แปลกแต่จริง! ธุรกิจร้านหม้อไฟในหลุมหลบภัยของจีนบูมหนักมาก
ลูกค้าเอ็นจอยกับอาหารอร่อยหม้อไฟ แต่อาจไม่รู้ว่า ประวัติศาสตร์และที่มาของร้านอาหารใต้ดินนี้เกี่ยวเนื่องกับสงครามและความตาย และนี่คือเรื่องราวธุรกิจร้าน"หม้อไฟ"ในหลุมหลบภัยที่นครฉงชิ่ง
เมื่อปลายเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ผู้คนในประเทศจีนเผชิญกับวิกฤตคลื่นความร้อนปรอทแตกเมื่ออุณหภูมิในหลายพื้นที่ทะลุ 40 องศาเซลเซียสไปแล้ว
และเพื่อที่จะหลบกระแสลมร้อน คนในนครฉงชิ่งซึ่งอยู่ในมณฑลเสฉวนทางตะวันตกเฉียงใต้ของจีนต่างพากันมุดลงดินไปทานอาหารในร้านอาหารที่อยู่ใต้ดินที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นหลุมหลบภัย
หม้อไฟใต้ดินในนครฉงชิ่ง
เมนูอาหารที่เป็นที่นิยมอย่างหนึ่งคือ ชาบูหม้อไฟ ซึ่งถ้าจะกินกันบนดินท่ามกลางอากาศร้อนระอุคงไม่ดีแน่เพราะคงต้องกินไป ปาดเหงื่อไป ดังนั้น ร้านอาหารใต้ดินน่าจะเป็นตัวเลือกที่ดีเพราะจะได้สัมผัสอากาศที่เย็นสบายกว่า อุณภูมิในร้านใต้ดินนี้จะประมาณ 16 องศาเซลเซียส
เรื่องนี้เป็นข่าวไปทั่วโลก ทั้งๆ ที่การลงไปกินชาบูในร้านหม้อไฟใต้ดินในนครฉงชิ่งนี้มีมานานแล้ว และเป็นตัวเลือกที่เป็นที่นิยมของคนจีนช่วงหน้าร้อนอยู่แล้ว
พื้นที่ของร้านหม้อไฟใต้ดินนี้เคยเป็นบังเกอร์หลบระเบิดมาก่อนในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ในระหว่างปี 1938-1943 กองทัพอากาศญี่ปุ่นเคยส่งเครื่องบินเข้ามาทิ้งระเบิดโจมตีนครฉงชิ่งซึ่งเป็น 1 ใน 4 นครที่อยู่ภายใต้การบริหารของรัฐบาลกลาง (อีก 3 แห่ง คือ ปักกิ่ง เทียนจินและเซี่ยงไฮ้) ทางการจึงจัดให้มีการขุดหลุมหลบภัยสำหรับประชาชน
ร้านหม้อไฟในหลุมหลบภัย นครฉงชิ่ง จีน
บรรยากาศในร้านหม้อไฟด่งติง นครฉงชิ่ง จีน
ร้านหม้อไฟยอดฮิตในหลุมหลบภัย
การมีธุรกิจให้บริการในที่ที่เคยเป็นหลุมหลบภัยมาก่อน ดูจะเป็นเรื่องเหลือเชื่อสำหรับหลายคน แต่สำนักงานป้องกันภัยทางอากาศของนครฉงชิ่งรายงานว่า ได้อนุญาตให้ธุรกิจหลายประเภท เช่น ปั๊มน้ำมัน ร้านอาหาร โรงเก็บไวน์ พิพิธภัณฑ์และร้านหนังสือ เช่าหลุมหลบภัยไปกว่า 200 แห่งแล้ว
หวัง เจินจี เจ้าหน้าที่ของฉงชิ่ง กล่าวว่า หลุมหลบภัยส่วนใหญ่อยู่ในเขตศูนย์กลางของนครฉงชิ่ง จึงทำให้เป็นที่ต้องการของธุรกิจประเภทต่างๆ
ส่วนเดง หง เจ้าของร้านหม้อไฟด่งติง ซึ่งได้รับความนิยมอย่างมากจากบรรดาสาวกหม้อไฟ กล่าวว่า ร้านนี้เปิดให้บริการในหลุมหลบภัยแห่งนี้มากว่า 33 ปี ร้านของเขามีพื้นที่ประมาณ 185 ตารางเมตร มีลักษณะเหมือนอุโมงค์และมีความสูง 2 กว้าง 3 เมตร
เขาเล่าว่า ร้านของเขามีอีก 2 สาขา แต่ลูกค้าส่วนใหญ่ชอบมาที่ร้านดั้งเดิมนี้ ถึงแม้ว่า จะต้องเข้าคิวคอยเป็นเวลาหลายชั่วโมงก็ตาม ที่ทางเข้าร้าน มีป้ายเขียนด้วยภาษาจีนว่า “ร้านหม้อไฟด่งติง เปิดมาตั้งแต่ปี 1989”
ที่ผนังด้านหนึ่ง มีรูปวาดช่วงกองทัพญี่ปุ่นโจมตีนครฉงชิ่งทางอากาศ ร้านนี้มีโต๊ะทั้งหมด 22 โต๊ะและสามารถรองรับลูกค้าได้มากกว่า 200 คน มีระบบระบายอากาศ แอร์คอนดิชั่นและเครื่องลดความชื้นในอากาศด้วย
ร้านหม้อไฟด่งติง
เมื่อปีที่แล้ว สื่อท้องถิ่นรายงานว่า หญิงสูงอายุรายหนึ่งซึ่งเคยมาหลบระเบิดในหลุมหลบภัยที่ตอนนี้กลายเป็นร้านด่งติง เดินทางมากินอาหารที่ร้านนี้ด้วย ลูกชายของเธอเล่าว่า แม่ของเขารู้สึกผูกพันมากกับหลุมหลบภัยนี้
"เดง"รับช่วงธุรกิจร้านนี้มาจากญาติคนหนึ่งซึ่งเช่าบังเกอร์หลบระเบิดนี้และเปลี่ยนเป็นร้านอาหารประมาณปี 1986 หลังสงคราม บังเกอร์นี้เคยเป็นที่เก็บผักและผลไม้ดองมาก่อน
“เราไม่นึกว่า ร้านหม้อไฟนี้จะประสบความสำเร็จมากมายอย่างนี้ พ่อครัวมีอายุเกือบ 60 แล้ว รสชาติอาหารยังอร่อยเหมือนเดิมเหมือนตอนเริ่มเปิดร้าน” เดงเล่าว่า อากาศในร้านจะอบอุ่นในหน้าหนาวและเย็นสบายในหน้าร้อน
อุณหภูมิในหน้าร้อนในร้านจะประมาณ 12-14 องศาเซลเซียสโดยไม่ต้องเปิดแอร์ จริงๆ แล้ว เขาเปิดแอร์ในช่วงหน้าหนาวเพื่อบรรเทาความร้อนจากหม้อไฟ
หลุมหลบภัยในฉงชิ่งนี้เคยถูกใช้เป็นโลเคชั่นในภาพยนตร์มาแล้ว Chongquing Hotpot เป็นภาพยนตร์แนวตลกขบขันและออกฉายเมื่อปี 2016 เป็นเรื่องของเพื่อน 3 คนซึ่งร่วมลงทุนเปิดร้านหม้อไฟในหลุมหลบภัยแห่งหนึ่งในฉงชิ่ง
ต่อมา พวกเขาพบว่า อีกด้านหนึ่งของผนังของร้านคือ ห้องนิรภัยของของธนาคาร พวกเขาปรึกษากันว่า จะเจาะเข้าห้องนิรภัยเพื่อขโมยเงินหรือแจ้งตำรวจดี แต่เมื่อพวกเขารู้ว่า พนักงานคนหนึ่งของธนาคารเคยเป็นเพื่อนร่วมชั้นเรียนกันมาก่อน ทำให้พวกเขาตัดสินใจได้ไม่ยาก
ภาพยนตร์เรื่องนี้ประสบความสำเร็จอย่างมากและทำให้คนทั่วไปได้รู้จักกับพื้นที่ที่ไม่ได้รับความสนใจมาก่อน
ธุรกิจร้านอาหารในหลุมหลบภัย
สำนักงานป้องกันภัยทางอากาศของนครฉงชิ่งรายงานว่า ในแต่ละปี ธุรกิจร้านอาหารในหลุมหลบภัยนี้สามารถสร้างอาชีพได้มากกว่า 100,000 ตำแหน่ง นอกจากนี้ รัฐบาลกำลังจะมีโครงการทางการศึกษาที่จะช่วยให้ประชาชนจดจำประวัติศาสตร์ รักและชื่นชมชีวิต และปรับปรุงการตระหนักรู้เรื่องการป้องกันประเทศอีกด้วย
นอกจากนี้ ในเดือนกันยายน จะมีการเปิดอุโมงค์ที่ถูกใช้เป็นที่หลบภัยการโจมตีทางอากาศให้ประชาชนเข้าชมเป็นครั้งแรกในรอบ 80 ปีเพื่อเฉลิมฉลองครบรอบ 100 ปีของการก่อตั้งพรรคคอมมิวนิสต์จีน
ใบปิดภาพยนตร์เรื่อง Chongqing Hotpot
อุโมงค์นี้อยู่ใต้อนุสรณ์สถานที่สร้างขึ้นเพื่อระลึกการโจมตีนครฉงชิ่งในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 และโศกนาฎกรรมที่เกิดขึ้นในวันที่ 5 มิถุนายน 1941 ซึ่งในวันนั้น เมื่อมีเสียงไซเรนเตือนภัย ประชาชนจีนมากกว่า 10,000 คนต่างพากันวิ่งหนีตายเพื่อหลบภัยในบังเกอร์
แต่ด้วยจำนวนบังเกอร์ที่มีไม่พอ ทำให้มีคนเสียชีวิตจากการเบียดเสียดหรือขาดอากาศหายใจมากกว่า 2,000 คน
ซู ยวนกุย ผู้รอดชีวิตจากการโจมตีทางอากาศบอกว่า มีคนตายจากการโจมตีมากกว่า 30,000 คนและอีกกว่า 6,000 คนที่เสียชีวิตหรือบาดเจ็บจากเหตุการณ์อื่นๆ ในช่วงนั้น ตอนนี้ ซูเป็นผู้อำนวยการของกลุ่มผู้รอดชีวิตจำนวน 188 คนและครอบครัวของเหยื่ออื่นๆ กลุ่มของเธอกำลังดำเนินการทางกฎหมายเพื่อเรียกร้องค่าชดเชยจากญี่ปุ่น
ใบปิดภาพยนตร์เรื่อง Chongqing Hotpot
นครฉงชิง
..............
รูปและเรื่อง เว็บไซต์หนังสือพิมพ์ไชน่า เดลี่และทวิตเตอร์ China Up Close