หาเสียงโซเชียล แค่แจ้ง 'กกต.' ไม่ต้องลบแอคเคาท์
เลขาฯกกต.ยันแก้กฎหมายไม่ได้ สมัครส.ส.ต้องมีหลักฐานเสียภาษี 2559-2561แนะให้รีบยื่น สัปดาห์หน้านัดหารือผู้บริหารไลน์ วางแนวทางสกัดแชร์ข้อความผิดกฎหมาย ส่วนว่าที่ผู้สมัครชี้ไม่ต้องลบแอคเคาท์เฟซบุ๊ก แค่ให้แจ้งกกต.ป้องกันถูกปลอมชื่อ
โรงแรมมิราเคิล แกรนด์ - พ.ต.อ.จรุงวิทย์ ภุมมา เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต. )กล่าวถึงกรณีกกต.กำหนดให้ใช้หลักฐานการยื่นการเสียภาษีย้อนหลัง 3 ปี ( 2559-2561) เป็นหลักฐานในการสมัครรับเลือกตั้งส.ส. ว่า กกต.ได้พูดคุยกันและมีมติแล้ว โดยกฎหมายกำหนดให้ใช้หลักฐานการเสียภาษีถึงปีที่รับสมัคร จึงมีมติว่าหลักฐานภาษีที่จะใช้ต้องใช้ย้อนหลัง 3 ปี คือปี 2559 ,2560 และ 2561 ซึ่งการเสียภาษีของปี 2561 ทางกรมสรรพากรให้เริ่มยื่นเสียภาษีตั้งแต่ 1 ม.ค.- 31 มี.ค. 62 ดังนั้นผู้ที่จะสมัครรับเลือกตั้งสามารถยื่นเสียภาษีประจำปี 2561 ได้แล้ว และขอหลักฐานการเสียภาษีจากกรมสรรพากรเพื่อนำมายื่นสมัคร สำหรับบางคนที่อาจมีปัญหาในการรวบรวมหลักฐานการหักภาษี ณ ที่จ่าย ก็ให้ไปยื่นเสียภาษีประจำปีกับกรมสรรพากรก่อนเพื่อให้ได้หลักฐานใบเสร็จการเสียภาษีมายื่นสมัครต่อ กกต. แล้วค่อยไปยื่นหลักฐานการหักภาษี ณ ที่จ่าย เพิ่มเติมภายหลังต่อกรมสรรพากร อย่างไรก็ตาม การเสนอให้กกต.ผ่อนผันเกณฑ์ดังกล่าวไม่สามารถทำได้ เพราะเป็นเรื่องที่กำหนดอยู่ในกฎหมาย
พ.ต.อ.จรุงวิทย์ กล่าวถึง การหาเสียงทางโซเชียลมีเดีย ว่า ขณะนี้ใครที่มีเฟซบุ๊ก ไลน์ ก็ไม่ต้องลบแอคเคาท์ โดยสามารถแจ้งล่วงหน้าต่อผู้อำนวยการประจำเขตเลือกตั้งได้เลย แม้ขณะนี้จะยังไม่มีการเปิดรับสมัครแต่เมื่อมี พ.ร.ฎ.ให้มีการเลือกตั้งแล้ว การหาเสียงต่างๆก็สามารถดำเนินการได้ตามปกติ ระเบียบกกต.ที่ออกมาในเรื่องดังกล่าวก็เพื่อที่จะปกป้องตัวของผู้สมัครที่จะใช้ช่องทางในการสื่อสารกับประชาชน ไม่ให้ถูกผู้อื่นปลอมแอคเคาท์ใส่ร้ายป้ายสี และเพื่อกกต.จะคำนวณเป็นค่าใช่จ่ายในการหาเสียง ยืนยันว่ากกต.ให้อิสระเสรีภาพในการหาเสียงเต็มที่ ทุกพรรคสามารถทำได้ตามปกติ เพียงแต่อย่าทำผิดกฎหมายก็แล้วกัน และขอให้เก็บใบเสร็จค่าใช้จ่ายไว้เป็นหลักฐาน ตอนนี้กกต.ได้ประสานกับทุกสื่อ ทุกมีเดีย ซึ่งสัปดาห์ที่ผ่านมาก็ได้ไปหารือกับผู้บริหารกูเกิ้ลเรื่องการคำนวณค่าใช้จ่าย และในสัปดาห์หน้าจะไปคุยกับไลน์ประจำประเทศไทย เพื่อให้ความรู้ไม่ให้มีการเผยแพร่ข้อความที่ผิดกฎหมาย
พ.ต.อ.จรุงวิทย์ กล่าวถึงกรณีที่ผู้สมัครพรรคการเมืองตำหนิกกต.เรื่องกำหนดสถานที่ติดป้ายหาเสียงล่าช้า ว่า กกต.กำลังเร่งประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง แต่ขณะนี้ยังไม่มีการรับสมัครจึงยังไม่ทราบตัวเลขที่ชัดเจนว่าแต่ละพรรคจะส่งผู้สมัครกี่เขต ซึ่งรายละเอียดเหล่านี้ผูกกับการคำนวณจำนวนป้าย และผู้ช่วยหาเสียง เช่นกำหนดให้มีได้ไม่เกิน 10 เท่าของจำนวนเขตที่ส่งสมัคร เรื่องการหาเสียงสามารถดำเนินการได้ แต่อาจจะมีปัญหาเรื่องการคำนวณค่าใช้จ่ายซึ่งเริ่มนับแล้ว
พ.ต.อ.จรุงวิทย์ กล่าวถึงความคืบหน้าถึงการจัดทำบัตรเลือกตั้ง ว่า ในส่วนนี้มีการจัดงบประมาณสำหรับพิมพ์บัตรเลือกตั้งแล้ว สามารถเข้าไปตรวจสอบได้ในเว็บไซด์ของ กกต. แต่ยังไม่มีการทำสัญญาจัดจ้าง เพราะการดำเนินการจะเริ่มได้หลังปิดรับสมัคร ซึ่งจะรู้จำนวนผู้ใช้สิทธิเลือกตั้งนอกเขต เลือกตั้งล่วงหน้า และเลือกตั้งนอกราชอาณาจักร แต่ขอให้มั่นใจว่ารูปแบบของบัตรจะมีหมายเลขผู้สมัคร ชื่อและโลโก้พรรค ส่วนบัตรในแต่ละเขตจะมีกี่หมายเลขยังไม่สามารถตอบได้ เพราะจะเป็นไปตามจำนวนพรรคที่ส่งสมัครในเขตนั้นๆ แม้ขณะนี้จะมีพรรคการเมืองในระบบ 105 พรรค แต่ถึงเวลาปิดรับสมัครจะมีกี่พรรคยังไม่สามารถตอบได้