ก่อนจะถึง "เบตง" เมื่อถนนทุกสายมุ่งสู่ปลายด้ามขวาน

ก่อนจะถึง "เบตง" เมื่อถนนทุกสายมุ่งสู่ปลายด้ามขวาน

"เบตง" เป็นเมืองชายแดนใต้สุด ที่เจริญสุด และกำลังมาแรงในเรื่องการท่องเที่ยว ถ้าได้เห็นเบตงจากที่สูง ก็จะเห็นว่าเป็นเมืองในอ้อมกอดภูเขาที่งดงามจริงๆ จงไม่น่าแปลกใจที่นักท่องเที่ยวแห่แหนมาเที่ยวกัน

เบตง เดี๋ยวนี้มีเครื่องบินไปลงทุกสัปดาห์ ส่วนจะวันไหนบ้าง ก็ต้องเช็คกันเอาเอง แต่เส้นทางรถยนต์ที่จะไปสู่เบตงนั้น ใช้เดินทางได้ตลอด ไม่ว่าจะมาจากหาดใหญ่ ปัตตานี นราธิวาส หรือจะซอกแซกมาอย่างไรก็ล้วนแล้วแต่ต้องมาใช้ถนนหมายเลข 410 ทั้งสิ้น โดยเริ่มจากเมืองยะลา ผ่านรามัน-บันนังสตา-ธารโตแล้วก็ถึงเบตง แต่ก่อนนั้นทางไม่ดี มาจากหาดใหญ่ต้องเข้ามาเลเซียแล้วจึงจะเข้าเบตง แต่เดี๋ยวนี้ไม่ต้องแล้ว

ด้วยสภาพทางที่ลาดยางอย่างดี รถไม่หนาแน่นมาก จะมีโค้งไปมาหน่อยก็ช่วงแม่หวาดไป "เบตง" เท่านั้น แต่ถ้าใครเคยไปแม่ฮ่องสอนหรือไปอุ้มผางมาแล้ว โค้งไปเบตงแค่นี้ เด็กๆ ครับ และที่สำคัญคือ  จุดท่องเที่ยวระหว่างทางนี่แหละที่อยากให้แวะ คราวก่อนผมพาเข้าไปเที่ยวหมู่บ้านจุฬาภรณ์พัฒนา 9 มาแล้ว แต่ยังมีที่แวะเที่ยวระหว่างทางอีกเยอะโดยผมจะต่อจาก อ.บันนังสตา กันเลย

ก่อนจะถึง \"เบตง\" เมื่อถนนทุกสายมุ่งสู่ปลายด้ามขวาน สะพานแม่หวาด มองจากจุดพักของกรมทางหลวงชนบท

จาก อ.บันนังสตา เลยแยกเข้าเขื่อนบางลางมาไม่ไกล จะมีทางเข้าไป ถ้ำกระแซง เข้าไปไม่ถึง 3กม. ก็จะไปถ้ำกระแซง ซึ่งเป็นถ้ำน้ำลอด ถ้ำไม่ยาวนัก แต่โถงถ้ำสูง โปร่ง ภายในมีหินย้อย แลดูสวยงาม สบายตา  จริงๆย่านๆเดียวกัน มีถ้ำอีก 2-3 แห่ง แต่ต้องเอามอเตอร์ไซค์ไปเพราะทางแคบ รถยนต์เข้าไม่ได้

ออกมาที่ถนน 410 อีกครั้ง มุ่งหน้าลงทางใต้ ไปอีกไม่ไกล จะเป็น อุทยานแห่งชาติบางลาง ทางขวามือ  เข้าไปตามทางจนถึงลานจอด น้ำตกธารโต เดินอีกราว 100 เมตร ก็จะถึงน้ำตกชั้นที่ 1 ซึ่งน้ำตกนี้มีน้ำทั้งปี และมีถึง 10 ชั้น ค่อยๆ เดินไปเรื่อยๆ แต่มีทากนะ บอกไว้ก่อน ในช่วงเทศกาลวันหยุดทางศาสนาอะไรแบนี้ คนจะเยอะมาก

ก่อนจะถึง \"เบตง\" เมื่อถนนทุกสายมุ่งสู่ปลายด้ามขวาน ถ้ำกระแซง

เรายังคงออกมาใช้ถนนหมายเลข 410 กันต่อ ก็จะผ่านย่านอำเภอธารโต เป็นอำเภอเล็กๆ อำเภอนี้จะมีหมู่บ้านซาไกด้วย แต่ผมสอบถามคนพื้นที่ เขาว่าเดี๋ยวนี้เป็นหมู่บ้านแบบปักหลัก ไม่ได้ย้ายไปมาแบบดั้งเดิมแล้ว ทำอาชีพรับจ้างทั่วไป จริงเท็จก็ไม่รู้นะเพราะไม่ได้เข้าไปดู คนพื้นที่ที่พาเที่ยวเขาบอก

ก่อนจะถึง \"เบตง\" เมื่อถนนทุกสายมุ่งสู่ปลายด้ามขวาน น้ำตกธารโต ชั้นที่ 1

ถนนก็ยังพาเราแล่นลัดเลาะไปตามทาง มีบ้านคนห่างๆ ตลอดทาง ป่าเขา สวนยาง จนไปถึงป้ายทางเข้าบ้านคอกช้าง เข้าไปราว 3 กม. ก็ถึงชุมชนคอกช้าง เดิมที่นี่คึกคักมาก เพราะเป็นเส้นทางรถยนต์ ที่จะไปเบตง มักมาแวะพักกัน แต่พอสะพานแม่หวาดสร้างเสร็จ รถยนต์จะไปใช้ทางนั้นกันหมด บ้านคอกช้างเลยเงียบเหงาไปด้วย    ตรงช่วงหัวโค้ง จะมีทางปูนเข้าไปน้ำตกคอกช้าง เป็นน้ำตกขนาดกลาง มี 4 ชั้น บรรยากาศร่มรื่นทีเดียว

จากทางแยกเข้าบ้านคอกช้างไปไม่ไกล ก็จะถึงสะพานแม่หวาด เป็นสะพานปูนสร้างข้าม "อ่างเก็บน้ำเขื่อนบางลาง" ซึ่งมีทัศนียภาพที่สวยงาม รถนักท่องเที่ยวมักมาแวะถ่ายรูป รวมทั้งรถสิบล้อบรรทุกของก็มาจอดนอนพัก เพราะมีฐาน ตชด.อยู่บริเวณนั้นด้วย มีจุดชมทิวทัศน์ทั้งสองฝั่งหัวสะพานทั้งจากของกรมทางหลวง และพอข้ามไป ก็ตรงร้านแม่หวาดคอฟฟี่ ที่มีวิวสวยมาก แวะทานข้าว ดื่มกาแฟ ชมวิวกันได้

ก่อนจะถึง \"เบตง\" เมื่อถนนทุกสายมุ่งสู่ปลายด้ามขวาน ทิวทัศน์สะพานแม่หวาด

แล้วทางรถก็จะเริ่มคดเคี้ยว เพราะทางมันจะเลาะไปตามขอบภูเขาที่เป็นอ่างเก็บน้ำ จนไปถึงทางเข้าหน่วยฯ น้ำตกละอองรุ้ง ของอุทยานฯบางลางเข้าไปราว 200 เมตร ก็ถึงลานจอดรถ แล้วเดินไปตามทางราว 200 เมตร ก็จะถึงน้ำตกละอองรุ้ง 

น้ำตกละอองรุ้ง เป็นน้ำตกที่ตกลงมาในซอกเขา สูงราว 15 เมตร เวลาตกลงมาจะมีละอองน้ำฟุ้งกระจายไปทั่ว เกิดเป็นรุ้งน้ำตก แทบตลอดวัน แล้วแต่ว่าเราไปช่วงเวลาไหน รุ้งมันก็จะย้ายไปด้วย แต่น้ำแรง ไม่ควรลงเล่นน้ำ

ก่อนจะถึง \"เบตง\" เมื่อถนนทุกสายมุ่งสู่ปลายด้ามขวาน น้ำตกละอองรุ้ง

จากน้ำตกละอองรุ้งก็จะข้ามสะพาน เข้าเขตอำเภอเบตง ซึ่งอีกไม่นาน ก็จะพบทางขึ้นไปสะพานกระจกดูทะเลหมอกอัยเยอร์เวง ด้านบนมีลานจอดรถกว้างขวาง ใครมีรถบ้านเอามาจอดพักได้สบาย แต่กางเต็นท์ไม่ควร เพราะจะมีรถนักท่องเที่ยวมาถึงแต่เช้ามืด เขาใหขึ้นไปดูได้ทั้งวัน(แต่มีหมอกแค่ช่วงเช้า) พอสักห้าโมงเย็นเขาก็ปิดไม่ให้ขึ้นแล้ว เช้ามืดจะมีรถสองแถวพาขึ้น เสียค่ารถขึ้น-ลงคนละ 30 บาท ส่วนจะดูทะเลหมอกบนสกายวอร์คขึ้นไปดูฟรี แต่ต้องมีรองเท้าหุ้มรองเท้าเราอีกที ใครไม่มีก็ซื้อคู่ละ 30 บาท ทะเลหมอกมีเกือบทุกวัน แต่หมอกที่นี่จะเป็นหมอกแบบฟุ้งๆ นะ ไม่เป็นก้อนๆ แต่ก็เป็นทะเลหมอกเหมือนกัน

ก่อนจะถึง \"เบตง\" เมื่อถนนทุกสายมุ่งสู่ปลายด้ามขวาน ทะเลหมอกอัยเยอร์เวง

ลงมาที่ ถนน 410 ตามเดิม ติดกับทางลง จะมีร้านขายอาหาร แล้วจะมีซอยเล็กๆ เข้าไปตามทางปูนไม่ไกลนัก ทางจะไปสุดแล้วเดินเท้าตามทางปูนราว 150 เมตร ก็จะถึงน้ำตกเฉลิมพระเกียรติ ซึ่งเป็นน้ำตกขนาดใหญ่ สูงราว 60-70 เมตร เลยทีเดียว ตกลงมาชั้นเดียว  แล้วถึงไหลลงมาตามกองหินเบื้องล่าง สวยงามทีเดียวแหละ

เมื่อชื่นชมน้ำตกพอแล้วก็ออกมา ไปตามทางมุ่งหน้าเบตง จะมีทางเข้า น้ำพุร้อนเบตง ทางขวามือ เส้นทางนี้จะวิ่งวนเป็นวงกลมได้ แล้วมาออกทางเดิม จะผ่านน้ำพุร้อนเบตง ซึ่งเขาทำเป็นบ่อใหญ่ๆ น้ำไม่ร้อนมาก มี สวนดอกไม้หอมหมื่นลี้ ซึ่งปิดไปสองปีเพราะโควิด เพิ่งจะกลับมาปรับปรุงใหม่ ดอกไม้ก็เลยยังไม่มาก อุโมงค์ปิยะมิตร ของ จคม. ในอดีต จะเป็นเส้นทางเดินธรรมชาติ ลักษณะคล้ายอุโมงค์เขาน้ำค้าง ที่สงขลา บรรยากาศร่มรื่น น้ำตกอินทสร เป็นน้ำตกขนาดกลาง อยู่ริมทาง บรรยากาศร่มรื่น เส้นทางลาดยางตลอดสาย รถทุกชนิดเดินทางได้ มีบางช่วงขึ้นเขา-ลงเขาชันบ้าง ขับชมวิวไปเรื่อยๆ

ก่อนจะถึง \"เบตง\" เมื่อถนนทุกสายมุ่งสู่ปลายด้ามขวาน บ่อน้ำพุร้อนเบตง

ก่อนเข้าตัวเมือง "เบตง" จะมีทางเลี้ยวไปด่านชายแดนไทย-มาเลเซีย  แวะเข้าไปในเขตมาเลเซีย ถ่ายรูป เดินเล่น ก็ได้ แต่ไม่มีอะไรมาก นอกจากร้านขายสินค้าปลอดภาษี ออกมาถ่ายรูปกับป้ายใต้สุดในระเทศไทยในเขตบ้านเราดีกว่า แล้วหลังจากนั้นไม่ถึง 5 กม. ก็เข้าตัวเมืองเบตงแล้ว

จะเห็นว่า ระหว่างทางที่ไปเบตงนั้น ก็มีจุดแวะเที่ยวมากมายตลอดทาง โดยเฉพาะคนชอบแนวธรรมชาติ ป่าเขา เบตงนั้นยังไงๆ ก็ไปถึงแน่นอน แต่ระหว่างทางสิน่าแวะดูอย่างมาก

ไปแล้วอย่าเสียเที่ยว แวะให้หมด คน "เบตง" เขายินดีต้อนรับ  ธรรมชาติที่นั่น ก็พร้อมต้อนรับเช่นกัน

(ภาพประกอบจากเพจทีมพีอาร์การรถไฟ)