นายกฯกำชับศธ.เร่งดูแลเด็กยากจนให้ได้รับการศึกษาต่อ
นายกฯ ถกหัวหน้าส่วนราชการปี62 ย้ำทำงานเพื่อประชาชน ระมัดระวังการทำงานและเรื่องส่วนตัว ระบุประชุมด้วยระบบ E-Meeting ผ่านหน้าจอแท็บเล็ตเป็นครั้งแรก กำชับศธ.เร่งปลูกฝังเด็กดูแลรักษาสิ่งแวดล้อม พร้อมพัฒนาศักยภาพเด็กในการก้าวสู่สากล
เมื่อวันที่ 18 ม.ค.62 ที่ห้องประชุมราชวัลลภ ชั้น 2 อาคารราชวัลลภ กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เป็นประธานการประชุมหัวหน้าส่วนราชการระดับกระทรวงหรือเทียบเท่า ครั้งที่ 1/2562 โดยก่อนการประชุมฯ นายกฯ เยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์การศึกษาไทย
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ต้องแสดงความยินดีกับทุกคนที่ได้รับตำแหน่งใหม่ในครั้งนี้ และขอให้ทุกคนระมัดระวังทั้งในเรื่องการทำงาน และส่วนตัวให้มากที่สุด โดยเฉพาะช่วงเวลานี้ อีกทั้ง ตลอดระยะเวลา 4 ปี ได้ให้ความสำคัญกับการประชุมหัวหน้าส่วนราชการมาโดยตลอด เพราะได้เข้าประชุมด้วยตนเอง อยากให้ทุกคนนำสิ่งที่ได้จากการประชุม ไปสร้างสรรค์ หาวิธีการที่จะทำให้เกิดผลสัมฤทธิ์ให้ได้มากที่สุด รวมถึงรู้จักนำปัญหา ข้อสงสัย หรือความต้องการของประชาชน เป็นตัวกำหนด เพราะได้ตั้งเป้าหมายแล้วว่า การทำงานต้องเป็นไปเพื่อประชาชน ประชาชนเป็นศูนย์กลาง และรู้จักปรับบริบทให้สอดคล้องกับโลกในปัจจุบัน ซึ่งเป็นโลกแห่งเทคโนโลยีและดิจิทัล รวมทั้งขอให้ติดตามในส่วนที่ยังไม่สามารถเข้าถึงเทคโนโลยี ไปหาแนวทางว่าจะทำอย่างไรให้เกิดความก้าวหน้าไปสู่จุดที่ตั้งเป้าไว้ เพราะเวลาทำงานกับคนไทยซึ่งมีอยู่หลายระดับด้วยกัน ทั้งกลุ่มคนที่พัฒนาได้มากและพัฒนาได้ระดับกลาง
ด้านนายบุญรักษ์ ยอดเพชร เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะหัวหน้าส่วนราชการระดับกระทรวงหรือเทียบเท่า ครั้งที่ 1/2562 ว่า นายกฯ ได้ย้ำเรื่องการศึกษา โดยให้ทุกหน่วยงานเสนอความเห็นว่าต้องการให้ ศธ.เข้ามามีส่วนร่วมสนับสนุนภารกิจเรื่องใดบ้าง และให้บูรณาการการจัดการศึกษาร่วมกัน เช่น กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) เสนอให้ ศธ.เร่งปลูกฝังเด็กในวัยเรียนเรื่องการดูแลรักษาสิ่งแวดล้อม ทั้งเรื่องปัญหาขยะ การปลูกต้นไม้ เป็นต้น นอกจากนี้ นายกฯกำชับให้ ศธ.เร่งพัฒนาศักยภาพเด็กในการก้าวสู่สากล โดยเฉพาะภาษาอังกฤษควรเน้นให้เด็กสามารถสื่อสารได้ ยังมีพัฒนาการเรียนการสอนการเขียนโปรแกรม (Coding) ที่จะสอนพื้นฐานตั้งแต่ระดับประถมศึกษาปีที่ 1 เป็นต้น
เลขาธิการ กพฐ. กล่าวต่อว่านายกฯ ห่วงใยกรณีมีข้อมูลในโซเชียลมีเดีย ว่ามีการค้นพบเด็กที่ผู้ปกครอง มีฐานะยากจน ขาดโอกาสทางการศึกษา ขอให้ทุกหน่วยงานลงไปช่วยกันดูแลเพื่อให้เด็กได้รับการศึกษาต่อ รวมถึงได้มอบหมายให้ ศธ.เร่งยกระดับการทดสอบระดับนานาชาติ โครงการประเมินผลนักเรียนร่วมกับนานาชาติ หรือ พิซ่า (PISA) ของประเทศไทยให้อยู่ในลำดับที่สูงขึ้นเนื่องจากคะแนน PISA เป็นหนึ่งในตัวชี้วัดในการลงทุนของประเทศ รวมถึงการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน (โอเน็ต) และกำชับให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาคนร่วมกันนำเรื่องดังกล่าวเป็นโจทย์ในการสนับสนุน ศธ.ที่พัฒนาเด็กให้ได้ตามเป้าหมาย
ทั้งนี้ สำหรับการสร้างความรู้ ความเข้าใจแก่ประชาชนเกี่ยวกับเรื่องการเลือกตั้งนั้น นายกฯ ย้ำว่าข้อเท็จจริงที่เป็นไปได้ เป็นไปไม่ได้ ก็ขอให้ทำความเข้าใจแก่ประชาชนอยากให้ข้าราชการ ครูอาจารย์ทำความเข้าใจแก่ประชาชนในเรื่องที่มีข้อมูลข่าวสาร ไม่ได้ย้ำถึงการวางตัวช่วงเลือกตั้งเพราะยังไม่มีภารกิจ แต่สำหรับ สพฐ.ซึ่งมีบุคลากรครูกว่า 4 แสนคน ผมได้ออกหนังสือซึ่งเป็นไปตามกฎหมายแจ้งการปฏิบัติตนในฐานะข้าราชการ โดยย้ำเรื่องการวางตัวเป็นกลางทางการเมืองต้องทำเช่นไรด้วย ส่วนประเด็นที่มีการเรียกร้องให้เลื่อนวันสอบการทดสอบความถนัดทั่วไป หรือ แกต และการทดสอบความถนัดทางวิชาชีพ/วิชาการ หรือ แพตมาเป็นกำหนดเดิมคือ 23-26 ก.พ.2562 หากมีการเลือกตั้งออกไปนั้น เรื่องนี้นายกฯไม่ได้มีการสอบถาม แต่นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ(รมว.ศธ.) มีนโยบายแล้วว่าหากมีการประกาศเลื่อนเลือกตั้งก็ให้คืนวันสอบแก่นักเรียน แต่ให้รอจนกว่าจะมีความชัดเจน