‘Parco House’ ร้านกาแฟในสวน ‘เชียงใหม่’ ที่มีอาหารอร่อย
เปลี่ยนสวนรกในซอยลึกย่านสันกำแพงที่ภาษาคำเมืองเรียกว่า “ป่าโข่” เป็น “ปาโค่ เฮ้าส์” (Parco House) คาเฟ่กลางสวนสวยที่ปลูกดอกไม้กลางใจเจ้าบ้านและผู้มาเยือน ด้วยอาหารที่ปรุงด้วยความสุขและรอยยิ้ม
ได้ยินที่มาของชื่อแล้วยิ้มเลย สำหรับ ปาโค่ เฮ้าส์ ร้านกาแฟที่มีอาหารอร่อยของ คุณเติม - ณรงค์ จันทรมาศ ดีไซเนอร์คนเก่งของ รายา คอลเลคชั่น ที่เปลี่ยนพื้นที่รกๆ ที่คนเหนือเรียกว่า ป่าโข่ ให้กลายเป็นสวนสวยแล้วนำยุ้งข้าวเก่ามาปรับปรุงเป็นคาเฟ่สุดเก๋
“ตอนไปจดทะเบียนการค้า มีปัญหาเรื่องชื่อ ป่าโข่ เล็กน้อย เราเลยมองหาคำพ้องเสียงเป็น ปาโค่ (parco) ซึ่งในภาษาอิตาเลียนแปลว่า สวน พอดี จากป่าโข่ จึงกลายมาเป็น ปาโค่ ด้วยเหตุผลนี้เอง” คุณเติมบอกกับเรา
สำหรับจุดเริ่มต้นของปาโค่ เฮ้าส์ เกิดจากการที่หลานชายจะกลับมาเรียนหนังสือที่เชียงใหม่ คุณเติมจึงตัดสินใจปรับปรุงพื้นที่บ้านที่เคยเป็นป่ารกให้กลายเป็นสวยแล้วนำยุ้งข้าวเก่ามาต่อเติมให้เป็นบ้านหลังเล็ก ๆที่เปิดให้เพื่อนๆมาเฮฮาปาร์ตี้กันได้ด้วย แต่เพราะความสวยเป็นเหตุ เพื่อนๆจึงยุยงส่งเสริมให้เปิดเป็นร้านกาแฟที่รับรองเพื่อนฝูงและรับแขกได้ด้วย
คุณบุญเกียรติ พุทธา และคุณณรงค์ จันทรมาศ
“อีกเหตุผลที่คิดทำร้านกาแฟ คือ พี่สาวกับพี่เขยเกษียณอายุพอดี เขามีช่วงเวลาที่ได้พักผ่อนท่องเที่ยวจนเบื่อแล้ว อยู่บ้านเกิดอาการซึมเศร้า ไม่ค่อยมีแรง เลยบอกพี่สาวว่าเธอทำอาหารเก่ง ส่วนพี่เขยก็เคยเป็นพัฒนาชุมชนที่ไปสอนวิชาชีพให้คนตามชุมชนต่าง ๆ ซึ่งงานถนัดของเขาคือการสอนทำอาหาร ถ้างั้นมาช่วยกันทำร้านจะได้มีงาน มีรายได้ มีกำลังใจ
พอเขาได้ลงมือทำแล้วสนุก ลูกค้าชมว่าอาหารอร่อย คราวนี้เอนจอย จากที่เคยเจ็บออด ๆ แอด ๆ ไปโรงพยาบาลบ่อย ๆ ตอนนี้แข็งแรง มีความสุขที่ได้ทำอาหารอยู่ในครัว”
ครัวของปาโค่ เฮ้าส์ เป็นเหมือนเรือนหลังเล็กที่เปิดโล่งมองเห็นพ่อครัวแม่ครัวช่วยกันปรุงอาหาร จัดจานสวย และเป็นจุดที่ผู้มาเยือนนิยมแวะเวียนไปถ่ายรูปกับครัวที่แสนจะน่ารัก และทักทายพ่อครัวแม่ครัวผู้กระตือรือร้นอยู่เสมอ
พ่อครัว แม่ครัว ทำงานอย่างมีความสุขในครัวสวย
ห้องรับประทานอาหารของปาโค่ เฮ้าส์
ในครัวนี้ยังมี ป้าอ๊อด ผู้ช่วยงานครัวผู้ป่วยมะเร็งที่เคยอ่อนแอ เมื่อได้มาทำงานมีรายได้เสริม ทำให้เกิดกำลังวังชาที่กลับคืนมา จากที่เคยลุกนั่งลำบาก วันนี้ป้าอ๊อดลุกนั่งได้กระฉับกระเฉง มีความสุขในการทำงาน
นอกจากนี้ยังมี ลุงดวงดี คนสวนผู้ปลูกต้นไม้และดูแลดอกไม้สวยๆ ด้วยปุ๋ยธรรมชาติปราศจากสารเคมี เพื่อนำดอกไม้กินได้มาตกแต่งบนจานอาหารและเครื่องดื่ม
คุณเติมเล่าให้ฟังว่า ลุงดวงดีเคยเป็นพนักงานเก็บขยะ วันหนึ่งเกิดเหตุรถถอยมาทับทำให้เดินขากระเผลก ทำให้เสียอาชีพไป คุณเติมเลยชวนให้มาเป็นคนสวน รดน้ำต้นไม้ จากที่เคยนั่งหน้าบึ้งตึงหน้าบ้านทุกวัน วันนี้ลุงดวงดีมีรายได้ มีรอยยิ้ม และเดินเหินได้เก่งกว่าเก่า ดูแลต้นไม้ไปก็ร้องเพลงคลอไปกับวิทยุทรานซิสเตอร์อย่างมีความสุข
ข้าวหน้าไก่ ตกแต่งด้วยดอกไม้ในสวนที่ลุงดวงดีดูแล
“เรื่องราวที่เกิดขึ้นเป็นสิ่งที่เราไม่ได้คิดมาก่อน ผมเชื่อว่าทุกอย่างเกิดจากกำลังใจสิ่งสำคัญก็คือตัวของเขาเองไม่รู้สึกว่าเป็นภาระของคนอื่น มันเป็นความสุขที่เป็นลูกโซ่และสะท้อนมาถึงเราด้วย”
ฟังคุณเติมเล่าถึงพ่อครัวแม่ครัว ป้าอ๊อด และลุงดวงดี กันแล้ว เรามาฟังเรื่องราวของอาหารที่ปรุงจากในครัวแห่งความสุขนี้จาก คุณเกียรติ - บุญเกียรติ พุทธา Digital Consultant ทีมปาโค่ เฮ้าส์ กันบ้างค่ะ
“อาหารของเราจะมีความ Nostalgia เป็นอาหารที่วัยรุ่นอาจไม่ค่อยรู้จัก แต่เป็นอาหารที่ชวนให้รำลึกถึงความหลัง ความทรงจำ เช่น โกยซีหมี่ ข้าวหน้าไก่ เส้นหมี่ผัดกระเฉด สปาเก็ตตี้ซอสมันกุ้ง ซึ่งมาจากข้าวผัดมันกุ้งในอดีตที่เราคิดว่าถ้าเปลี่ยนมาเป็นสปาเก็ตตีน่าจะเข้มข้นเข้ากันดี” คุณเกียรติ ยกตัวอย่าง
โกยซีหมี่
หมี่กระเฉด
ส่วนอาหารแต่ละจานจะมีรายละเอียดที่น่าสนใจแตกต่างกันออกไป เช่น สามชั้นทอดน้ำปลาและน้ำพริกตาแดง (175 บาท) คุณเกียรติเล่าว่าน้ำพริกตาแดงที่นำมาเสิร์ฟนี้จะเป็นน้ำพริกที่ทำให้ชุมชนสันกำแพง (ที่ตั้งของปาโค่ เฮ้าส์) มีอัตลักษณ์พิเศษ คือ มีส่วนผสมของปลาร้าน้อยเนื่องจากอยู่ห่างจากแหล่งน้ำ กลิ่นปลาร้าจึงมีความหอมอ่อนๆ เมื่อเทียบกับน้ำพริกตาแดงของชุมชนจอมทองที่อยู่ริมแม่น้ำ
เมี่ยงกระทงทอง
แตงโมปลาแห้ง
ในขณะที่ เมี่ยงกระทงทอง (189 บาท) แปลงร่างมาจากเมี่ยงลาวมีไส้เหมือนสาคูไส้หมู เดิมห่อด้วยใบชาหมัก เรามาปรับเป็นใบเกี้ยมฉ่ายมาทำให้สุกแล้วกินคู่กับกระทงทองแทน แนมด้วยผลไม้รสเปรี้ยว เช่น เบอร์รี่ สตรอว์เบอร์รี่ สับปะรดหั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ รสเปรี้ยวจะช่วยตัดเลี่ยนและชูรสเมี่ยงให้สดชื่นยิ่งขึ้น
แตงโมปลาแห้ง (119 บาท) เมนูนี้ไม่ธรรมดาเพราะคุณเติมและคุณเกียรติไปตระเวนชิมกันมาหลายแห่ง จนไปพบปลาแห้งของคุณตาคุณยายที่ฉะเชิงเทราที่กินแล้วไม่มีกลิ่นคาวของปลาช่อน เนื่องจากปลาช่อนที่ฉะเชิงเทราเติบโตในน้ำกร่อยเนื้อปลาจึงมีกลิ่นคาวน้อยกว่าปลาช่อนที่เลี้ยงตามทุ่งนา จึงให้คุณตาคุณยายทำปลาแห้งส่งให้ทางร้านมาจับคู่กับแตงโมจากนครสวรรค์
ชาไทยสับปะรดปั่น
อาหารแต่ละเมนูจัดออกมาราวกับสวนดอกไม้ รสชาติก็กลมกล่อม นี่เรายังไปไม่ถึงเมนูของหวานและกาแฟกันเลย แต่ทางเจ้าของร้านกลับบอกว่าเราเป็นร้านกาแฟที่มีอาหารอร่อยครับ และที่แปลกไปกว่านั้น คือ เป็นร้านกาแฟที่คนนิยมดื่มชา โดยเฉพาะ ชาไทยสับปะรดปั่น ที่นำชาไทยทางภาคใต้มาผสมกับสับปะรดภูแลของเชียงรายได้อย่างลงตัว มีทั้งความหอมของกลิ่นชาและความหวานของสับปะรด แนะนำให้ลองชิมนะคะถ้าคุณเป็นสายชาไทย
สำหรับของหวานมีให้เลือก ได้แก่ เค้กคัสตาร์ดหม้อแกงเผือก (99 บาท) เค้กแครอทและครีมชีส (125 บาท) ชาไทยปังเย็นเสิร์ฟพร้อมไข่มุกบราวน์ชูการ์และเฉาก๊วย (179 บาท) เป็นต้น
จากป่ารกในซอยลึก สู่ปาโค่ เฮ้าส์ ร้านกาแฟที่มีอาหารอร่อย ท่ามกลางสวนสวยที่ปลูกดอกไม้ได้งอกงามในใจเจ้าบ้านและส่งมอบมาสู่ผู้มาเยือนอย่างเราได้อย่างอบอุ่นใจ
ภาพ : อนุตรา อึ้งสุประเสริฐ
ปาโค่ เฮ้าส์ (Parco House)
- ตั้งอยู่ในซอยลุงขาว ถนนสันกำแพงสายเก่า ทางไปศูนย์ราชการสันกำแพงใหม่ เลยวัดสันโค้งมาเล็กน้อย อำเภอสันกำแพง จังหวัดเชียงใหม่
- เปิดบริการ 9.00-17.00 น. ปิดทุกวันอังคาร
- โทร.06 5914 5641
- เฟซบุ๊ก Parco House - ปาโค่ เฮ้าส์