'ช้างน้อย กุญชร ณ อยุธยา' ถึงเวลาต้องใช้ 'Regenerative' ฟื้นฟูโลก
สภาพภูมิอากาศโลกในปัจจุบัน เปลี่ยนผ่านจากโลกร้อนสู่โลกเดือดแล้ว วิธีการรับมือฟื้นฟูโลกก็ต้องปรับเปลี่ยนให้ทันกัน แนวทาง 'Regenerative' คือคำตอบ
ช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา เราได้ไปร่วมงาน เทศกาลกาแฟ Thailand Coffee Fest 2024 ที่รวมสุดยอดสินค้าและบริการ และกิจกรรมที่น่าสนใจสำหรับคนรักกาแฟไว้ด้วยกัน
รู้สึกได้ถึงความเปลี่ยนแปลงจากปีแรก ๆ ที่มีการจัดงานนี้ อันดับแรกคือ พื้นที่
"ปีแรกที่เราจัดมีพื้นที่ 4,000 ตารางเมตร ต่อมาเป็น 5,000 เป็น 10,000 เป็น 15,000 ล่าสุดปีนี้ 20,000 ตารางเมตร มีกิจกรรมพิเศษ 7 โซน มีบูธร้านค้ากว่า 300 ร้าน
ปีที่แล้วเราเริ่มมีงานแข่ง World Coffee Event หาตัวแทนประเทศไทยไปแข่งในระดับโลก ปีนี้มีโซน Coffee Around The World มีแชมป์โลกจากหลายประเทศมาร่วมงานมากมาย"
ช้างน้อย กุญชร ณ อยุธยา Cr. Kanok Shokjaratkul
ช้างน้อย กุญชร ณ อยุธยา กรรมการผู้จัดการ บริษัท คลาวด์แอนด์กราวนด์ จำกัด กล่าวถึงพัฒนาการการจัดงานที่ผ่านมาให้ฟังและพูดถึงที่มาของเทศกาลกาแฟ Thailand Coffee Fest ว่า
"เราอยากใช้ story telling ทำให้ชีวิตคนไทยดีขึ้น กาแฟ มี story ที่ครบลูป หมายความว่า กาแฟที่ดี โดยเฉพาะในไทย ต้องอยู่ในป่าที่อุดมสมบูรณ์ ถ้ากาแฟดี ป่าก็จะดี ป่าก็จะผลิตต้นน้ำที่ดี ไหลไปสู่คนปลายน้ำ
Cr. Kanok Shokjaratkul
เส้นทางของกาแฟ ไม่ได้แค่ป่าดีอย่างเดียว คนบนดอยที่ปลูกกาแฟ ถ้าเราทำให้มูลค่ากาแฟดีขึ้น เขาก็ไม่ต้องออกจากบ้าน เข้ากรุงมาทำงาน มาอยู่ในระบบที่เขาไม่ถนัด เขาจะได้อยู่ที่บ้านเกิด อยู่ในพื้นที่ของเขา แล้วมีความสุข มีคุณค่า
Process กาแฟ มีตั้งแต่ คนปลูก, คนเอากาแฟมาตาก, คนเอามาคั่ว คั่วเสร็จปุ๊บ มาที่บาริสต้า มาถึงคนดื่ม สิ่งที่งานนี้ทำคือ สร้างคนดื่มที่มีองค์ความรู้ รู้ว่ากาแฟที่ดีคืออะไร
Cr. Kanok Shokjaratkul
ถ้าคนดื่มเลือกกาแฟที่ดี มันจะเกิดปฏิกิริยาย้อนกลับคือ คนดื่มดี บาริสต้าก็ต้องทำกาแฟดี คนคั่วก็ต้องคั่วกาแฟที่ดี สุดท้ายเกษตรกรก็ต้องปลูกกาแฟที่ดี แล้วกาแฟที่ดีก็ต้องมาจากป่าที่ดีด้วย
ถ้ากาแฟดี มีมูลค่า มีคุณค่า ก็จะป้องกันป่าไปในตัว ชาวบ้านก็จะหวงแหนป่า ไม่อยากทำลายป่า ไม่อยากทำไร่เลื่อนลอย เพราะทำกาแฟแล้วมันได้มูลค่า
Cr. Kanok Shokjaratkul
จากการจัดงานกาแฟมา 7-8 ปี พบว่า มันสร้างมูลค่าให้กับ Supply Chain กาแฟนี้จริง ๆ จากเดิม ขายกาแฟกิโลละเท่านี้บาท มันเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยยะสำคัญ กับการจัดงานนี้
งานนี้ ไม่ใช่งานแสดงสินค้า เรามีการประกวดสุดยอดเมล็ดกาแฟ เกษตรกรจะส่งเมล็ดกาแฟมาให้คนในเมืองอย่างเรา ที่ไม่ได้ตัดสินกันเอง เชิญกรรมการจากต่างประเทศมา Certify ว่า กาแฟปีนี้คุณดีหรือยัง ต้องปรับอะไร ปีหน้าคุณต้องใส่อะไรเพิ่ม ปีหน้าคุณควรทำอะไรที่มันดีขึ้น"
Cr. Kanok Shokjaratkul
-
งานประจำปีของคนรักกาแฟ
ในงานนี้ เราได้เห็นกลุ่มชาติพันธุ์ที่เป็นคนปลูกกาแฟ เห็นคนรุ่นใหม่ที่เป็น Roasters เห็นคนอายุ 20 เป็นแชมป์ประเทศไทย ไปแข่งต่อในต่างประเทศ
"ปีนี้ มีคนระดับโลกมาเยอะขึ้น ผมเห็นแชมป์โลกปีที่แล้ว มาเอง มาเดินอยู่ในงาน แล้วก็มีอีกหลายคน
ในมุมของกาแฟ งานนี้ใหญ่เป็นอันดับสองของโลก รองจากเกาหลีใต้
Cr. Kanok Shokjaratkul
แต่ที่เราเจ๋งกว่าเกาหลีใต้คือ ประเทศเราปลูกกาแฟได้ เกาหลีใต้ปลูกกาแฟไม่ได้ เขามี Café Culture ที่ทุกคนให้ความสนใจ เขาต้องไปเอากาแฟที่อื่นมา แต่ว่าประเทศไทย เราสามารถไปเยี่ยมคนปลูกกาแฟ นั่งเครื่องบินไปได้เลย
ผมพยายามจะ Link กาแฟกับท่องเที่ยว, กาแฟกับความยั่งยืน, กาแฟกับศิลปะ กาแฟกับอื่น ๆ พวก น้ำผึ้ง, น้ำตาลมะพร้าว ทำให้ Locol มีมูลค่าสูงขึ้น
ถ้าหากจะศึกษา Supply Chain ที่ดีต่อโลกดีต่อใจ ต้องมางานนี้ จะได้เห็นบรรยากาศที่ไม่ใช่งานขายของอย่างเดียว ได้เห็นคนบนดอยคุยธุรกิจได้ในงานนี้ เป็นงานเดียวในโลกที่คนที่ห่างกันมาก ๆ มาอยู่ด้วยกัน และทุกคนก็ให้เกียรติกัน"
Cr. Kanok Shokjaratkul
-
Regenerative ขั้นกว่าของความยั่งยืน
งานกาแฟปีนี้มีคอนเซปต์ว่า Regeneretion กรรมการผู้จัดการ อธิบายว่า มันมีสองความหมาย
"หนึ่ง เราอยากเห็นหลาย ๆ เจนเนอเรชั่น ช่วยพัฒนาวงการกาแฟไปด้วยกัน กับอีกความหมายหนึ่ง คำนี้กำลังถูกพูดถึง Regenerative แปลว่า การฟื้นฟู แต่ในความเป็นจริง แปลว่า เติบโตขึ้น ดีขึ้น ดีกว่า ก็ได้
Cr. Kanok Shokjaratkul
ผมเปรียบเทียบให้ดู 3 เลเยอร์ เลเยอร์แรกคือ ในงานนี้มีการตกแต่ง เอาท่อมาทำ หลังจบงาน เราจะส่งต่อให้ใช้ประโยชน์ต่อได้, มีการคำนวณคาร์บอนเครดิต ให้คนมางานกรอกก่อนเข้างาน แล้วTag ตลอดเวลาว่า ตอนนี้ใช้ไปเท่าไรแล้ว จออยู่ที่หน้างาน เราทำเป็นตัวอย่าง, มีการจัดการขยะที่จริงจังมาก จนกลายเป็น Norm (บรรทัดฐาน) ให้คนที่จัดงานแสดงสินค้าว่า ต้องมีการแยกขยะก่อนทิ้ง
เลเยอร์ที่สอง คือ Supply Chain ผู้ปลูกกาแฟ เกื้อหนุนกัน มีเกษตรกร มีผู้ประกอบการ มีคนรุ่นใหม่ แลกเปลี่ยนความรู้กัน
Cr. Kanok Shokjaratkul
เลเยอร์ที่สาม มันเป็น Movement ของโลก ตอนนี้โลกพัฒนามาถึงคำว่า Regenerative จากที่เราเคยได้ยินคือ Organic คำต่อมาคือ Sustainable
ตอนนี้มันเป็น Regenerative ความหมาย คือ เราต้องคิดทุกอย่างเป็นองค์รวม จะมีกาแฟอย่างเดียวไม่ได้ กาแฟต้องอยู่กับสัตว์ อยู่กับป่า อยู่กับสิ่งมีชีวิต อยู่กับสังคม เราต้องทำให้ทุกอย่างมันดีขึ้นแล้วก็หมุนไปด้วยกัน"
Cr. Kanok Shokjaratkul
-
เราต้องช่วยกันดูแลโลก ในทุกภาคส่วน
จบจากงานกาแฟ คำที่กำลังถูกพูดถึง คือ Regenerative หมายถึง การฟื้นฟู ปฎิวัติ ปฏิรูป ทุกสรรพสิ่ง ที่สูญเสียไปแล้วให้กลับมาดีขึ้นดังเดิม ด้วยทุกภาคทุกมิติล้วนอยู่ในองค์รวมเดียวกันนั่นก็คือ โลก
Cr. Kanok Shokjaratkul
ในแวดวงการท่องเที่ยว ตอนนี้มีคำว่า Regenerative Tourism หมายถึง การท่องเที่ยวฟื้นสร้างอย่างยั่งยืน คำนึงถึงผลกระทบที่เกิดขึ้นกับแหล่งท่องเที่ยวในทุกมิติ ทั้งด้านสิ่งแวดล้อม วัฒนธรรม วิถีชุมชน ซึ่งไม่ใช่แค่ชะลอความเสื่อมพัง แต่ต้องฟื้นสร้างทรัพยากรในแหล่งท่องเที่ยวให้ดีขึ้นเรื่อย ๆ ให้กับคนรุ่นต่อ ๆ ไป
Cr. Kanok Shokjaratkul
ในแวดวงเกษตรกรรม มีคำว่า Regenerative Agriculture หมายถึง แนวทางฟื้นฟูพื้นที่การเกษตรและลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม รวมถึงการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก พื้นที่เกษตรกรรมมากกว่าครึ่งหนึ่งของโลกขณะนี้เสื่อมโทรม ส่งผลให้ปริมาณผลผลิตต่อพื้นที่ลดลง เป็นความเสี่ยงต่อความมั่นคงด้านอาหารในอนาคต
Cr. Kanok Shokjaratkul
ในแวดวงการออกแบบ มีคำว่า Regenerative Design เป็นชื่อกลุ่มของนักสร้างสรรค์หลากหลายสาขาอาชีพ ที่มีแนวคิดการออกแบบเชิงปฏิรูปฟื้นฟู ต่อยอดมาจากแนวคิดเรื่องความยั่งยืน ให้ความสำคัญกับการฟื้นคืนสมดุลระหว่างมนุษย์กับสิ่งแวดล้อมในทุก ๆ ด้าน เพื่อให้เกิดการเกื้อกูลกัน รักษ์โลกไปพร้อม ๆ กับการใช้ชีวิตอย่างรื่นรมย์