ของดีเอเชีย 'Dirty Coffee' มีอึ้ง! 'ยุโรป-อเมริกา' ยังไม่รู้จัก

ของดีเอเชีย 'Dirty Coffee' มีอึ้ง! 'ยุโรป-อเมริกา' ยังไม่รู้จัก

เดอร์ตี้ คอฟฟี่ โด่งดังในไทยและเอเชีย แต่กลับยังไม่เป็นที่รู้จักในยุโรปและอเมริกา ท้าทายกระแสวัฒนธรรมกาแฟเอเชียแพร่สู่เวทีโลก

เพื่อนฝูงกลับมาจากเที่ยวอังกฤษ หลังจากทักทายกันตามสมควร ผู้เขียนก็โดนยิงคำถามทันทีว่า ทำไมกาแฟผสมนมอย่าง 'เดอร์ตี้ คอฟฟี่' (Dirty Coffee) ที่เป็นเมนูยอดฮิตในบ้านเราและหลายประเทศเอเชีย กลับไม่มีเสิร์ฟตามร้านกาแฟพิเศษในลอนดอน ไม่ใช่แค่แห่งเดียวแต่หลายแห่งเลยทีเดียว 

นั่นซิครับ น่าแปลกมาก ทำไมเพื่อนผู้เขียนจึงไม่สามารถหากาแฟแก้วโปรดอย่างเดอร์ตี้ คอฟฟี่ มาดื่มได้ ทั้งๆที่ 'กรุงลอนดอน' ก็เป็นหนึ่งในเมืองกาแฟโลก มีคาเฟ่ร้านรวงอยู่เต็มพรืดไปหมดแล้วก็มีมากหลายแทบทุกสไตล์ แต่จะไปฟันธงเอาว่าไม่ทำขายหรือไม่มีขายทั้งหมดก็ไม่ได้ เพราะเพื่อนผู้เขียนก็ไม่ได้ไปทำการสำรวจตรวจตราเมนูของทุก ๆ ร้าน เอาเป็นว่า อาจจะยังไม่เป็นที่นิยมในแดนผู้ดี เลยทำให้หาดื่มยากมากก็แล้วกัน

จริง ๆ ไม่ใช่ร้านกาแฟอังกฤษที่ยังไม่มีโอกาสทำความรู้จักกับเดอร์ตี้ คอฟฟี่ แต่ยังรวมไปถึงหลาย ๆประเทศในยุโรป, สหรัฐอเมริกา และออสเตรเลีย ด้วย มีน้อยรายที่จะนำไปบรรจุเป็นเมนูประจำร้าน อาจด้วยเหตุผลที่ว่าแม้สูตรกาแฟตัวนี้จะเกิดมาแล้วประมาณ 14 ปี แต่ก็เพิ่งมารู้จักกันเมื่อ 3-4 ปีที่ผ่านมานี้เอง แล้วความดังความแรงก็จำกัดวงอยู่เฉพาะแถบเอเชียอย่างไทย, ญี่ปุ่น, จีน, ไต้หวัน, อินโดนีเซีย, มาเก๊า และเกาหลีใต้ เสียเป็นส่วนใหญ่

อีกประการเท่าที่ผู้เขียนนึกออก น่าจะเป็นเพราะความคิดที่เข้าใจไปเองว่าเป็นสูตรกาแฟนมเหมือนพวกเมนู 'ดาวค้างฟ้า' อย่าง คาปูชิโน่, ลาเต้ และมัคคาอิโต้ เลยมองข้ามไป ทั้งที่ความจริงแล้ว เดอร์ตี้ คอฟฟี่ ต่างไปจากเมนูกาแฟดังกล่าวมาก โอเคล่ะ ใช้ช็อตเอสเพรสโซหรือริสเทรตโต้กับนมเหมือนกัน แต่รายละเอียดไม่เหมือนกันเลยทั้งสูตร, เทคนิคการชง, วิธีการดื่ม, รสชาติ และรูปร่างหน้าตาของเครื่องดื่ม

ของดีเอเชีย \'Dirty Coffee\' มีอึ้ง! \'ยุโรป-อเมริกา\' ยังไม่รู้จัก

กาแฟผสมนม เดอร์ตี้ คอฟฟี่ จากร้านบลูคอฟ (Bluekoff) สาขาชลบุรี  (ภาพ : Charlie Waradee)

ปกติเรามักคุ้นเคยกับการเคลื่อนย้ายของวิถีวัฒนกรรมการดื่มกาแฟและเมนูกาแฟจากยุโรปไปทั่วโลก หรือไม่ก็จากสหรัฐอเมริกาไปทั่วโลกอย่างที่กำลังดำเนินอยู่ ก็น่าสนใจครับว่า กระแสวัฒนธรรมกาแฟจากเอเชียจะ 'ย้อนศร' กลับออกไปเผยแพร่สู่ทั่วโลกอย่างมีนัยสำคัญได้บ้างหรือไม่

'เอสเพรสโซเย็น'สไตล์ไทย หรือที่เรียกกันสั้น ๆ เอสเย็น และ 'เดอร์ตี้ คอฟฟี่' ต่างก็อยู่ในบริบทนี้เช่นกัน

ย้อนความกันสักนิดนึง เดอร์ตี้ คอฟฟี่ เป็นเมนูกาแฟนมที่มีรสชาติและรูปลักษณ์โดดเด่นมาก ๆ เสิร์ฟแยกชั้นกันชัดระหว่างนมที่อยู่ด้านล่างของแก้ว กับช็อตเอสเพรสโซด้านบน ที่เจ้าของสูตรอย่างคุณ 'คัตซึยูกิ ทานากะ' เจ้าของ 'แบร์ พอนด์ เอสเพรสโซ' (Bear Pond Espresso) บาร์เอสเพรสโซชื่อดังประจำย่านชิโมะคิตาซาวะในกรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น เป็นผู้คิดค้นขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 2010

สูตรเดอร์ตี้ คอฟฟี่ 'เวอร์ชั่นไทย' ที่ถูกนำมาพัฒนาต่อยยอด มีหลายสูตรด้วยกัน ทั้งสูตรลับและสูตรคูณ(คือนำไปเผยแพร่ต่อ) ส่วนใหญ่ที่ผู้เขียนตระเวนดื่มตามร้านกาแฟหลายแห่ง นิยมใช้ช็อตเอสเพรสโซ, ริสเทรตโต้ หรือน้ำมันกาแฟที่เป็นหัวเอสเพรสโซ ค่อย ๆ เทลงไปบนนมเย็นที่มักเป็นวิปครีมผสมกับนมสด เพื่อเพิ่มความหอม-มัน-นัว บางร้านเติมไซรัปกลิ่นรสต่าง ๆ เข้าไปเสริม แล้วนำไปแช่ช่องฟรีซราว 10-15  นาที นิยมเสิร์ฟในแก้วใสใบขนาดเล็ก  

ของดีเอเชีย \'Dirty Coffee\' มีอึ้ง! \'ยุโรป-อเมริกา\' ยังไม่รู้จัก

ยูโรเปี้ยน คอฟฟี่ ทริป ยูทูบเบอร์สายกาแฟชั้นแนวหน้า แนะนำวิธีชงกาแฟเดอร์ตี้ โดยมีมิลบ็อก แบรนด์ผลิตภัณฑ์นมของสาธารณรัฐเช็กเป็นสปอนเซอร์  (ภาพ : youtube.com/@EuropeanCoffeeTrip)

'ไฮไลต์'สำคัญของกาแฟตัวนี้ อยู่ที่เทคนิคการสกัดกาแฟซึ่งต้องฝึกกันจนชำนาญเหมือนงานศิลป์ การเพิ่มวิปครีมในนมและการนำไปแช่ช่องฟรีซ ทำให้ผิวนมตึงตัวและเพิ่มน้ำหนักให้กับเนื้อนม บางคนนำแก้วนมมารองรับเอสเพรสโซจากหัวชง บางคนใช้ช้อนเป็นตัวชะลอน้ำกาแฟ ขึ้นอยู่กับเทคนิคของแต่ละคน

แต่หลัก ๆ คือ ให้ช็อตกาแฟค่อย ๆ ไหลซึมลงมาช้า ๆ สร้างเป็นเส้นสายเหมือนงานศิลป์ ดังนั้นจึงต้องเสิร์ฟในแก้วใสเพื่อให้มองเห็นการแยกเป็นเลเยอร์และลวดลายต่าง ๆ แน่นอนริ้วรอยและเส้นสายที่ชอนไชลงไปแทบไม่ซ้ำแบบกันในแต่ละแก้ว

น้ำกาแฟสีน้ำตาลที่ไหลเปรอะเปื้อนอยู่ภายในแก้วนมสีขาวบริสุทธิ์ต่างลีลาและท่วงท่า ขึ้นอยู่แต่กาแฟและนมจะนำพาไปนี่แหละ เป็นที่มาของคำว่า 'Dirty' ที่ไม่ได้แปลว่าสกปรก แต่หมายถึงเปรอะเปื้อนในแง่งามเชิงศิลป์ 

เนื่องจากผู้เขียนเป็นคนขี้สงสัย เมื่อจิบกาแฟเดอร์ตี้แต่ละแก้ว มักจะสอบถามจากทางร้านว่าใช้เมล็ดกาแฟตัวไหนบ้าง ส่วนใหญ่พบว่าใช้เมล็ดกาแฟที่ให้รสชาติต่างกัน 3 แบบ คือ บราซิลที่เป็นตัวหลัก, เอธิโอเปีย/กัวเตมาลา และไทย/ลาว แต่เรื่องส่วนผสมใช้กันกี่เปอร์เซนต์ ไม่เคยถามครับ เพราะเป็นเรื่องมารยาท

ของดีเอเชีย \'Dirty Coffee\' มีอึ้ง! \'ยุโรป-อเมริกา\' ยังไม่รู้จัก

เดอร์ตี้ คอฟฟี่ เสิร์ฟในร้านกาแฟลิก้า ลิคู  (LIKA LIKU Coffee) ในเมืองเซอมารัง ประเทศอินโดนีเซีย  (ภาพ : instagram.com/likaliku.idn)

บอกตรง ๆ เสียดายแทนมากสำหรับคอกาแฟสายนมเพื่อนร่วมโลกทุก ๆ คนที่ยังไม่มีโอกาสลิ้มลองรสชาติแบบ 'จิบ 3 สเต็ป' ของเดอร์ตี้ คอฟฟี่ จากเอสเพรสโซร้อนบนพื้นผิวและนมเย็นในพื้นล่าง เหมือนผู้เขียนและอีกหลายคนชื่นชอบการละเลียดรสเครื่องดื่ม

จิบแรกเป็นเอสเพรสโซมาก-นมน้อย, จิบสองเป็นเอสเพรสโซน้อยลง-นมมากขึ้น และจิบสามรสชาติผสมกลมกลืนอย่างละครึ่งระหว่างกาแฟกับนม แต่ขอบอกก่อนว่า เทคนิคจิบ 3 รสชาตินี้ เมื่อได้รับกาแฟจากผู้เสิร์ฟ ต้องไม่เอาช้อนไปคนละเลงรัว ๆ ให้นมกับกาแฟผสมปนเปกันมั่วไปหมด อันนี้ห้ามเลย

ถามว่ายุโรปกับอเมริกา สถานภาพตอนนี้ของเดอร์ตี้ คอฟฟี่ เป็นอย่างไรบ้าง เท่าที่ผู้เขียนลองสอดส่องดูตามเมนูของร้านกาแฟแบบพิเศษดัง ๆ พบว่าแทบยังไม่มีบริการเสิร์ฟให้คอกาแฟ แต่ในช่วง 1 ขวบปีที่ผ่านมา เว็บไซต์อาหารและเครื่องดื่มต่างประเทศ เริ่มหยิบเอามาเป็นเมนูแนะนำ ประมาณว่าคือกาแฟผสมนมชื่อเดอร์ตี้ ที่ไม่ได้แปลว่าสกปรก ต้นกำเนิดมาจากญี่ปุ่น พร้อมกับมีสาธิตวิธีชงตามยูทูบด้วย แต่ก็น้อยมาก ส่วนใหญ่ที่พบเป็นของคนไทยทั้งนั้น

เว็บไซต์ภาษาอังกฤษบางแห่งก็ใช้ภาพประกอบเหมือน 'สินค้าไม่ตรงปก' มองแล้วคล้ายคาปูชิโน่กลับหัวกลับหาง แบบนมกับกาแฟแยกชั้นกันคนละครึ่งแก้ว หรือใช้ภาพแก้วกับน้ำกาแฟสีน้ำตาลนัว ๆมาลง เล่นเอาผู้เขียนอึ้งไปเลยเหมือน ชัดว่าคนสร้างคอนเทนท์ไม่รู้จักนั่นแหละครับ  

ของดีเอเชีย \'Dirty Coffee\' มีอึ้ง! \'ยุโรป-อเมริกา\' ยังไม่รู้จัก

เดอร์ตี้ คอฟฟี่ จากร้านชมทะเล ซีซี เอสเพรสโซ บาร์ (SeeSea Espresso Bar) ย่านบางทราย จ.ชลบุรี  (ภาพ : Charlie Waradee)

ในออสเตรเลียก็เห็นมีแนะนำกาแฟตัวนี้อยู่บ้างเหมือนกัน แต่บางรายดันเรียกว่า เดอร์ตี้ ลาเต้ ที่อาจทำให้เกิดความไขว้เขว้กับเมนู 'เดอร์ตี้ ไช ลาเต้' (Dirty Chai Latte) ซึ่งเป็นสูตรเอสเพรสโซหนึ่งหรือสองช็อต ผสมเข้ากับนมเหมือนกัน แต่เติมชาเครื่องเทศจากอินเดียเข้าไปเพิ่ม

เมื่อกลางปีที่ผ่านมานี้เอง มีแบรนด์ผลิตภัณฑ์นมรายหนึ่งจากสาธารณรัฐเช็ก ชื่อว่า 'มิลบ็อก' (MILBOK) ต้องการทำการตลาดนมข้นจืดตามร้านกาแฟยุโรป เลยไปเป็นสปอนเซอร์ให้กับยูทูบเบอร์สายกาแฟทีมหนึ่งที่ดังมาก ๆ คือ 'ยูโรเปี้ยน คอฟฟี่ ทริป' (European Coffee Trip) ร่วมกันผลิตคลิปโปรโมทการนำนมข้นจืดของแบรนด์ไปใช้เมนูเดอร์ตี้ คอฟฟี่  พร้อมแสดงวิธีออกมาถึง 4 สูตรด้วยกัน แต่สูตรที่ 2 มีคนไทยเข้าไปเขียนทักท้วงใต้คลิปเกี่ยวกับข้อมูลการใช้สูตรนม

สูตรที่ 2 ในคลิปมีการบอกว่า เป็นเวอร์ชั่นกาแฟเดอร์ตี้ยอดนิยมในไทย ใช้นมข้นหวานรองก้นผสมกับนมสด แล้วผู้ดำเนินรายการก็คอมเมนต์ต่อว่า สูตรนี้แม้จะสร้างเลเยอร์ระหว่างนมกับกาแฟได้ดี แต่รสหวานของนมก็กลบรสกาแฟไปตอนดื่ม ซึ่งก็ไม่รู้ว่าผู้ดำเนินรายการไปเอาสูตรนมจากร้านไหนมาเป็นตัวอย่าง ทั้ง ๆ ที่ส่วนใหญ่ร้านกาแฟไทยนิยมใช้วิปครีมกับนมสดกัน

นอกจากนั้นในคลิปยังมีการตั้งคำถามกับผู้ชมว่า คิดอย่างไรกับกาแฟเดอร์ตี้, อยากลองดื่มไหม และมีร้านกาแฟแถว ๆ บ้านคุณเสิร์ฟแล้วหรือยัง?

ของดีเอเชีย \'Dirty Coffee\' มีอึ้ง! \'ยุโรป-อเมริกา\' ยังไม่รู้จัก

หนึ่งในขั้นตอนการชงเดอร์ตี้ คอฟฟี่ จากร้านคอฟฟี่ บาย ยู (Coffee by U) ในกรุงไทเป ประเทศไต้หวัน  (ภาพ : facebook.com/coffeebyuco)

มีคอมเมนต์จากอังกฤษ, แคนาดา และสหรัฐอเมริกา บอกว่าอยากลองดื่มแต่ร้านกาแฟในประเทศของตนไม่มีเสิร์ฟ ส่วนโปแลนด์และสาธารณรัฐเช็กแจ้งว่าเคยชิมเพราะมีเสิร์ฟในร้านกาแฟที่ไปประจำ

เท่าที่สังเกต ผู้เขียนพบว่าเวอร์ชั่นเดอร์ตี้ คอฟฟี่ ที่หยิบมาแนะนำหรือรีวิวกันตามโซเชียล มีเดียของต่างประเทศ รวมไปถึงจากรายการยูโรเปี้ยน คอฟฟี่ ทริปนี้ด้วย แทบทั้งหมดน่าจะเป็นสไตล์ไทยล้วน ๆ หลังจากที่ร้านกาแฟพิเศษบ้านเรานำสูตรกาแฟต้นตำรับจากโตเกียวมาพัฒนา 'ต่อยอด' จนได้รับความนิยมจากคอกาแฟสายนมบ้านเราตลอดช่วง 3-4 ปีที่ผ่านมา โดยมีการเปลี่ยนแปลงสูตรจากเดิมไปเล็กน้อย

สูตรเดิม ๆ ของคุณคัตซึยูกิ ทานากะ แห่งแบร์ พอนด์ เอสเพรสโซ แบ่งการทำกาแฟเดอร์ตี้ออกเป็น 2 ชั้น คือ เทเอสเพรสโซลงบนนมเย็น เสร็จแล้วเติมนมเย็นลงไปเพิ่ม ปิดด้วยช็อตเอสเพรสโซด้านบนในตอนจบ จะเห็นเส้นสายของน้ำกาแฟเอสเพรสโซเป็นวงกลม ๆ อยู่รอบแก้ว ซึ่งเจ้าของสูตรเรียกว่า 'วงแหวน' (ring) ทำให้เดอร์ตี้ คอฟฟี่ ต้นตำรับของแบร์ พอนด์ฯ มีเอสเพรสโซ 2 วงแหวน ด้านบนกับตรงกลาง ส่วนสูตรต่อยอดฝีมือคนไทยมีวงแหวนเดียวอยู่ด้านบน

นอกจากนั้น ส่วนที่แตกต่างกันอีกก็คือ นมที่สูตรต้นตำรับใช้คือนมดิบคุณภาพสูงที่มีไขมัน 3.6% แก้วที่ใช้เสิร์ฟเป็นแบบขวดแก้วทรงกลมหรือเมสัน จาร์ ซึ่งไซส์แก้วจะมีขนาดใหญ่กว่าของไทย เมล็ดกาแฟก็ใช้สูตรลับของแบร์ พอนด์ฯเอง คือ ฟลาวเวอร์ ไชล์ เบลนด์  (Flower Child blend) จากแหล่งปลูกในอเมริกาใต้, อเมริกากลาง และแอฟริกา ให้รสชาติกลมกล่อมลงตัวระหว่างดาร์ค ช็อคโกแลต, คาราเมล กับความหวานจากผลไม้ตระกูลส้ม เป็นเมล็ดกาแฟตัวเดียวกับที่นำมาทำ 'แองเจิล สเตน' (Angel Stain) เอสเพรสโซตัวดังของร้านนั่นเอง

ของดีเอเชีย \'Dirty Coffee\' มีอึ้ง! \'ยุโรป-อเมริกา\' ยังไม่รู้จัก

โฉมหน้าเดอร์ตี้ คอฟฟี่ สูตรต้นตำรับของคุณคัตซึยูกิ ทานากะ แห่งแบร์ พอนด์ เอสเพรสโซ ในกรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น  (ภาพ : instagram.com/angelstain)

อย่างไรก็ตาม คุณคัตซึยูกิ ทานากะ ซึ่งทำกาแฟเหมือนผลงานทางศิลปะ เคยให้สัมภาษณ์บาริสต้า แม็กกาซีน ออนไลน์ เมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา โดยบอกว่า การใช้นมและเมล็ดกาแฟที่คุณ 'ชื่นชอบ' นั่นแหละ จะทำให้เดอร์ตี้ คอฟฟี่ ได้ผลออกมาดีที่สุด

ตอนท้ายของบทความ ผู้สัมภาษณ์ยิงคำถามว่า คุณคัตซึยูกิพอใจกับผลงานเวอร์ชันต่าง ๆ ของเดอร์ตี้ คอฟฟี่ ที่ร้านกาแฟในกรุงเทพฯ และที่อื่น ๆ ทำขึ้นหรือไม่?

เจ้าของแบร์ พอนด์ฯ ตอบว่า ดีใจมากที่พวกเขาได้รับแรงบันดาลใจจากสูตรของผม แต่ก็ยังมีบ้างที่ทำโดยเน้นเชิงปริมาณ ดังนั้น คงน่าเสียดายถ้าคุณทำเพียงแค่หยดเอสเพรสโซลงบนนมเย็นเท่านั้น ผมมองว่างานผมในฐานะผู้คิดค้น 'เดอะ เดอร์ตี้' คือการแบ่งปันสูตรอย่างเป็นทางการของเอสเพรสโซ 2 วงแหวนไปทั่วโลก

แต่ไม่รู้ว่าเป็นเพราะดันไปอ่านเจอข้อมูลจากเว็บไซต์รีวิวเครื่องดื่มกาแฟจากต่างประเทศแห่งหนึ่งที่มีความเคลือบแคลงสงสัยว่าจริง ๆ แล้วต้นกำเนิดของเจ้าเดอะ เดอร์ตี้ มาจากญี่ปุ่นหรือไทยกันแน่ หลังจากนั้นไม่นาน ก็เลยเห็นร้านแบร์ พอนด์ฯ โพสต์ในโซเชียล มีเดีย ของทางร้าน แสดงสิทธิ์ความเป็นผู้คิดค้นกาแฟเดอร์ตี้ คอฟฟี่ แบบให้สิ้นสงสัยกันไปเลยทีเดียว

...............................

เขียนโดย : ชาลี วาระดี