'พช.' ลั่นแก้ปัญหา 'คุกมีไว้ขังคนจน' ลดขนาด 'กองทัพ' ให้เล็กลง

'พช.' ลั่นแก้ปัญหา 'คุกมีไว้ขังคนจน' ลดขนาด 'กองทัพ' ให้เล็กลง

"พรรคเพื่อชาติ" หาเสียงแก้ปัญหาต้นเหตุ "คุกมีไว้ขังคนจน" พร้อมลดขนาด "กองทัพ" ให้เล็กลงเพราะกำลังพลจะถูกแทนที่ด้วยหุ่นยนต์ พร้อมให้เงินคนสูงวัยเดือนละ2,000บาท

นางสาวเกศปรียา แก้วแสนเมือง โฆษกพรรคเพื่อชาติ เผยว่านโยบายพรรคเพื่อชาติเน้นการแก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำทุกด้าน โดยการร่างนโยบายของพรรคจะนำเอาปัญหาเป็นที่ตั้ง ระดมสมองหาแนวทางการแก้ปัญหาโดยฟังความรอบด้าน โดยเฉพาะจากมุมผู้ที่ได้รับผลกระทบ เนื่องจากเป็นพรรคคนจนและเป็นผู้ที่ได้รับผลกระทบโดยตรงจากความเหลื่อมล้ำในสังคม และสมาชิกพรรคส่วนใหญ่เป็นคนรุ่นใหม่ทางการเมืองทำให้ได้แนวคิดใหม่ๆ

“แม้หัวหน้าพรรคนายสงคราม กิจเลิศไพโรจน์ จะสูงอายุแต่ท่านเป็นผู้รับฟังและยอมรับข้อเสนอแนะดีๆ ของสมาชิกทุกคนในพรรค” โฆษกพรรคเพื่อชาติ กล่าว

โฆษกพรรคเพื่อชาติ กล่าวว่า ขณะนี้ประเทศไทยมีความเหลื่อมล้ำทุกด้าน ปัญหาหนักที่สุดคือเศรษฐกิจ ซึ่งพรรคได้มีนโยบายที่จะแก้ปัญหาความยากจนหลักๆ 6 นโยบาย คือ

นโยบายยกเลิกการผูกขาดตัดตอนที่เป็นสัมปทาน ที่กีดขวางการพัฒนาโอกาสของคนยากจน

นโยบายปลอดภาษีเครื่องจักรกลและเครื่องยนต์ เพื่อการเกษตรและประมง เพื่อช่วยลดต้นทุนปัจจัยการผลิตให้โอกาสเกษตรกร

นโยบายนำสินค้าเกษตรหลักทุกชนิดมาเป็นวาระแห่งชาติเพื่อแก้ปัญหาให้ราคาสินค้าเกษตรอยู่ในเกณฑ์ที่เกษตรกรมีกำไรสามารถอยู่ได้

นโยบายโฉนดใบเดียว คือ การยกเลิกเอกสารสิทธิ์ทุกประเภท อาทิ สปก. น.ส.2 และอื่นๆ ให้เหลือเพียงโฉนดใบเดียว เพื่อลดปัญหาความขัดแย้งความเหลื่อมล้ำ

นโยบายนำเทคโนโลยี่บล็อกเชนมาใช้ในงานราชการหลายหน่วยงาน เช่น การจัดเก็บโฉนดที่ดินเพื่อลดปริมาณข้าราชการ ลดค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปติดต่อราชการ ลดเวลาในการติดต่อราชการ ลดการใช้ภาษีของประเทศ

นโยบายแก้ปัญหาหนี้สินนอกระบบโดยแก้กฏหมายให้รัฐช่วยค้ำประกันเงินกู้

โฆษกพรรคเพื่อชาติ กล่าวว่า ด้านความเหลื่อมล้ำทางสวัสดิการสังคม พรรคเพื่อชาติมีนโยบายด้านสวัสดิการสังคมมี 5 นโยบาย คือ

นโยบายพัฒนาศักยภาพโรงพยาบาลประจำตำบลทุกตำบล 7 พันกว่าแห่งให้มีสถานะทัดเทียมได้มาตรฐานเหมือนโรงพยาบาลในตัวเมือง เพื่อลดความเหลื่อมล้ำในการเข้าถึงสวัสดิการประกันสุขภาพของประชาชนในตำบลที่ห่างไกล

นโยบายเงินช่วยเหลือผู้สูงอายุ ประชาชนอายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไป ได้เงินเท่ากันหมด คนละ 2,000 บาทต่อเดือนตลอดชีพ

นโยบายสร้างตลาดงานฝีมือผู้สูงอายุเพื่อเพิ่มรายได้ให้ผู้สูงอายุ สร้างสังคมผู้สูงอายุให้ดีขึ้น

นโยบายนโยบาย 1 ตำบล 1 นักศึกษาแพทย์ โดยจะให้ทุนกับนักเรียนที่ขาดโอกาส ขาดทุนทรัพย์ในแต่ละตำบลทั่วประเทศได้เรียนแพทย์


นโยบาย 1 ตำบล 1 คนเร่ร่อนดิจิตอลเพื่อสร้างพลเมืองดิจิตอลให้ทุกตำบลในการเรียนรู้การมีอาชีพในสังคมดิจิตอลของโลกอนาคตโดยใช้งบประมาณจากภาษีบาป เพื่อสร้างให้โอกาสทางการศึกษาและสร้างความเท่าเทียมให้กับเยาวชนทุกตำบลทั่วประเทศ

โฆษกพรรคเพื่อชาติ กล่าวว่า ด้านความเหลื่อมล้ำทางยุติธรรมพรรคเพื่อชาติมีนโยบายจะเสนอแก้ไขกฏหมายและระเบียบปฏิบัติกระบวนการดำเนินการทางยุติธรรมให้ยึดโยงกับประชาชนให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพื่อแก้ปัญหาประเด็น “คุกมีไว้ขังคนจน” ซึ่งต่อไปจะสร้างปัญหาต่อความเชื่อมั่นของประเทศ รวมทั้งนโยบายแก้ปัญหาสิ่งแวดล้อมทางพรรคจะใช้มาตรการทางกฏหมายวางแผนปัญหาสิ่งแวดล้อมให้ครบวงจร

โฆษกพรรคเพื่อชาติ กล่าวว่า นโยบายทางการศึกษาทางพรรคเพื่อชาติมีผู้สมัคร ที่เป็นพลเมืองดิจิตอลหลายคน ดังนั้นนโยบายทางการศึกษาของทางพรรคที่ลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษาจะใช้วิธีการปรับปรุงหลักสูตร โดยในระดับการศึกษาภาคบังคับจะเน้นปรับปรุงหลักสูตรให้เด็กและเยาวชนคิด วิเคราะห์ สังเคราะห์เป็น

“ส่วนในระดับอาชีวะศึกษา อุดมศึกษา รวมทั้งหลักสูตรโรงเรียนทหารจะปรับปรุงหลักสูตรให้รองรับการเป็นพลเมืองดิจิตอลในอนาคต พัฒนาประชากรให้สามารถควบคุม สร้าง AI และมีความสามารถในการเปลี่ยนแปลงทางชีวภาพของมนุษย์เพื่อไม่ให้เยาวชนเจน Z กลายเป็นกลุ่มชนที่ไร้ประโยชน์ (Useless Class) ของโลกอนาคต เพราะในอนาคตขนาดกองทัพไม่จำเป็นต้องมีขนาดใหญ่เพราะกำลังพลทั้งหมดจะถูกแทนที่ด้วยหุ่นยนต์และ AI ดังนั้นนโยบายพรรคเพื่อชาติจะปรับปรุงหลักสูตรทุกระดับ”

โฆษกพรรคเพื่อชาติ กล่าวว่า ด้านความเหลื่อมล้ำทางเพศ พรรคให้ความสำคัญกับทุกเพศในระนาบเดียวกัน พรรคเพื่อชาติส่งผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในนามพรรคครบทุกเพศ ทั้งเพศหญิง เพศชาย และเพศทางเลือก LGBTQ พรรคมีนโยบายนับถือกันที่ความสามารถไม่ได้ให้โอกาสเพศใดเพศหนึ่งมากกว่า แม้ว่าหัวหน้าพรรคเพื่อชาติจะเป็นเพศชายแต่กรรมการบริหารพรรคเพื่อชาติ 27 คน มีเพศหญิงถึง 8 คน เทียบเป็นเกือบร้อยละ 30 ซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ยของเพศหญิงที่เป็นกรรมการบริหารพรรคของพรรคการเมืองรวม 104 พรรคที่มีกรรมการบริหารพรรคเพศหญิงเพียง 311 คนที่เทียบเป็นร้อยละ 21 ข้อมูลจากฐานข้อมูลของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ณ วันที่ 2 ม.ค. 2562 พบว่า มีพรรคการเมืองในสารบบทั้งสิ้น 104 พรรค มีคณะกรรมการบริหารพรรค (กก.บห.) รวมกัน 1,465 คน เป็นผู้ชาย 1,154 คน (78.7%) มีผู้หญิง 311 คน (21%)

โฆษกพรรคเพื่อชาติ กล่าวว่า ส่วนนโยบายแก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำทางเพศของพรรคเพื่อชาติจะเน้นการแก้ปัญหาด้วยกฏหมายและระเบียบปฏิบัติ เช่น แก้กฏหมายสิทธิคู่สมรสต่างชาติของทุกเพศให้เท่าเทียมกัน แก้กฏหมายเพิ่มโทษเจ้าหน้าที่รัฐที่กระทำการทำรุนแรงทางจิตใจแก่เหยื่อที่ถูกกระทำรุนแรงทางเพศ เพื่อแก้ปัญหาเหยื่อที่ถูกกระทำรุนแรงทางเพศไม่กล้าเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม รวมทั้งปรับแก้กฏหมายพรบ.คู่ชีวิตให้คนเพศเดียวกันสมรสกันได้ รวมทั้งมีการรณรงค์ให้สังคมยอมความเท่าเทียมกันของทุกเพศโดยบรรจุลงในหลักสูตรการศึกษาภาคบังคับ

“โดยนโยบายของพรรคเพื่อชาติทั้งหมดจะมีการแถลงใหญ่อีกครั้งในต้นเดือนกุมภาพันธ์” โฆษกพรรคเพื่อชาติ กล่าว