คุณยายวัย 72 ชาวสุพรรณ โร่ร้องกองปราบ หลังทำล็อตเตอรี่หล่นหาย ใน อ.สามชุก ก่อนมีผู้เก็บได้นำไปขึ้นเงิน 6 ล้าน
เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 13 ธันวาคม ที่ กองปราบปราม น.ส.ประดับ (สงวนนามสกุล) อายุ 72 ปี เข้าพบ พ.ต.ต.(หญิง) จันทนา สาตะมาน สารวัตร (สอบสวน) กก.5 บก.ป. เพื่อร้องขอความเป็นธรรมกรณีฉลากกินแบ่งรัฐบาลงวดวันที่ 1 ธันวาคม 2560 เลข 451005 ที่ถูกรางวัลที่ 1 ได้หายไป ต่อมาทราบว่ามีคนนำสลากดังกล่าวไปขึ้นเงินรางวัล
ทั้งนี้จากการสอบสวน น.ส.ประดับ ให้การว่า ก่อนหน้านี้ได้ซื้อลอตเตอรี่ฉบับดังกล่าวจากพ่อค้าหวยชื่อ นายเปี๊ยก ไม่ทราบชื่อและนามสกุลจริง ในงานวัดแห่งหนึ่ง อ.สามชุก จ.สุพรรณบุรี แต่กลับทำลอตเตอรี่หายในงาน ต่อมาได้ให้โฆษกงานวัดประกาศหาแต่ก็ไม่มีผู้พบเห็นสลากดังกล่าว จากนั้น น.ส.ประดับ ได้เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สภ.สามชุก กระทั่งทราบว่ามี น.ส.เอ ซึ่งเป็นคนพื้นที่ อ.สามชุก เป็นผู้พบนำไปขึ้นเงินจากกองสลากจำนวน 6 ล้านบาท ในเบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ได้รวบรวมคำให้การก่อนส่งให้ชุดสืบสวนลงไปตรวจสอบอีกครั้ง
นอกจากนี้ส่วนกรณีการตรวจสอบหาเจ้าของกรรมสิทธิ์สลากกินแบ่งรัฐบาลงวดประจำวันที่ 1 ธันวาคม 2560 รางวัลที่ 1 เงินรางวัล 30 ล้านบาท ในพื้นที่ จ.กาญจนบุรี ที่แท้จริง ระหว่าง ร.ต.ท.จรูญ วิมูล อดีตข้าราชการตำรวจ และ นายปรีชา ใคร่ครวญ ข้าราชการครูโรงเรียนมัธยมชื่อดังแห่งหนึ่งใน จ.กาญจนบุรี หลังทั้งคู่ได้ออกมาแสดงตัวเป็นเจ้าของสลากกินแบ่งนั้น
เบื้องต้นทางพนักงานสอบสวน กก.5 บก.ป. ได้ทำการสอบปากคำ ร.ต.ท.จรูญ อย่างละเอียด โดยใช้เวลาในการสอบปากคำนานร่วม 7 ชั่วโมงจึงแล้วเสร็จ ซึ่งข้อมูลได้ที่ค่อนข้างเป็นประโยชน์ต่อแนวทางการสืบสวนค่อนข้างมาก
นอกจากนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบฯยังได้เตรียมประสานไปยังกองสลากกินแบ่งรัฐบาลเพื่อขอข้อมูลเกี่ยวสลากกินแบ่งรางวัลที่ 1 ของงวดดังกล่าวว่ามีจำนวนเท่าใด และมีผู้นำสลากหมายเลขเดียวกันนั้นมาขึ้นเงินรางวัลแล้วกี่ราย เหลือสลากหมายเลขเดียวกันที่ยังไม่ได้รับการขึ้นเงินรางวัลอีกกี่ใบ รวมถึงเพื่อตรวจสอบหาต้นขั้วที่แท้จริงของสลากชุดดังกล่าวว่ามาจากที่ใด ขณะที่ในส่วนของการตรวจสอบลายนิ้วมือแฝงบนสลากกินแบ่งฯดังกล่าวนั้นค่อนข้างทำได้ยาก เนื่องจากเป็นสลากกินแบ่งฯแบบชุด ซึ่งจะต้องถูกห่อหุ้มด้วยพลาสติกอีกชั้น ก่อนที่จะมีการแกะออกเพื่อนำไปขึ้นเงินดังกล่าว จึงยากต่อการตรวจสอบ