เจ้าบ่าวเทงานแต่ง เปิดใจ!! สาเหตุไม่ไปแต่งงาน
เจ้าบ่าวเทงานแต่ง เปิดใจ!! มีแฟนอยู่แล้ว และไม่มีเงินจึงตัดสินไม่ไปงานแต่ง
จากกรณีที่โลกโซเชียล แห่แชร์คลิปที่ถ่ายจากงานแต่งงานแห่งหนึ่งที่จ.ราชบุรี เจ้าสาวออกมาพูดผ่านไมโครโฟนบนเวที ขออภัยแขกที่มาร่วมงาน ระบุว่า "ขอขอบคุณแขกผู้มีเกียรติทุกท่าน ในวันนี้ตนได้ทำหน้าที่เจ้าสาวดีที่สุดแล้ว อยากขอบคุณคุณพ่อคุณแม่ที่จัดงานให้วันนี้ ขอบคุณทุกคน ตนทำหน้าที่ลูกคนหนึ่ง คิดว่าวันนี้เป็นงานของตน ของพ่อแม่ เหตุการณ์วันนี้ตนไม่ทราบมาก่อนว่าจะเป็นแบบนี้ ขอบคุณเพื่อนๆ ทุกคน เชื่อว่าเพื่อนเจ้าสาวทุกคนคงเป็นกำลังใจให้เจ้าสาวคนนี้ ถ้ามีสิ่งใดบกพร่อง เจ้าภาพดูแลไม่ทั่วถึงต้องขออภัยไว้ด้วย" โดยเหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 22 ก.ค.61 ที่ผ่านมา ที่บ้านเลขที่ 45 หมู่ 2 ต.พิกุลทอง อ.เมือง จ.ราชบุรี
ซึ่งผู้สื่อข่าวจึงได้เดินทางไปพูดคุยกับทางญาติๆของนางสาวจุฑาทิพย์(น้องมะนาว) นิ่มนวล อายุ 25 ปี เจ้าสาวที่ถูกนายภาคิน จุนเจิม อายุ 19 ปี เจ้าบ่าวที่เบี้ยวไม่ยอมมางานแต่ง ซึ่งก็ให้ข้อมูลว่า มีปัญหาเรื่องเงินค่าสินสอดที่ทางเจ้าบ่าวอ้างว่าหาไม่ได้ ทำให้ต้องทิ้งงานแต่งงาน และทำให้เจ้าสาวกับทางญาติๆ ต้องเสียใจและอับอายแขกเรื่อที่มาร่วมงานนับพันคน
และในวันนี้(23 ก.ค. 61) ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปพบกับนายภาคิน จุนเจิม อายุ 18 ปี เจ้าบ่าวที่เทงานแต่งงาน ที่บ้านเลขที่ 92 หมู่ 1 ต.บ่อกระดาน อ.ปากท่อ จ.ราชบุรี ซึ่งเป็นบ้านทรงไทยที่กำลังจะปลูกและเปิดเป็นอู่ซ่อมรถด้วย เพื่อสอบถามถึงสาเหตุที่ไม่ไปแต่งงาน ซึ่งก็พบนายภาคิน อยู่กับนายอเนก จุนเจิม อายุ 34 ปี ผู้เป็นพ่อ โดยทั้งสองคนได้เปิดใจถึงสาเหตุที่ไม่ไปร่วมงานแต่งงานว่า
ที่คุยกับเจ้าสาวไว้เรื่องค่าสินสอดว่าทางบ้านผมนั้นไม่ค่อยมีเงิน ก็เลยขอให้ทางเจ้าสาวช่วยหาเงินค่าสินสอดทั้งหมดได้ไหม ซึ่งเจ้าสาวก็ตอบตกลง และก็ไม่ได้ติดต่อกันอีก จนใกล้ถึงงานแต่งอีก 2 วัน เจ้าสาวก็ทักไลน์มาบอกว่า ได้นำเงินค่าสินสอดไปใช้จ่ายในงานไปหมดแล้ว 9 แสนบาท และให้ทางผมหาค่าสินสอดไป ซึ่งระยะเวลาแค่ 2 วัน ซึ่งตนนั้นหาไม่ได้ ซึ่งตนกับเจ้าสาวนั้นคบกันและคุยกันประมาณ 1 เดือน ซึ่งพ่อกับแม่ก็ไปสู่ขอให้และเขาเรียกค่าสินสอด 2 แสนบาท กับทองอีก 4 บาท ซึ่งสาเหตุที่ไปขอนั้นก็เพราะเจ้าสาวบอกว่าเขาท้อง จึงต้องให้ญาติผู้ใหญ่เข้าไปสู่ขอ โดยขอยื่นข้อเสนอว่าจะขอแค่ไปไหว้ผี เท่านั้น แต่ตัวเจ้าสาวนั้นไม่ยอม ซึ่งวันแต่งนั้นก็คิดไม่ออกว่าจะทำยังไงเพราะเงินค่าสินสอดไม่มี และตนก็มีแฟนอยู่แล้วประกอบกับไม่มีเงินด้วยจึงตัดสินไม่ไปงานแต่ง และมันเร็วเกินไปที่จะแต่งงานและยอมรับความไม่พร้อมเลย และตอนนี้ก็คิดอะไรไม่ออกเพราะถูกโจมตีเยอะ และมาถึงตอนนี้ก็คงจะกลับไปไม่ได้แล้ว
ด้านนายอเนก จุนเจิม พ่อของนายภาคินก็บอกว่า ในวันแต่งติดต่อกับลูกชายไม่ได้เลย ซึ่งในวันที่ไปสู่ขอก็บอกไปแล้วว่ายังไม่มีเงินทางเจ้าสาวก็บอกว่าจะเป็นคนออกเองขอให้พ่อพาลูกชายไปอย่างเดียว และขออย่าให้พ่อแม่ของเขารู้ว่าเงินค่าสินสอดนั้นเจ้าสาวจะเป็นคนออกเอง ซึ่งทางบ้านก็ได้จัดเตรียมของในขบวนขันหมากเรียบร้อยแล้ว แต่เมื่อไม่มีตัวเจ้าบ่าวก็เลยไม่ได้ไป ซึ่งมาถึงตอนนี้ก็คงจะต้องสู้กันและยอมรับกัน และทางฝ่ายตนก็เสื่อมเสียชื่อเสียงเหมือน เพราะได้ทำตามที่เจ้าสาวได้ขอมาแล้ว และลูกชายก็เพิ่งจะอายุ 18 ปี แต่เจ้าสาวมากลับคำพูดในเรื่องค่าสินสอดที่บอกว่าจะออกเอง แต่ถึงเวลาแล้วมากลับคำพูด ซึ่งระยะเวลาแค่วันเดียวทำให้หาไม่ทัน ซึ่งได้เสนอไปว่ามีเงินแค่ หกหมื่น ซึ่งทางฝ่ายเจ้าสาวก็ยินยอมและขอให้แค่งานได้ผ่านไป แต่ทางลูกชายนั้นไม่รู้ว่ามีการตกลงเงินกันแค่ หกหมื่นบาท แต่รู้แค่ว่าไม่มีเงินก็เลยต้องหนีไป
อย่างไรก็ตามในวันพรุ่งนี้(24 ก.ค.61 ) ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.เมืองราชบุรี จะได้ให้ทางเจ้าบ่าว เจ้าสาว มาพูดคุยตกลงกัน เนื่องจากทางเจ้าสาวได้มาขอลงบันทึกประจำวันไว้ตั้งแต่เมื่อช่วงเย็นวันที่ 22 ก.ค. ที่ผ่านมา ด้วย