'ดวงเมือง' ลิขิตเรื่องใดไว้ : 241 ปีครบรอบวันเกิดประเทศไทย
หลังจากปักหลักสร้างเมือง ผ่านเลยมา 241 ปี ในปีนี้ (2566) ดวงเมืองประเทศไทยจะเป็นอย่างไร โหรคนนี้ มีเรื่องบอกเล่า จากการคำนวณตำแหน่งดวงดาว ฤกษ์ยามโยงกับเรื่องราวในประวัติศาสตร์
ถ้าว่ากันด้วยเรื่อง ดวงเมือง ก็ต้องดูกันตั้งแต่ประวัติศาสตร์ ดวงดาวในจักรวาล และคำทำนายโหราศาสตร์ไทย นับตั้งแต่ทำพิธียกเสาตั้งศาลหลักเมือง เมื่อวันที่ 21 เมษายน 2325 เวลา 06.54 น. จนถึงปัจจุบันประเทศไทยมีอายุครบ 241 ปี แม้ในอดีตจะมีการตั้งเสาหลักเมืองขึ้นใหม่ในสมัยรัชกาลที่ 4 แต่ส่วนใหญ่โหรไทยยังใช้ฤกษ์ยามในสมัยรัชกาลที่ 1 เพื่อพยากรณ์ ชะตาเมือง
และหากใครกำลังคาดหวังว่า หลังการเลือกตั้งจะเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ ในมุมของโหรคนนี้ แม้ไม่อาจทำนายว่า ใครจะได้เป็นนายกรัฐมนตรี แต่มีแนวโน้มบางอย่างที่น่าสนใจ...
ฤกษ์งาม ยามดีการตั้งเมือง ปี 2325
นับตั้งแต่มีการสถาปนาเมือง ตั้งศาลหลักเมือง ฤกษ์ยามที่ดีที่สุดที่โหรสมัยต้นกรุงรัตนโกสินทร์ใช้ ยังคงใช้สืบมาจนถึงปัจจุบัน ฤกษ์งามยามดีได้กำหนดดวงชะตาประเทศไทยไว้บ้างแล้ว ส่วนสถานการณ์จะเป็นเช่นไร ยังมีปัจจัยอื่นๆ ด้วย
"ดวงของประเทศเรา ถูกวางให้เป็นผู้ตาม และเป็นดวงที่มีเสถียรภาพ คือ ประชาชนไม่มีวันอดอยาก พุทธศาสนามีความยั่งยืน คนยากไร้ได้พึ่งศาสนา เพราะฤกษ์ที่วางไว้ดาวเสาร์และดาวพฤหัสบดีอยู่ในราศีธนู และวางอาทิตย์และอังคารไว้เด่น" อาจารย์วรพล ไม้สน กรรมการมูลนิธิสมาคมโหรแห่งประเทศไทยในพระสังฆราชูปถัมภ์ กล่าว ในฐานะผู้เชี่ยวชาญด้านโหราศาสตร์ไทยและดาราศาสตร์ รวมถึงประวัติศาสตร์
ฤกษ์ยามของดวงเมืองที่วางไว้คือ วางจันทร์เป็นเกษตร ก็คือความอุดมสมบูรณ์ และวางอาทิตย์เป็นมหาอุจจ์อยู่ราศีเมษ ตามตำราผู้ปกครองไม่ว่าจะเป็นใครก็ตาม พวกเขาจะคำนึงถึงหน้าตาของตัวเองก่อนไม่ยอมทำให้ประเทศเสียหายง่ายๆ คือ ประชากรในประเทศไทยไม่มีวันอดตาย ถ้าดวงเมืองจะเปลี่ยนแปลงไปจากนี้ มีแนวโน้มใน 5 ปีข้างหน้า ในช่วงที่ดาวเสาร์เข้าราศีเมษ แต่ตอนนี้ดาวเสาร์อยู่ราศีกุมภ์"
(ปัจจุบันโหรใช้ฤกษ์ยามการตั้งศาลหลักเมืองสมัยรัชกาลที่ 1 ในการทำนายดวงเมือง)
ฤกษ์ยามการตั้งกรุงรัตนโกสินทร์
ว่ากันว่า สมัยธนบุรีการขยายพระราชวังและชุมชนเมืองเป็นเรื่องยาก จึงต้องขยายเมืองมาทางฝั่งตะวันออกของแม่น้ำเจ้าพระยา หลังจากรัชกาลที่ 1 ปราบกบฎและจลาจลเสร็จเรียบร้อย บ้านเมืองสงบสุข จึงลงเสาหลักเมืองปักหมุดหมายสร้างเมืองใหม่
“เป็นช่วงระหว่างกรุงเก่าและกรุงใหม่ เพื่อสร้างกรุงรัตนโกสินทร์ให้รุ่งโรจน์เหมือนกรุงศรีอยุธยา สร้างหลักเมืองที่เป็นหมุดหมายก่อนสร้างพระราชวัง มีการขุดคูเมืองใหม่คลองบางลำพู จนมาถึงป้อมพระสุเมรุ และปากคลองตลาด เพื่อขยายเมืองไปทางฝั่งตะวันออก ซึ่งเป็นคูเมืองที่ล้อมพระนคร ฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาและธนบุรี เป็นการปักหมุดหมาย 21 เมษายน ปี 2325 ตอนรุ่งอรุณ เป็นเวลาฤกษ์ที่เป็นตัวแทนดวงเมืองกรุงรัตนโกสินทร์"
แม้คนส่วนใหญ่มองว่า ฤกษ์ยามหลักเมืองสิ้นสุดสมัยรัชกาลที่ 4 เนื่องจากทรงสร้างหลักเมืองต้นใหม่เสริมเข้ามา อาจารย์วรพล บอกว่า ไม่ถูกต้องนัก พระองค์ยังทรงอยู่ในราชวงศ์ ไม่ได้ย้ายเมืองหรือตั้งชื่อเมืองใหม่ โดยโหรสมัยรัชกาลที่ 5 ยังคงใช้ฤกษ์การตั้งศาลหลักเมืองในสมัยรัชกาลที่ 1 ในการพยากรณ์ทางโหราศาสตร์และโหรในรัชกาลต่อๆ มาก็ใช้ฤกษ์ยามสมัยรัชกาลที่ 1 เช่นกัน
"โหรบางท่านบอกว่า เวลาทำนายดวงเมืองปัจจุบัน ต้องเอาดวงเมืองสมัยรัชกาลที่ 4 และตอนเปลี่ยนแปลงการปกครองปี 2475 มาประกอบกัน แต่โหรส่วนใหญ่ยังใช้ดวงเมืองสมัยรัชกาลที่ 1 เทียบเคียงพยากรณ์ในภาพรวม"
(อาจารย์วรพล ไม้สน กรรมการมูลนิธิสมาคมโหรแห่งประเทศไทยในพระสังฆราชูปถัมภ์)
(ศาลหลักเมือง ปี 2566 มีอายุครบ 241 ปี)
ตอนสร้างศาลหลักเมืองสมัยรัชกาลที่ 1 ถือเป็นฤกษ์ที่ดีที่สุดช่วงเวลานั้น เป็นช่วงเวลาที่ปราบกบฎแล้ว เตรียมสร้างเมืองใหม่อีกฝั่งของบางกอก ดวงที่วางไว้ทำให้ประเทศไทยตามกระแสรวมของโลกอยู่แล้ว"
ดวงเมืองที่มีเสถียรภาพ
เหมือนเช่นที่กล่าวมา ภาพรวมดวงเมืองประเทศไทยจะตามกระแสโลกมากกว่านำกระแส ภาวะของโลกเป็นแบบไหน ดวงเมืองจะโน้มเอียงตามนั้น อาจารย์วรพล บอกว่า ประเทศเราไม่มีทางที่จะสร้างกระแสใหม่ในโลกใบนี้ แม้จะมีความโดดเด่นบางอย่าง แต่ไม่สามารถนำเพื่อเป็นกระแสหลักของโลกได้
“ในอนาคตการเงินของโลกอาจมีการเปลี่ยนแปลงระบบเดียว เป็นไปได้ว่า คนทั้งโลกอาจถือเงินสกุลใดก็ได้ ไม่ว่าจะเดินทางไปประเทศไหนก็ใช้เงินประเทศนั้นได้เลย โดยมีแอพฯ หรือระบบกลางระบบหนึ่งเปลี่ยนแปลงค่าเงินโดยอัตโนมัติ"
ส่วนการเลือกตั้งผู้แทนราษฎร จากที่กำหนดไว้วันที่ 7 พค. เปลี่ยนเป็นวันที่ 14 พค. สถานการณ์จึงมีความคลุมเครือ เรื่องนี้ ผู้เชี่ยวชาญด้านโหราศาสตร์ คนเดิมทำนายว่า การเลือกตั้งครั้งนี้จะเหมือนครั้งที่ผ่านๆ มา พรรคที่ได้คะแนนเสียงข้างมาก อาจไม่ได้จัดตั้งรัฐบาล
"ผมมองว่า ยังเป็นประชาธิปไตยแบบเดิมๆ ซึ่งเป็นเรื่องปกติในเมืองไทย การเลือกตั้งครั้งนี้ยังไม่ก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงมากมายนัก ในแง่โหราศาสตร์การโคจรของดวงดาวในวันเลือกตั้งและเวลาปิดหีบเลือกตั้ง ทำนายว่า เราคงได้นักการเมืองที่มองเรื่องผลประโยชน์เฉพาะหน้าและผลประโยชน์เฉพาะกลุ่ม ยังไม่มีใครมองผลประโยชน์ของประเทศ จึงเรียกว่าคงเหมือนเดิม"
เมืองเวียนมาครบรอบ 241 ปี
หากถามว่า ทำไมดวงประเทศไทย ไม่สามารถทำนายล่วงหน้าหลายๆ ปี อาจารย์วรพล บอกว่า แม้ประเทศจะวางแผนการพัฒนาประเทศไว้ยาวไกลแค่ไหน ก็ไม่เคยได้นำมาใช้
"ดวงเมืองอย่างไรก็ตามก็ต้องทำนายปีต่อปี ถ้าเป็นประเทศอื่นจะทำนายในระยะยาวได้ พูดแบบง่ายๆ เลยเรามีแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติผ่านมากี่ฉบับ การศึกษาวิเคราะห์ที่ทำไว้ไม่เคยได้นำมาใช้ ซึ่งผมไม่โทษรัฐบาลชุดไหนเลย
ยุทธศาสตร์การพัฒนาประเทศในอนาคต 10 หรือ 20 ปี นั่นเป็นการประมวลภาพจากข้อมูลในปัจจุบันขณะนั้น ซึ่งสมัยก่อนเทคโนโลยีไม่สามารถเปลี่ยนโลกได้เหมือนยุคปัจจุบัน ประเทศเราแค่ตามเทรนด์เทคโนโลยี จะประเมินได้แค่ใครเป็นผู้ใช้เทคโนโลยี และเจ้าของเทคโนโลยีที่ถือครองในภาคการเมืองโลก"
นอกจากนี้ผู้ศึกษาโหราศาสตร์ไทยและดาราศาสตร์มาอย่างต่อเนื่องหลายสิบปี ยังพยากรณ์สถานการณ์ล่าสุดในอีกไม่กี่เดือนว่า
"ดาวเสาร์ย้ายเข้าราศีกุมภ์ คือลมร้อนและลมมีละอองคือฝุ่นผง พฤหัสบดีเข้าราศีเมษทำให้ธาตุไฟแรงขึ้น ราหูช่วงปลายปีจะยกเข้าราศีมีน หมายความว่าธาตุน้ำแปรปรวน ฝนจะตกหนักช่วงปลายฤดู และไม่ได้ตกสม่ำเสมอเหมือนเมื่อก่อน
ส่วนช่วงดาวมฤตยูเข้าราศีพฤษก ซึ่งราศีนี้เป็นเรื่องการเงินของโลก สถานะบางอย่างจะเปลี่ยนไป ถามว่ามีเปลี่ยนแปลงด้านไหน อยู่ที่ตัวแปรด้านการเงินของโลก"