เซจง (Sejong) 3 : ศิลปะชงชาของเกาหลี กับ ร้านกาแฟสูงสุดแห่งเซจง
เที่ยวเซจง (Sejong) สัมผัสศิลปะชงชาวิถีเกาหลีด้วยตนเองที่วัดยองพองซา นั่งดื่มกาแฟตำรับ Einspanner บนร้านกาแฟสุดเทรนดี้บนยอดตึกสูงของเซจง
เซจง (Sejong) เมืองปกครองตนเองพิเศษของ เกาหลีใต้ ยังมีสิ่งที่น่าสนใจทางการท่องเที่ยวอีกมากมาย แต่ด้วยเวลาเท่าที่มี สัปดาห์นี้ 'กรุงเทพธุรกิจ ท่องเที่ยว' พาไปสัมผัสอีก 2 ประสบการณ์สำหรับคนชอบ ศิลปวัฒนธรรม และความเทรนดี้ของ ร้านกาแฟ ซึ่งมีทำเลที่ตั้งร้านอยู่ในตำแหน่งสูงที่สุดในบรรดาร้านกาแฟของเมืองเซจง
สัมผัสวิถีศิลปะชงชาของเกาหลี
เรือนเวิร์คช็อปศิลปะชงชาที่วัดยองพองซา
สำหรับนักท่องเที่ยวที่ชอบเวิร์คช็อปกลิ่นไอศิลปวัฒนธรรมเกาหลี, เมือง เซจง (Sejong) ขอแนะนำให้รู้จัก วัดยองพองซา (Yeongpyeongsa Temple) ตั้งอยู่บนภูเขาซึ่งรถบัสขนาดใหญ่สามารถวิ่งขึ้นไปจอดได้ที่ลานจอดรถของวัด ทัศนียภาพรอบวัดสบายตาไปด้วยต้นไม้ตามธรรมชาติ
เนื่องจากวันที่ไปชมวัดแห่งนี้อยู่ในช่วงหางพายุขนุนเข้าเกาหลี ฝนตก เลยไม่ได้เดินชมบริเวณอื่นของวัด เราพุ่งตรงไปยังศาลาซึ่งสร้างตามสถาปัตยกรรมเกาหลีดั้งเดิม เพื่อสัมผัสประสบการณ์ ศิลปะชงชาของเกาหลี หรือ Korean Tea Ceremony โดย มิสคัง (Kang Jung Scuk) วิทยากรซึ่งเป็นชาวบ้านในชุมชนละแวกวัด เป็นผู้นำเวิร์คช็อป
นักบวชและมิสคังกล่าวต้อนรับก่อนเวิร์คช็อป
มิสคัง (Kang Jung Scuk) วิทยากรศิลปะชงชา
มิสคังอธิบายผ่านมัคคุเทศก์ความว่า ‘พิธีชงชาของเกาหลี’ ถือปฏิบัติกันในหมู่คนเกาหลีมานานกว่าพันปี องค์ประกอบหลักของพิธีชงชาเกาหลีคือ ‘ความเรียบง่ายและเป็นธรรมชาติ’ ที่ได้เพลิดเพลินไปกับการดื่มชาภายในบรรยากาศที่มีการจัดเตรียมแบบลำลอง
พิธีชงชาหรือ 'ศิลปะชงชา' มักใช้ในโอกาสสำคัญๆ เช่น การรับรองแขก วันเกิด วันครบรอบ การรำลึกถึงเพื่อนเก่า และเป็นวิธีหนึ่งในการค้นพบความสุขของการทำสมาธิ
โดยทั่วไปชาที่ใช้สำหรับพิธีชงชาจะเป็น ชาเขียวเกาหลี และทุกขั้นตอนดำเนินการด้วยความเรียบง่าย ผ่อนคลาย แต่สง่างาม
มิสคังสาธิตศิลปะชงชาเกาหลี
ที่วัดชองพองซา เราจะได้เรียนรู้และลงมือชงชาด้วยตนเอง นับตั้งแต่การค่อยๆ นั่งลงยังตำแหน่งผู้ชงชาอย่างสุภาพ แล้วโค้งคำนับแขกผู้มาเยือนหรือผู้ซึ่งเรากำลังจะชงชาให้ดื่ม โดยมีขั้นตอน ดังนี้
- ใช้ผ้าสะอาดแตะที่ฝากาน้ำร้อน (กันฝาหล่น) ค่อยๆ รินน้ำร้อนใส่ภาชนะใบที่หนึ่ง แล้วค่อยๆ ยกภาชนะนั้นเทน้ำร้อนใส่กาสำหรับชงชาอีกที ปิดฝากาชงชา วางพักไว้
- จากนั้นยกกาน้ำร้อนเทน้ำร้อนใส่ภาชนะใบที่หนึ่งอีกครั้ง ตั้งพักไว้ก่อน
- กลับไปยกกาชงชาที่มีน้ำร้อนที่วางพักไว้ (ในข้อ 1) เทน้ำร้อนใส่ถ้วยชา 3 ใบที่เตรียมไว้ ตั้งพักไว้อย่างนั้น
- เมื่อกาชงชาไม่มีน้ำร้อนแล้ว จึงค่อยๆ ตักใบชาใส่ลงในกาชงชา จากนั้นนำน้ำร้อนที่รินไว้ในภาชนะใบที่หนึ่งที่ตั้งพักไว้ (ในข้อ 2) เทใส่กาชงชาที่มีใบชา ปิดฝากา วางพักไว้
- กลับไปเทน้ำร้อนออกจากถ้วยชา 3 ใบ (ในข้อ 3) ใส่ภาชนะสำหรับทิ้งน้ำร้อน
- รินน้ำชาในกา (จากข้อ 4) ใส่ถ้วยชา 3 ใบ (ที่เทน้ำร้อนออกแล้ว) เริ่มจากถ้วยใบใกล้ตัวที่สุดออกไปหาถ้วยใบห่างตัว
6 ขั้นตอนนี้ทำให้เวลา 20 นาทีผ่านไปอย่างรวดเร็ว แต่ละขั้นตอนคือการดึงรสชาติและกลิ่นหอมของชาเขียวเกาหลีออกมาอย่างสมบูรณ์แบบ นับตั้งแต่การอุ่นกาชงชา การล้างและอุ่นถ้วยชา การพักน้ำร้อนที่ผ่านการต้มจนเดือดให้มีอุณหภูมิเหมาะสมสำหรับการแช่ใบชาเขียวเกาหลี
การรินน้ำชาใส่ถ้วยใกล้ตัวก่อน ก็เพื่อมอบน้ำชาอุณหภูมิที่ดีที่สุดในถ้วยใบสุดท้ายห่างตัวให้กับแขกผู้มาเยือน เป็นการให้เกียรติผู้อื่น
มิสคังกล่าวด้วยว่า การดื่มชา ในวัฒนธรรมเกาหลียังให้คุณประโยชน์ 9 ประการ คือ ทำให้สมองปลอดโปร่ง ดวงตาสดใส ประสาทหูได้ยินดี เจริญอาหาร ทำให้มีสติ ช่วยให้นอนหลับดีขึ้น ดับกระหาย บรรเทาความเมื่อยล้า และ ช่วยบรรเทาความเย็น-ความร้อนของร่างกาย
ซงพยอน และ ดาชิก
ขนมตามธรรมเนียมดั้งเดิมเกาหลีที่นิยมรับประทานคู่กับการดื่มชา ได้แก่ Songpyeon (ซงพยอน) ทำจากแป้งข้าวเจ้า สอดไส้ด้วยธัญพืชกวน ปรากฏมาตั้งแต่สมัยเกาหลียังปกครองด้วยราชวงศ์โครยอ (Goryeo)
ขนมอีกชนิดที่อยู่ในเวิร์คช็อปนี้คือ Dasik (ดาชิก) ทำจากแป้งกวนผสมน้ำผึ้ง ใส่สีให้สวยงามโดยใช้ฟักทองหวานให้สีเหลือง ชาเขียวให้สีเขียว แรดิชให้สีชมพูเข้ม และงาดำให้สีดำ
มีความสุขสงบกับอากาศเย็นวันฝนตกพอดี
ร้านกาแฟที่อยู่สูงที่สุดในเซจง
ตึก Reserve Hanshin The Hue
ป้ายร้านกาแฟ META.45CAFE Coffee and Tea ที่ชั้นล่างหน้าตึก
ก่อนจะอำลาเซจงสู่เมือง Chungnam (ชุงนัม) มีร้านกาแฟอินเทรนด์กำลังเป็นที่กล่าวขานไม่เฉพาะในหมู่ชาวเมืองเซจง แต่คนเกาหลีในเมืองอื่นๆ รวมทั้งนักท่องเที่ยวต่างชาติต่างก็ปักหมุดเอาไว้หากมาถึงเซจงต้องมาเยือนให้ได้สักครั้ง เพราะเป็นร้านกาแฟที่ได้ชื่อว่าอยู่สูงที่สุดในนครเซจง
ร้านกาแฟร้านนี้ชื่อ META.45CAFE Coffee and Tea ตั้งอยู่บนชั้นที่ 45 ของตึก Reserve Hanshin The Hue ซึ่งชั้นนี้มีความสูง 200 เมตรจากพื้นดิน ผนังขนาดใหญ่อย่างน้อย 2 ด้านของร้านจากพื้นจรดเพดานกรุกระจกใส เปิดให้เห็นภาพเมืองเซจงแบบพานอรามาเต็มตา
ร้านกาแฟ META.45CAFE Coffee and Tea
วิวเมืองเซจงจากร้านกาแฟ META.45CAFE Coffee and Tea
เมืองทั้งเมืองอยู่ในสายตา
มุมถ่ายรูปของร้านกาแฟ META.45CAFE
การนั่งอยู่ที่นี่จึงเหมือนการนั่งดื่มกาแฟแกล้มวิวของหมู่ยอดตึกสูงเสียดฟ้า หรือเพิ่มความตื่นเต้นด้วยการไปยืนชิดกระจกแล้วก้มมองพื้นแบบ bird’s- eye view ก็ทำให้หัวใจเต้นแรงได้เหมือนกัน
หรือจะมองไปไกลๆ ก็เห็นไปจนถึงทะเลสาบและหมู่อาคารสูงที่เป็นศูนย์ราชการแห่งใหม่ที่ย้ายมาจากกรุงโซล เห็นไปจนถึงภูเขาและแม่น้ำที่ไหลอยู่ไกลลิบๆ
ร้านกาแฟ META.45CAFE Coffee and Tea
เมนู Meta Einspanner Cream
เครื่องดื่มซิกเนเจอร์ของ META.45CAFE อยู่ในกลุ่ม Meta Einspanner (เมตะ ไอน์สแปนเนอร์) ประยุกต์จากกาแฟตำรับคลาสสิกของเวียนนาที่มีวิปครีมก้อนโตท็อปมาในแก้ว มีให้เลือก 3 สูตร คือ Lotus, Almond และ Cream
ผู้เขียนมีโอกาสลองชิม Meta Einspanner Cream เหมือนได้ดื่มกาแฟเย็นรสชาติเข้มข้นอย่างกาแฟแท้ กลิ่นหอมของกาแฟเตะจมูกชัดเจน แต่วิปครีมที่โปะมาด้านบนนี่สิทีเด็ด
บาริสต้าปรุงรสวิปครีมมาหวานกำลังดีสำหรับคนชอบหวานน้อย เป็นวิปครีมที่มีความครีมมี่ ข้นหนามีน้ำหนัก อีกนิดเดียวจะเหมือนไอศกรีม แต่นุ่มละมุนมากๆ
กาแฟคลาสสิกมี ‘เอสเพรสโซ’ เป็นมาตรฐาน กับเมนูกาแฟที่ทางร้านสร้างสรรค์สูตรขึ้นเองในชื่อ Long Black, Plain, Vanilla, Mocha และ Caramel
ใครไม่ดื่มกาแฟก็มีเครื่องดื่มประเภท ชานม น้ำผลไม้คั้นสดผสมมะนาว เครื่องดื่มเย็นปั่น (โยเกิร์ต, มะม่วง, สตรอว์เบอร์รี่) และไอศกรีม
Croiffle
เบเกอรี่ซิกเนเจอร์ที่นี่เรียก Croiffle ลูกผสมระหว่างครัวซองต์กับวอฟเฟิล อบสดใหม่กลิ่นหอมมากๆ วิธีเสิร์ฟของร้านคือโรยหน้าด้วยน้ำผึ้งและน้ำตาลไอซิ่งเล็กน้อย ความคิดเห็นส่วนตัวสำหรับผู้เขียนคิดว่ายังหวานไปหน่อย เฉพาะตัวขนม Croiffle อย่างเดียวก็อร่อยแล้ว ไม่ต้องโรยไอซิ่งกับน้ำผึ้งก็ได้
ใครที่เคยได้แต่แหงนหน้ามองยอดตึกสูงในเมืองใหญ่ ร้านกาแฟ META.45CAFE Coffee and Tea มอบความรู้สึกใหม่ๆ ราวยืนอยู่เหนือเมืองทั้งเมือง
หมายเหตุ : สัปดาห์หน้าโปรดติดตาม ‘หมู่บ้านเบเกอรี่’ ในเมือง Chungnam (ชุงนัม)