รวบแอดมินเพจ ชวนโจ๋แข่งรถ-ถ่ายทอดสดลงเฟสบุ๊ค สกัดจับเด็กแว้นได้กว่า 80 คน รวมถึงร้านตกแต่ง-ดัดแปลงท่อรถจยย.
เมื่อเวลา 00.30 น. วันที่ 12 มกราคม พล.ต.ต.นิธิธร จินตกานนท์ ผบก.จร. พ.ต.อ.พรชัย ชลอเดช รอง ผบก.น.5 พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจจากชุดปฏิบัติการปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ (TACTICS) สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง,กองบัญชาการตำรวจนครบาล,กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด,กองบังคับการตำรวจจราจร และกองบังคับการสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ ได้สนธิกำลังร่วมกันปราบปรามการแข่งรถในทางสาธารณะในพื้นที่ บก.น.5 และแถลงผลการปฎิบัติการของและจับกุมกลุ่มผู้ต้องหาแอดมินโพสชักชวนแข่งรถในทางตามหมายจับ ที่ลานหน้าห้างสรรพสินค้าเทสโก้โลตัส สาขาพระรามสี่ แขวงคลองตัน เขตคลองเตย กรุงเทพฯ
พล.ต.ต.นิธิธร เผยว่า ตามคำสั่งหัวหน้า คสช.ที่ 22/2558 เรื่อง มาตรการในการป้องกันและแก้ไขปัญหาการแข่งรถยนต์และรถจักรยานยนต์ในทางสาธารณะ และทางตำรวจ ได้ร่วมกันจับกุมผู้ต้องหาแอดมินเพจตามหมายจับจำนวน 1 ราย โดยจากการสืบสวนทราบว่ามีเพจเฟสบุ๊คชื่อ “Nop Nonburi” มีพฤติกรรมโพสต์ชักชวนให้กลุ่มวัยรุ่นออกมารวมตัวมั่วสุมแข่งรถในทางสาธารณะ ในพื้นที่กรุงเทพฯ ซึ่งโดยในการแข่งขันแต่ละครั้งมีการรวมตัวกันมากกว่า 100 คัน และถ่ายทอดสดลงในเฟสบุ้คซึ่งมีกลุ่มวัยรุ่นสนใจรับชมและแชร์ต่อเป็นจำนวนมากกว่า 500 ครั้ง ซึ่งพฤติกรรมดังกล่าวได้สร้างความเดือดร้อนรำคาญให้กับประชาชนผู้พักอาศัยในพื้นที่เกิดเหตุและใกล้เคียง และผู้ใช้รถใช้ถนนเป็นอย่างมาก ซึ่งภายหลังทราบว่า เจ้าของเพจเฟสบุ๊คดังกล่าวคือ นายมาณพ เหมาเหมาะดี อายุ 22 ปี เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้จับกุมตัวผู้ต้องหาตามหมายจับในความผิดฐาน “เป็นผู้สนับสนุนให้มีการแข่งขันรถในทางสาธารณะ” ดำเนินคดีตามกฎหมาย
พล.ต.ต.นิธิธร เผยอีกว่า นอกจากนี้ทางตำรวจได้จับกุมกลุ่มรถจยย.ที่ออกมารวมตัวสร้างความเดือดร้อนได้ 88 คัน และจยย.บิ๊กไบค์ อีก 14 คัน รวม 102 คัน มีผู้กระทำผิดทั้งสิ้น 86 คน เป็นเยาวชน 31 คน ผู้ใหญ่ 55 คน ในจำนวนนี้มีเยาวชนถูกตรวจพบสารเสพติดกัญชา จำนวน 1 คน, เมทเฟตามีน 1 คน อีกทั้งเจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบร้านตกแต่งและดัดแปลงท่อรถจยย.ที่ไม่มี มอก.โดยตรวจสอบทั้งสิ้น 15 ร้าน ยึดของกลางเป็นท่อไอเสียไว้ตรวจสอบจำนวน 75 รายการ และพบรถบิ๊กไบค์ท่อเสียงดังเกินมาตรฐานที่กฎหมายกำหนด คือ 95 เดซิเบล อีก 24 คัน
พล.ต.ต.นิธิธร กล่าวว่า การรวมตัวแข่งรถในทางสาธารณะนอกจากสร้างความเดือดร้อนรำคาญให้กับประชาชนแล้ว ยังก่อให้เกิดอันตรายอีกด้วย จึงอยากฝากให้พ่อแม่ผู้ปกครองช่วยกันอบรมบุตรหลานไม่ให้ออกมารวมตัว มั่วสุมในช่วงเวลากลางคืนหรือมีพฤติกรรมแข่งรถในที่สาธารณะ ซึ่งหลังจากนี้ตำรวจจะแจ้งให้ผู้ปกครองรับทราบก่อนทำประวัติและส่งตัวเข้ารับการอบรมกับทางตำรวจต่อไป.