วรรธนะ กัมทรทิพย์ ถอดหัวใจบันทึก Leica M10-P Limited Edition เฉลิมพระเกียรติฯ
วรรธนะ กัมทรทิพย์ สวมหมวกนักสะสมกล้อง Leica ถอดหัวใจบันทึก Leica M10-P Limited Edition เฉลิมพระเกียรติฯ เชิญชมของจริงในงานประมูล 30 ก.ย.65 ก่อนเข้าสู่เซฟผู้มีจิตศรัทธา เหลือไว้เพียงภาพถ่าย กับกล้องจริง 1 ชุด เก็บรักษา ณ พิพิธภัณฑ์ไลก้า เยอรมนี
กิ๊ฟ วรรธนะ กัมทรทิพย์ ชื่อนี้แฟนรายการเกมส์โชว์ทางโทรทัศน์ยุคเฟื่องฟูคงรู้จักเขาในฐานะพิธีกรอารมณ์ดี บุคลิกร่าเริงสนุกสนาน รวมทั้งเป็นดารานักแสดง ล่าสุดมีผลงานละครโทรทัศน์แนวพีเรียดเรื่อง “คุณชาย” กำหนดออนแอร์ทางช่อง One ตุลาคมนี้
แต่ในวงการคนรักกล้องถ่ายรูปและการถ่ายภาพระดับประเทศ ยังรู้ว่า “กิ๊ฟ วรรธนะ” เป็นช่างภาพฝีมือดี เป็นนักสะสมกล้องถ่ายรูปตัวยงคนหนึ่ง โดยเฉพาะ Leica (ไลก้า) แบรนด์กล้องถ่ายรูปชั้นนำระดับโลกสัญชาติเยอรมันที่ผสานเทคโนโลยีร่วมสมัยเข้ากับการประกอบกล้องด้วยงานฝีมือสุดประณีต และมีประวัติความเป็นมายาวนานถึง 108 ปีในปีนี้
ความรักในการถ่ายภาพยังทำให้เขาเดินเข้าสู่แวดวงของกูรูกล้องถ่ายภาพ ช่างภาพมืออาชีพ มีโอกาสแลกเปลี่ยนความรู้เกี่ยวกับกล้องและการถ่ายภาพ รวมทั้งนำพาให้เขาศึกษารายละเอียดและความเป็นมาของ กล้อง Leica อย่างจริงจัง จนกระทั่งเห็นคุณค่าและหลงรัก กล้อง Leica อย่างถอนตัวไม่ขึ้น
ด้วยฝีมือการถ่ายภาพที่พัฒนาขึ้นเป็นลำดับ “กิ๊ฟ วรรธนะ” เป็นตัวแทนอาชีพนักแสดงเพียงคนเดียวที่ได้รับการคัดเลือกจากหน่วยงานรัฐ ให้เป็น 1 ใน 10 ช่างภาพเมืองไทย เดินทางลงพื้นที่ภาคใต้ในปี 2549 หรือสองปีให้หลังจากเหตุการณ์ธรณีพิบัติ “สึนามิ” ครั้งใหญ่เมื่อปี 2547 แยกย้ายกันถ่ายภาพทะเลและสถานที่ท่องเที่ยวในพื้นที่ที่เคยได้รับผลกระทบจากภัยสึนามิ ว่ากลับมาสวยงามเพียงใด เพื่อให้คนกลับไปเที่ยวภาคใต้อีกครั้ง
ผลงานการถ่ายภาพจำนวน 5 ภาพของช่างภาพแต่ละคน ได้รับการนำไปจัดแสดง ณ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ หอศิลป ถนนเจ้าฟ้า ซึ่งในนิทรรศการในปีนั้นได้รับพระมหากรุณาธิคุณจาก “ในหลวงรัชกาลที่ 9” พระราชทานภาพถ่ายฝีพระหัตถ์จัดแสดงด้วย ยังความปลาบปลื้มและเป็นเกียรติประวัติครั้งหนึ่งในชีวิต
ล่าสุด กิ๊ฟ วรรธนะ กัมทรทิพย์ ได้รับโอกาสทำหน้าที่สำคัญในชีวิตอีกครั้งกับการเป็นพิธีกรใน โครงการประมูลกล้องถ่ายภาพชุดพิเศษ Leica รุ่น M 10-P Limited Edition เฉลิมพระเกียรติ เนื่องในพระราชพิธีบรมราชาภิเษก พ.ศ.๒๕๖๒ (เพื่อ ๒๒ องค์กรการกุศล) ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ วันศุกร์ที่ 30 กันยายน 2565
ความเป็นมาของ Leica M 10-P Limited Edition เฉลิมพระเกียรติฯ
เนื่องในโอกาสมหามงคล พระราชพิธีบรมราชาภิเษก พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว พุทธศักราช 2562 มูลนิธิและองค์กรการกุศลหลักของประเทศ 22 แห่ง และ บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) ร่วมเทิดพระเกียรติด้วยการจัด “โครงการประมูลกล้องถ่ายภาพชุดพิเศษ Leica รุ่น M 10-P Limited Edition เฉลิมพระเกียรติ เนื่องในพระราชพิธีบรมราชาภิเษก พ.ศ.๒๕๖๒ (เพื่อ ๒๒ องค์กรการกุศล)” นำรายได้จากการประมูลโดยไม่หักค่าใช้จ่ายมอบ 22 มูลนิธิและองค์กรการกุศลหลักของประเทศ
กล้องถ่ายภาพ Leica รุ่น M 10-P Limited Edition เฉลิมพระเกียรติฯ ที่นำมาประมูลในโครงการครั้งนี้ จัดสร้างโดยบริษัท Leica ประเทศเยอรมนี มีด้วยกันสองแบบ
คือ ชุดสีเหลือง ประกอบด้วย กล้องดิจิทัล Leica M 10-P ชุบทองคำ หุ้มด้วยหนังจระเข้สีเหลือง พร้อมเลนส์ APO Summicron- M 1:2/50 ASPH และเลนส์ Summilux M1:1.4/35 ASPH ผลิตทั้งสิ้น 10 ชุด แต่ละชุดมีหมายเลขกำกับ 1/10 ถึง 10/10
แบบที่สอง คือ ชุดสีเขียว ประกอบด้วย กล้องดิจิทัล Leica M10-P ชุบทองคำ หุ้มด้วยหนังจระเข้สีเขียว พร้อมเลนส์ Summilux M1:1.4/35 ASPH ผลิตทั้งสิ้น 20 ชุด แต่ละชุดมีหมายเลขกำกับ 1/20 ถึง 20/20
"เมื่อใดที่ Leica นำหน้าตาเก่าๆ มาอยู่ในเลนส์สมัยใหม่ โดยเฉพาะกลีบมะเฟือง..แพงทุกตัว ไม่นับว่าเป็นทองคำ แค่เป็นสีเงินธรรมดา ราคาก็คุยกันไม่รู้เรื่องแล้ว นี่เป็นทองคำด้วย ผมได้แต่ยืนจ้อง" : กิ๊ฟ วรรธนะ กัมทรทิพย์ 
ความพิเศษเหนือความพิเศษ
ใครเป็นสาวก Leica จะรู้ว่าการที่ค่าย Leica จากเยอรมนีจะผลิตกล้องถ่ายภาพลิมิเต็ดพิเศษแต่ละชุดไม่ใช่เรื่องง่าย หลายคนเข้าใจว่ามีเงินก็จ้างได้ แต่จริงๆ แล้วหากแบบกล้องขัดกฎเกณฑ์ที่บริษัทกำหนดไว้ หรือพิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม Leica มีสิทธิ์ไม่รับผลิต แต่สำหรับกล้องถ่ายภาพ 2 ชุดพิเศษนี้เป็นการสั่งทำพิเศษในรูปแบบที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน กิ๊ฟ วรรธนะ กัมทรทิพย์ กล่าวหลังจากได้ชมกล้องของจริงแล้ว
“ผมขอเริ่มจากชุดใหญ่ที่เป็นหนังจระเข้สีเหลืองก่อนนะครับ บอดี้ของ M10-P ชุดพิเศษนี้ ชุบด้วยทองคำจริง และยังไม่เคยมีรุ่นไหนของกล้อง M10-P ที่หุ้มด้วยหนังจระเข้ชุบทองคำอีกเช่นกัน และเป็นการชุบทองคำด้วยเทคโนโลยีสมัยใหม่ ทำให้ทองคำมีความสุกสว่างกว่าเทคโนโลยีในอดีต รวมทั้งสายสะพายกล้องก็เป็นหนังจระเข้
เลนส์ของกล้องพิเศษชุดใหญ่นี้ มีเลนส์ 35 มิลลิเมตร กับเลนส์ 50 มิลลิเมตร ต่างก็เป็นเลนส์รุ่นท็อปสูงสุดของ Leica ในท้องตลาดมี แต่ความพิเศษของบอดี้เลนส์ชุดนี้คือชุบทองคำเหมือนตัวกล้อง และนำดีไซน์กลีบมะเฟืองของวงแหวนโฟกัส เป็นหน้าตาของเลนส์ 50 มิลลิเมตรในยุคแรกๆ คนเล่นกล้อง Leica เรียกกันว่า วงแหวนกลีบมะเฟือง เมื่อใดที่ Leica นำหน้าตาเก่าๆ มาอยู่ในเลนส์สมัยใหม่ โดยเฉพาะกลีบมะเฟือง..แพงทุกตัว ไม่นับว่าเป็นทองคำ แค่เป็นสีเงินธรรมดา ราคาก็คุยกันไม่รู้เรื่องแล้ว นี่เป็นทองคำด้วย ผมได้แต่ยืนจ้อง
hood ของเลนส์ 35 มิลลิเมตร ยังเป็น hood กลีบดอกไม้ ซึ่งอยู่ในเซตที่เรียกได้ว่าเซตพิเศษจริงๆ ของ Leica เลนส์ 35 (มิลลิเมตร) มี hood หลายหน้าตา แต่เลนส์ 35 ตัวนี้ ทางไทยเบฟให้ Leica เยอรมัน ผลิตเป็น 'hood ดอกไม้' และชุบทองคำแบบเดียวกับตัวกล้อง
เลนส์ 50 มิลลิเมตรของ Leica ตัวนี้ก็ถือเป็นตัวท็อปปัจจุบัน มีการใส่ชิ้นเลนส์พิเศษเข้าไป เรียกเลนส์ APO (50 APO Summicron) เป็นเลนส์ที่ถ่ายทอดความคมชัดได้มากที่สุด และเพิ่มค่าสี ในอากาศมีแสงสีฟ้าทำให้ภาพไม่คม แต่ชิ้นเลนส์ APO จะตัดแสงตัวนี้ออกไป จึงทำให้ภาพถ่ายที่ได้จากเลนส์ตัวนี้คมขึ้นไปอีก
และดีไซน์ของเลนส์ตัวนี้เป็นกลีบมะเฟืองอีกเช่นเดียวกัน เป็น 50 APO ที่ภายนอกไม่เหมือน 50 APO ทั่วไป แต่เป็นกลีบมะเฟืองย้อนยุค คือเอาหน้าตาวินเทจมาใส่ในเลนส์สมัยใหม่ บวกความพิเศษใส่ hood และชุบทองคำ นี่คือความพิเศษของชุดสีเหลือง ราคาประมูลเริ่มต้นที่ 1.5 ล้านบาท
สำหรับ ชุดสีเขียว บอดี้รุ่นเดียวกันคือ M10-P ผิวของกล้องเป็นทองคำเหมือนกัน ต่างกันที่หนังจระเข้ที่ใช้หุ้มและสายสะพายกล้องเป็นสีเขียว เลนส์ที่มาคู่กับกล้องชุดนี้เป็นเลนส์ 50 APO ราคาประมูลเริ่มต้นที่ 1 ล้านบาท
คุณกิ๊ฟ วรรธนะ กล่าวด้วยว่า อีกหนึ่งความพิเศษคือ กล้องถ่ายภาพแต่ละรุ่นที่เป็นลิมิเต็ดอิดิชั่นซึ่ง Leica ดีไซน์เอง จะบันทึกประวัติไว้ในหนังสือของพิพิธภัณฑ์ไลก้า แต่ถ้าสั่งผลิตจากภายนอกบริษัท ปกติจะไม่บันทึกไว้ในประวัติของไลก้า
"แต่กล้องถ่ายภาพ Leica รุ่น M 10-P Limited Edition เฉลิมพระเกียรติฯ ได้รับการจารึกไว้ในประวัติการผลิตของแบรนด์ Leica ด้วย และผมเชื่อว่าน่าจะเป็นชุดที่สวยที่สุดในโลก และทรงคุณค่ามากๆ ก่อนหน้านี้กล้องชุด Leica M6 ที่ผลิตขึ้นเพื่อเฉลิมฉลองในวโรกาสที่ ‘ในหลวงรัชกาลที่ 9’ ทรงครองสิริราชสมบัติครบ 50 ปี ก็เคยติด 1 ใน 20 ของกล้องถ่ายภาพที่สวยที่สุดในโลก
และกล้องถ่ายภาพ Leica รุ่น M 10-P Limited Edition เฉลิมพระเกียรติฯ ชุดสีเขียว 1 เซต ยังได้รับการนำไปเก็บไว้ในพิพิธภัณฑ์ไลก้าที่เมือง Wetzlar ในเยอรมนี ร่วมกับกล้องไลก้ารุ่นแรกจนถึงปัจจุบัน"
อะไรทำให้คุณกิ๊ฟสนใจ “กล้องถ่ายรูป”
“ผมเคยนั่งคิดกับตัวเอง มองย้อนกลับไปวัยเด็ก คุณพ่อคุณแม่พาเราไปงานรวมญาติของตระกูล ญาติบางคนมีกล้องถ่ายรูป เราก็สนใจอยากจะถ่ายบ้าง ตอนนั้นไม่มีเงินซื้อ ก็ทุบกระปุกกับน้องสาว เอาเงินที่เก็บไว้ไปซื้อกล้องเล็กๆ ก็คงเป็นเหตุการณ์นั้นที่ทำให้รู้สึกว่าฉันชอบ
ความรู้สึกนั้น เป็นต่อมาถึงช่วงมหาวิทยาลัย ทำอย่างไรให้เราได้ใช้กล้องและทำงานอยู่กับกล้องถ่ายรูป ผมตัดสินใจเข้าเรียนคณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยกรุงเทพ เพราะรู้ว่าคณะนี้เรียนแบบนี้แล้วจะได้ใช้กล้อง และผมก็เริ่มซื้อกล้องตัวแรกวันนั้นเป็น เอฟเอ็มทู นิคอน เลนส์ 35-135 กล้องชุดนี้ก็ยังเก็บไว้อยู่”
"แต่ละแบรนด์มีคาแรคเตอร์ไม่เหมือนกัน กล้องถ่ายรูปเหมือนกันแต่ให้ feel ต่างกัน แล้วแต่คนชอบจริงๆ ผม touching แล้วอยากฟีลกับกล้องไลก้า มันพัฒนาไปคนละแบบ เวลาเราชอบ เราก็เก็บมาเรื่อยๆ ผมไม่ได้เป็นคนเงินถุงเงินถังหรือร่ำรวย เราซื้อเก็บ ปีละตัว ปีละสองตัว ผ่านมา 20 กว่าปี พอร์ตผมก็ใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ" 
เส้นทางสู่ความหลงใหล Leica
“พอเริ่มทำงาน เริ่มมีเงิน แรกๆ ก็ยังใช้กล้องญี่ปุ่น ระหว่างนั้นผมมีสังคมของคนถ่ายภาพ ไปร้านกล้องเกือบทุกวัน เจอรุ่นพี่ เจอผู้ใหญ่ แต่ละท่านเป็นเจ้าของกิจการ นายกสมาคม ทุกคนมารวมกันที่ร้าน เพราะมีความชอบเหมือนกัน คือชอบถ่ายภาพ ชอบเล่นกล้อง
ท่านบอกว่า ตอนนี้เราเล่นกล้องญี่ปุ่น วันหนึ่งถ้าเรามีความชื่นชอบจริงๆ ให้เริ่มดูกล้องจากค่ายเยอรมัน คือ Leica ตอนนั้นถือว่าเป็นกล้องที่แพงกว่ายี่ห้ออื่นๆ และเป็น manual โฟกัสอย่างเดียว ทุกอย่างเกิดจากการที่เราต้องปรับด้วยตัวเราเอง ถ้าจ่ายเงินเท่ากันกับกล้องญี่ปุ่น เราได้กล้องที่ออโตโฟกัสเร็วที่สุด ถ่ายกีฬา จับภาพได้ทุกเฟรม
แต่ละแบรนด์มีคาแรคเตอร์ไม่เหมือนกัน กล้องถ่ายรูปเหมือนกันแต่ให้ feel ต่างกัน แล้วแต่คนชอบจริงๆ ผม touching แล้วอยากฟีลกับกล้องไลก้า มันพัฒนาไปคนละแบบ
เวลาเราชอบ เราก็เก็บมาเรื่อยๆ ผมไม่ได้เป็นคนเงินถุงเงินถังหรือร่ำรวย เราซื้อเก็บ ปีละตัว ปีละสองตัว ผ่านมา 20 กว่าปี พอร์ตผมก็ใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ รวมกับค่าเงินที่แกว่งตัวจาก 25 บาท กลายเป็นของที่มีราคาขึ้นมาจากที่มีคุณค่าในตัวเองอยู่แล้ว ของที่ผมเก็บแต่ละตัวก็มูลค่าเพิ่มขึ้นร้อยเปอร์เซ็นต์ จากเลนส์ Leica ตัวละ 6 หมื่นกว่าบาท ผ่านมายี่สิบปีไปแสนแปด สองแสน ซึ่งวันนั้นเราก็ไม่รู้ว่ามูลค่าจะเยอะขนาดนี้ นี่พูดถึงในแง่สะสมเพื่อการลงทุน แต่ผมสะสมจากความที่เรารักใน Leica
ปลายปีนี้ผมอายุ 47 จากวันนั้นถึงวันนี้ผมสะสมกล้อง Leica เข้าปีที่ 23”
Leica กับยุคเปลี่ยนผ่านจากกล้อง Analog สู่กล้อง Digital
คุณ กิ๊ฟ วรรธนะ กล่าวว่า ทุกค่ายมีรอยต่อจากกล้องฟิล์มเป็นกล้องดิจิทัล ตอนนั้นเกิดกระแสไสก้าจะไปต่อได้หรือไม่ เพราะ know-how ไลก้าตอนนั้น 70 ปีแล้ว พัฒนาแต่กล้อง manual ขณะที่กล้องญี่ปุ่นปรับตัวเร็วกว่า
"ช่วงนั้นมีบางคนคนตกใจ ถอดใจ เอาของออกมาขาย ไลก้าราคาแปดเก้าหมื่นลงมาเหลือสามหมื่น ผมเองก็ตกใจ แต่ผมไม่ขาย ผมไม่ได้อยู่ที่มูลค่า ผมสะสมด้วยความชอบ วันหนึ่งถึงไม่มีมูลค่า ผมยังดีใจเอาออกมาตั้งเรียงทุกตัว สวยดี วันหยุดจับเอามาตั้ง มองก็มีความสุขแล้ว แล้วแต่ passion แต่ละคน”
คุณกิ๊ฟกล่าวด้วยว่า วันหนึ่งไลก้าออกรุ่นดิจิทัล ฟูลเฟรมตัวแรก คือ M9 พลิกชีวิตไลก้า ทำให้คนกลับมาเล่นไลก้าและเล่นเป็นทวีคูณมากกว่าเดิม เนื่องจากสามารถนำเลนส์ไลก้าตัวเดิมๆ ที่เคยมีอยู่ กลับมาใช้กับบอดี้ใหม่ได้ และภาพที่ถ่ายได้กลายเป็นการสร้างสรรค์ภาพถ่ายอารมณ์ใหม่ๆ ที่เป็นเอกลักษณ์ของไลก้า
“มันกลายเป็นภาพฟูลเฟรมในแบบ CCD ของไลก้าที่กล้องยี่ห้ออื่นทำไม่ได้ ซีซีดีคือแผงวงจรของตัวกล้อง แปลงแสงเป็นสัญญาณดิจิทัลออกมาเป็นภาพ ถ้าเอาภาพมาวาง คนเล่นกล้องไลก้าจะรู้เลย ว่าภาพไหนเป็นภาพของกล้องตัวนี้ เป็นเสน่ห์เป็นคาแรคเตอร์ของรุ่นนี้ และทำให้ M9 วันนั้นถึงวันนี้ออกมาได้ประมาณ 10 ปี เป็นกล้องดิจิทัลรุ่นเดียวของไลก้าที่ราคาไม่ตก หรือตกน้อยสุดกว่าดิจิทัลรุ่นอื่นๆ
วันนี้ ไลก้าไม่มีซีซีดีแล้วนะ หลังจาก M9 P มา M240 เปลี่ยนมาเป็น CMOS พอเปลี่ยนแผงวงจรปุ๊บ ภาพที่ได้ก็จะไม่เหมือนรุ่นนั้นแล้ว
นั่นคือเหตุผลที่ว่า M9 ยังคงราคาดีอยู่ เพราะเสน่ห์ของบอดี้กล้องแต่ละรุ่นให้ภาพต่างกัน เหมือนศิลปินวาดรูป ถ่ายภาพเดียวกัน เลนส์เดียวกัน แต่เปลี่ยนบอดี้ สีภาพไม่เหมือนกัน นี่เฉพาะบอดี้ ยังไม่นับความเก่งกาจของเลนส์
แก้วที่ใช้ทำชิ้นเลนส์ของไลก้าแต่ละตัว จะไม่เหมือนเลนส์ค่ายอื่น จุดเด่นของไลก้าคือเลนส์ เขาผลิตกล้องจุลทรรศน์ทางการแพทย์มาก่อนผลิตกล้องถ่ายรูป เลนส์ที่เขาผลิต ทำจากแร่ชนิดพิเศษ เป็นความลับของบริษัท แต่คนซื้อคนใช้จะรู้ว่าพิเศษ
ไลก้าผลิตเลนส์ที่ทำให้ได้ภาพถ่ายงามแบบภาพวาด ศิลปินบางคนสะบัดพู่กันเบาๆ แต่ทั้งภาพมีอารมณ์ ไม่จำเป็นต้องเส้นคม แต่เส้นอ่อนแล้วทำให้ภาพนั้นดูมีชีวิต เลนส์ยุคเก่าไลก้าจะเป็นอย่างนั้น ยิ่งมาใช้กับฟิล์มขาวดำ ยิ่งเป็นเหมือนภาพวาด เลนส์ถ่ายทอดไล่โทนจากสว่างสุดไปดำสุด ใครที่ยังไม่เคยใช้ไลก้าอาจจะไม่เข้าใจที่ผมพูด คนที่เคยใช้ไลก้าเลนส์เก่ากับเลนส์ใหม่จะรู้เลย ว่าสิ่งที่ผมพูดคืออะไร เขาถึงกล้ายอมจ่ายเงินหลักแสนเพื่อซื้อเลนส์”
นี่เป็นความสนุกและความพิเศษเพียงบางส่วนจากผู้ใช้และผู้สะสม Leica กล้องถ่ายภาพระดับตำนานที่สามารถรอดชีวิตจากการเปลี่ยนผ่านสู่กล้องดิจิทัลได้อย่างสง่างาม
คุณกิ๊ฟ วรรธนะ กล่าวเรียนเชิญผู้มีจิตศรัทธาประสงค์ร่วมทำบุญเพื่อประโยชน์สุขของสังคมและประเทศชาติ เชิญเข้าร่วมหรือติดตามงานประมูล กล้องถ่ายภาพชุดพิเศษ Leica รุ่น M 10-P Limited Edition เฉลิมพระเกียรติ เนื่องในพระราชพิธีบรมราชาภิเษก พ.ศ.๒๕๖๒ (เพื่อ ๒๒ องค์กรการกุศล) กล้องถ่ายภาพที่ดีที่สุด จัดทำขึ้นเพื่อวาระสำคัญที่สุด ในวันศุกร์ที่ 30 กันยายน 2565 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ด้วยระบบการประมูลมาตรฐานโดย คริสตีส์ (Christies)
รายได้จากการประมูลทุกบาททุกสตางค์โดยไม่หักค่าใช้จ่ายมอบให้กับ 22 มูลนิธิและองค์กรการกุศลหลักของประเทศ
“เรียกว่าเป็นพลังร่วมครั้งสำคัญที่ยิ่งใหญ่ของ 22 มูลนิธิและองค์กรการกุศล และก็ต้องขอชื่นชมไปถึงทาง บริษัท เบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) ด้วยที่เป็นแกนสำคัญในการเชื่อมโยงและจัดทำกิจกรรมดีดีเพื่อการกุศลในครั้งนี้ขึ้นมา ก็อยากจะขอเชิญชวนผู้สนใจ และวงการนักสะสมกล้องมาร่วมกันสร้างสรรค์ และแบ่งปันคุณค่า ร่วมกันทำความดี เพื่อสร้างประโยชน์สุขเพื่อสังคม และประเทศชาติกันครับ” : กิ๊ฟ วรรธนะ กัมทรทิพย์ 
ภาพ : กอบภัค พรหมเรขา / ไทยเบฟ / วรรธนะ กัมทรทิพย์
