ทำไม'มหาเศรษฐีจีน'หายตัวไปอย่างลึกลับ

ทำไม'มหาเศรษฐีจีน'หายตัวไปอย่างลึกลับ

การหายตัวไปของ'มหาเศรษฐีจีน'หลายคนอย่างลึกลับ เรื่องเหล่านี้มีที่มาที่ไป นักวิเคราะห์โยงไปถึงเรื่องการดำเนินธุรกิจและพรรคคอมมิวนิสต์จีนที่ต้องการอำนาจกลับคืนมา

การหายตัวไปอย่างลึกลับของ เปา ฟาน หนึ่งในมหาเศรษฐีจีน และนายธนาคารที่มีชื่อเสียงที่สุดของประเทศจีนเมื่อเดือนที่แล้วได้จุดประกายให้คนหันมาสนใจปรากฏการณ์การหายตัวไปของเหล่ามหาเศรษฐีจีนอีกครั้ง 

เปา ผู้ก่อตั้งไชน่า เรเนซองส์ วาณิชธนกิจของจีน ซึ่งมีลูกค้ารายใหญ่หลายรายรวมถึงบริษัทเทคโนโลยีเท็นเซ็น อาลีบาบา และไป่ตู้ ถูกมองว่าเป็นยักษ์ใหญ่ในภาคอุตสาหกรรมเทคโนโลยีของประเทศ 

คดีการหายตัวไปของมหาเศรษฐีผู้นี้เกิดขึ้นไม่ต่างจากหลายๆ คดีที่ผ่านมา  นั่นคือ หายตัวไปไม่กี่วัน ก่อนที่บริษัทของเขาจะประกาศว่า เขากำลังให้ความร่วมมือในการสืบสวนที่ดำเนินการโดยหน่วยงานบางแห่งของสาธารณรัฐประชาชนจีน 

 

ทำไม\'มหาเศรษฐีจีน\'หายตัวไปอย่างลึกลับ  เบา ฟาน (ภาพจาก lagou.com.) 

 

และเหมือนจะกลายเป็นธรรมเนียมปฏิบัติไปแล้ว นั่นคือ ไม่มีการระบุว่าหน่วยงานใดกำลังดำเนินการสอบสวน หรือสอบสวนเรื่องอะไร หรือตอนนี้เปาอยู่ที่ไหน  

ปริศนาลึกลับเกี่ยวกับการหายตัวไปของเปาเกิดขึ้นหลังจากนักธุรกิจชื่อดังของจีนจำนวนหนึ่งหายตัวไปในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา รวมถึงแจ็ค หม่า ผู้บริหารระดับสูงของอาลีบาบา  

ในขณะที่ข่าวของมหาเศรษฐีที่หายตัวไป มักจะได้รับความสนใจมากกว่า ยังมีกรณีที่พลเมืองจีนหายสาบสูญไปหลังจากเข้าร่วมประท้วงต่อต้านรัฐบาลหรือรณรงค์เพื่อสิทธิมนุษยชน แต่กลับได้รับความสนใจน้อยกว่า 

 

 

  • วิธีควบคุมอำนาจของสี จิ้นผิง 

การหายตัวไปของเปาจุดประกายให้คนคิดว่า หรือนี่เป็นหนึ่งในวิธีที่ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ผู้นำจีนใช้ควบคุมระบบเศรษฐกิจจีน 

ในการประชุมสภาประชาชนแห่งชาติจีนวันที่ 10 มีนาคมที่ผ่านมา สภาลงมติเป็นเอกฉันท์เลือกสี นั่งเก้าอี้ประธานาธิบดีต่อเป็นสมัยที่ 3 โดยมีวาระการดำรงตำแหน่งอีก 5 ปี ทำให้เขากลายเป็นผู้นำที่ทรงอำนาจมากที่สุดของจีน โดยจะปกครองประเทศไปจนถึงวัย 70 ถ้าไม่มีใครขึ้นมาท้าทาย 

ความเคลื่อนไหวนี้เป็นไปตามการคาดการณ์ หลังจากเมื่อเดือนตุลาคม 2565 เขาได้รับเลือกให้ดำรงตำแหน่งเลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์ และผู้บัญชาการกองทัพต่ออีก 5 ปี ซึ่งทำให้สี กลายเป็นผู้นำที่ทรงอำนาจมากที่สุดของประเทศ นับตั้งแต่ เหมา เจ๋อตง 

 

ทำไม\'มหาเศรษฐีจีน\'หายตัวไปอย่างลึกลับ แจ็ค หม่า (ภาพเอเอฟพี) 

 

  • มหาเศรษฐีคนไหนหายตัวไปบ้าง  

เฉพาะในปี 2558 เพียงปีเดียว ผู้บริหารบริษัทอย่างน้อย 5 คนไม่มีใครติดต่อได้ รวมถึง กัว กวนชาง ประธานกลุ่มบริษัทโฟซัน อินเตอร์เนชั่นแนลของจีน ซึ่งเป็นที่รู้จักกันดีในยุโรปในฐานะเจ้าของสโมสรฟุตบอลวูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอเรอร์ ของอังกฤษ 

กัวหายตัวไปในเดือนธันวาคมของปีนั้น โดยบริษัทของเขาประกาศหลังจากที่เขาปรากฏตัวอีกครั้งว่าเขาได้ให้ความช่วยเหลือทางการในการสืบสวน 

สองปีต่อมา เชี่ยว เจี้ยนหัว นักธุรกิจลูกครึ่งจีน-แคนาดา ถูกลักพาตัวจากโรงแรมหรูในฮ่องกง เขาเคยเป็นหนึ่งในบุคคลที่ร่ำรวยที่สุดของจีน และเมื่อปีที่แล้วเขาถูกตัดสินจำคุกในข้อหาคอร์รัปชั่น  

ในเดือนมีนาคม  2563 เหริน จื้อเฉียง มหาเศรษฐีด้านอสังหาริมทรัพย์ชาวจีน ซึ่งเขียนบทความวิจารณ์บทบาทของสีในการรับมือการระบาดของโรคโควิด-19 ก็หายตัวไปหลังจากเรียกสีว่า "ตัวตลก" ในการจัดการโรคระบาด และในปีเดียวกัน เขาถูกตัดสินจำคุก 18 ปีในข้อหาคอร์รัปชั่น หลังใช้เวลาพิจารณาคดีเพียงวันเดียว   

มหาเศรษฐีที่หายตัวไปที่โด่งดังมากที่สุดคือแจ๊ค หม่า ผู้ก่อตั้งอาลีบาบา บุคคลที่ร่ำรวยที่สุดในประเทศจีนในตอนนั้นหายตัวไปตอนปลายปี 2563 หลังจากวิพากษ์วิจารณ์หน่วยงานกำกับดูแลภาคการเงินของประเทศ  

แผนการนำแอนท์ กรุ๊ป ซึ่งเป็นฟินเทคยักษ์ใหญ่ในเครืออาลีบาบา เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ถูกระงับ แม้แจ็ค หม่าจะบริจาคเงินเกือบ 1 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐให้กับกองทุน “Common Prosperity” ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของนโยบาย “เจริญรุ่งเรืองร่วมกัน”  ของจีน เพื่อมุ่งลดความเหลื่อมล้ำ และนำพาประเทศจีนก้าวสู่สังคมที่รุ่งเรืองอย่างทั่วถึง ไม่มีใครเห็นแจ็ค หม่าในจีนมานานกว่า 2 ปี แต่เขายังไม่ได้ถูกตั้งข้อหาก่ออาชญากรรมใดๆ  

ยังไม่ชัดเจนว่า ตอนนี้แจ็ค หม่าอยู่ที่ไหน แม้จะมีรายงานว่ามีคนเห็นเขาในญี่ปุ่น ไทย และออสเตรเลียในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา  

 

ทำไม\'มหาเศรษฐีจีน\'หายตัวไปอย่างลึกลับ กัว กวนชาง (ภาพเอเอฟพี) 

 

  • ทวงคืนอำนาจทางธุรกิจ 

รัฐบาลจีนยืนยันว่า การจัดการกับบุคคลที่ร่ำรวยที่สุดของประเทศบางคนนั้นมาจากเหตุผลทางกฎหมายล้วนๆ และให้คำมั่นว่าจะขจัดการคอร์รัปชั่น แต่การกระทำของรัฐบาลยังสวนทางกับการเปิดประเทศเสรีของประเทศที่มีเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลก 

การเปิดประเทศของจีนช่วยสร้างกลุ่มมหาเศรษฐีระดับหลายพันล้านหลายคน และด้วยความมั่งคั่งของพวกเขา ทำให้พวกเขามีศักยภาพที่จะใช้อำนาจมหาศาลได้ 

นักสังเกตการณ์บางคนกล่าวว่า ภายใต้การนำของสี พรรคคอมมิวนิสต์จีนต้องการเอาอำนาจนั้นกลับคืนมา และกำลังดำเนินภารกิจในลักษณะที่เต็มไปด้วยความลึกลับ 

ธุรกิจขนาดใหญ่โดยเฉพาะอุตสาหกรรมเทคโนโลยีเติบโตและมีอำนาจมากขึ้นภายใต้นโยบายของเจียง เจ๋อ หมิน และหู จิ่นเทา ผู้นำรุ่นก่อนของสี ก่อนหน้านั้นรัฐบาลจีนให้ความสำคัญกับศูนย์กลางอำนาจแบบดั้งเดิม ซึ่งรวมถึงกองทัพ อุตสาหกรรมหนัก และรัฐบาลท้องถิ่น 

ในขณะที่สี ยังคงควบคุมศูนย์กลางอำนาจดังกล่าวอย่างเข้มข้น เขายังขยายขอบเขตความสนใจไปที่ระบบเศรษฐกิจและนำมาอยู่ภายใต้การควบคุมของเขามากขึ้น นโยบายความเจริญรุ่งเรืองร่วมกันของเขานำไปสู่การปราบปรามครั้งใหญ่ในระบบเศรษฐกิจ โดยอุตสาหกรรมเทคโนโลยีถูกตรวจสอบเป็นพิเศษ 

“บางทีเหตุการณ์เหล่านั้นถูกจัดขึ้น เพื่อส่งข้อความในวงกว้างไปยังกลุ่มอุตสาหกรรมหรือกลุ่มผลประโยชน์บางกลุ่ม” นิค มาร์โร จากหน่วยงานวิเคราะห์เศรษฐกิจของนิตยสาร ดิ อีโคโนมิสต์ กล่าวกับบีบีซี 

 

ทำไม\'มหาเศรษฐีจีน\'หายตัวไปอย่างลึกลับ เชี่ยว เจี้ยนหัว (ภาพ CUHK) 

 

มาร์โร กล่าวเสริมว่า ท้ายที่สุดแล้ว มันสะท้อนให้เห็นถึงความพยายามในการรวมศูนย์อำนาจและควบคุมระบบเศรษฐกิจบางส่วน ซึ่งเป็นสไตล์การปกครองของสี ในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา 

ด้านพอล ทริโอโล หัวหน้าแผนกนโยบายจีนและเทคโนโลยีของอัลไบร์ท สโตนบริดจ์ กรุ๊ป บริษัทที่ปรึกษาระดับโลก กล่าวว่า รัฐบาลปักกิ่งยังคงมุ่งเน้นไปที่การสร้างความมั่นใจว่าแพลตฟอร์มเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ และเจ้าของจะไม่พัฒนาแบรนด์ รวมถึงสร้างอิทธิพลของตนเอง จนทำให้ยากเกินกว่าที่รัฐบาลจะควบคุมหรือมีแนวโน้มที่จะดำเนินธุรกิจที่ขัดต่อความต้องการของรัฐบาล 

นอกจากนี้ กุญแจสำคัญสู่ความเจริญรุ่งเรืองร่วมกันคือ หลักนิติธรรม และกฎนั้นต้องใช้กับคนรวยและคนจนเหมือนๆ กัน 

รัฐบาลจีนยืนยันว่า นโยบายดังกล่าวมีเป้าหมายเพื่อลดช่องว่างความมั่งคั่งที่กว้างขึ้น ซึ่งหลายคนเห็นพ้องต้องกันว่า เป็นปัญหาสำคัญที่อาจบ่อนทำลายจุดยืนของพรรคคอมมิวนิสต์จีน หากปล่อยไว้โดยไม่แก้ไข ปัญหาความไม่เท่าเทียมกันในจีนเพิ่มมากขึ้น  

  • กระทบภาคธุรกิจของประเทศ  

ปริศนาเกี่ยวกับการหายตัวไปของมหาเศรษฐีพันล้าน ตลอดจนความกังวลที่เพิ่มมากขึ้นเกี่ยวกับการจัดการภาคธุรกิจของรัฐบาลจีนอาจส่งผลกระทบโดยไม่ได้ตั้งใจอย่างมีนัยสำคัญ 

นักสังเกตการณ์บางคนมองว่า รัฐบาลจีนมีความเสี่ยงที่จะกีดขวางหรือบั่นทอนความสามารถของนักธุรกิจรุ่นใหม่ๆ  

“สิ่งที่เป็นอันตรายสำหรับรัฐบาลจีนในการจ้องเล่นงานมหาเศรษฐี เจ้าของบริษัทเทคโนโลยีคือการสร้างแรงกดดันให้กับผู้ประกอบการด้านเทคโนโลยีที่หวังว่าจะเป็นแจ็ค หม่า คนต่อไป” ทริโอโล กล่าว 

 

ทำไม\'มหาเศรษฐีจีน\'หายตัวไปอย่างลึกลับ  เหริน จื้อเฉียง (ภาพ ซีเอ็นเอ็น) 

 

ดูเหมือนสี จะตระหนักถึงความเสี่ยงที่จะสร้างความหวาดกลัวต่อความเชื่อมั่นทางธุรกิจ ในการกล่าวสุนทรพจน์ต่อผู้แทนสภา เขาเน้นย้ำถึงความสำคัญของภาคเอกชนที่มีต่อจีน แต่เขาเรียกร้องให้บริษัทเอกชนและผู้ประกอบการ "ร่ำรวยและมีความรับผิดชอบ ร่ำรวยและมีคุณธรรม และร่ำรวยและมีความรัก" 

รัฐบาลจีนประกาศตั้งหน่วยงานกำกับดูแลภาคธุรกิจการเงินขึ้นมาใหม่ ซึ่งเจ้าหน้าที่ระบุว่า จะช่วยปิดช่องโหว่ในปัจจุบันที่มีหลายหน่วยงานแยกส่วนกำกับดูแลอุตสาหกรรมบริการการเงินของจีน ซึ่งมีมูลค่าหลายล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ นอกจากนี้ธนาคารยังได้รับคำเตือนเมื่อเดือนที่แล้วว่า อย่าเอาอย่างชาวตะวันตก ซึ่งนักวิเคราะห์มองว่านี่เป็นสิ่งชี้ว่าสี จิ้นผิง อาจจะเข้าไปจัดการภาคการเงินต่อไป  

"ในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา เราเห็นการบอกเป็นนัยๆ ว่า จะนำนโยบายความเจริญรุ่งเรืองร่วมกันมาใช้กับภาคการเงิน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในส่วนที่เกี่ยวข้องกับเงินเดือนหรือค่าตอบแทนและโบนัสสำหรับผู้บริหารระดับสูง ตลอดจนช่องว่างของเงินเดือนระหว่างผู้บริหารและพนักงานระดับล่าง" มาร์โร กล่าว 

คงต้องติดตามกันต่อไปว่า การปราบปรามมหาเศรษฐีของสี จะช่วยให้เขายึดกุมอำนาจได้อย่างเบ็ดเสร็จหรือไม่ แต่สิ่งที่มีความเสี่ยงอย่างแน่นอนคือ ความเชื่อมั่นในตลาดการเงิน ธุรกิจและเศรษฐกิจโดยรวมของจีน 

 


 

.............

ที่มา เว็บไซต์บีบีซี