุ่นกรูเนอร์ เวลท์ลิเนอร์ 60% รีสลิ่ง 10 % และรีสลิ่งได้รับการยกย่องว่ายอดเยี่ยมมาก
สีเหลืองทอง สดใส หอมกลิ่นผลไม้ แพร์ แอพริคอท ซีทรัส สับปะรด กูสเบอร์รี ฝรั่งสุกกรุ่น ๆ มิเนอรัล สไปซี เฮิร์บสด หญ้าสด ตะไคร้ แอสิดสดชื่นมาก จบยาวและพลิ้วไหวด้วยผลไม้ มิเนอรัล มะขามป้อมชุ่ม ๆ คอ เป็นรีสลิ่งที่ดื่มง่าย ๆ สบาย ๆ แต่ได้อรรถรสของรีสลิ่งไม่แพ้ของเยอรมนี ดื่มกับอาหารได้หลากหลาย ควรแช่เย็นประมาณ 11-12 องศา......19/20 คะแนน
เฟือร์ธอฟ รีด สไตเนอร์ คือเกล เครมส์ตัล เซิร์ฟ รีสลิ่ง 2021
เฟือร์ธอฟ รีด สไตเนอร์ คือเกล เครมส์ตัล ดีเอซี รีเซิร์ฟ รีสลิ่ง 2021 (Förthof Ried Steiner Kögl Kremstal DAC Reserve Riesling 2021) : รีสลิ่งจากเขตเครมส์ตัลริมแม่น้ำดานูบ รัฐโลเวอร์ ออสเตรีย ทำจากรีสลิ่ง 100% จากไร่ Ried Steiner Kögl โดยรุ่นนี้เป็น ปราดิคัตส์ไวน์ (Prädikatswein) หรือไวน์คุณภาพพิเศษ
สีเหลืองทองอ่อน ๆ สดใส หอมกลิ่นผลไม้ พีช แอปเปิ้ล สับปะรด ซีทรัส กูสเบอร์รี ไลม์ มิเนอรัล ดอกไม้ขาว เฮิร์บเขียว ๆ หญ้าสด ควันไฟกรุ่น ๆ แอสิดสดชื่น จบยาวด้วยผลไม้ มิเนอรัล เฮิร์บสด ๆ แนะนำให้แช่เย็น 11-12 องศาเซลเซียส เหมาะกับอาหารง่าย ๆ เช่น ซาซิมิ โดยเฉพาะแซลมอน สลัดผัก.....19/20 คะแนน
เขตผลิตไวน์ใน Klosterneuburg
บอลยูโร 2024 ทีมชาติออสเตรีย ผ่านเข้าไปเล่นในรอบน็อคเอาท์ของฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป เกจิฟุตบอลทั่วโลกตั้งฉายาว่าเป็น ม้ามืด ตัวจริง เพราะอยู่ในกลุ่มที่แข็งที่สุด หรือ “กรุ๊ป ออก เดธ” ได้เข้ารอบ 16 ทีมสุดท้ายจะไปเจอกับตุรกี ในวันอังคารที่ 2 กรกฎาคม 2567
ในวงการ ฟุตบอลยูโร ออสเตรีย เป็นม้ามืดของยูโร 2024 แต่สำหรับ ไวน์ แล้ว ไวน์ออสเตรีย ถือเป็นหนึ่งในจอมยุทธ์ของ ไวน์ยุโรป