เลื่อนพิพากษา '4ชายชุดดำ' พกปืนช่วงชุมนุมแดงปี 53
ศาลอุทธรณ์ ยังรอจำเลยที่ 3-4 ชัดเจนอุทธรณ์หรือไม่ หลังขยายเวลาอุทธรณ์ให้ 30 วัน ทนายระบุ เตรียมยื่นคำร้องสัปดาห์นี้ไม่ติดใจอุทธรณ์ผลยกฟ้องคดีชั้นต้น
ที่ห้องพิจารณา 801 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก เวลา 10.00 น. ศาลนัดอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ คดีชายชุดดำชุมนุม นปช. ปี 2553 คดีหมายเลขดำ อ.4022/2557 ที่พนักงานอัยการสำนักงานคดีพิเศษ 1 เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีพิเศษ 1 เป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง นายกิตติศักดิ์ หรือ อ้วน สุ่มศรี อายุ 50 ปี ชาวกรุงเทพ , นายปรีชา หรือไก่เตี้ย อยู่เย็น อายุ 29 ปี ชาวเชียงใหม่ , นายรณฤทธิ์ หรือนะ สุริชา อายุ 38 ปี ชาวอุบลราชธานี , นายชำนาญ หรือเล็ก ภาคีฉาย อายุ 50 ปี ชาวกรุงเทพ และนางปุนิกา หรือ อร ชูศรี อายุ 43 ปี ชาวกรุงเทพ
ทั้งหมดเป็นจำเลยที่ 1- 5 ในความผิดฐานร่วมกัน พกพาอาวุธไปในที่สาธารณะ หรือชุมชน และมีอาวุธ เครื่องกระสูนปืน และวัตถุระเบิดที่นายทะเบียนไม่สามารถออกใบอนุญาตได้ ตามพ.ร.บ.อาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืน ฯ พ.ศ.2490 มาตรา 4 , 8 ทวิ , 55 , 72 ทวิ และ 78ซึ่งอัยการ ยื่นฟ้องเมื่อวันที่ 4 ธ.ค.57 จากกรณีเมื่อวันที่ 10 เม.ย.53 จำเลยทั้งห้ากับพวกที่ยังหลบหนี และพวกที่ถึงแก่ความตายไปแล้ว ร่วมกันพกอาวุธ เครื่องกระสุนและวัตถุระเบิด ที่สามารถใช้ยิงทำอันตรายแก่ชีวิต ร่างกาย หรือทรัพย์สินให้เกิดความเสียหายได้ อาทิ เครื่องยิงลูกระเบิดเอ็ม 79 , ปืนเอ็ม 16 ,ปืนเอชเค (HK) 33 หรือปืนอาก้า ซึ่งนายทะเบียนจะออกใบอนุญาตให้ไม่ได้ ไปตามบริเวณแยกคอกวัว ถ.ตะนาว ,ถ.ประชาธิปไตย แขวงบวรนิเวศน์ เขตพระนคร ในช่วงที่มีกลุ่มชายชุดดำ ระหว่างการชุมนุมของกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.)
โดย "ศาลอาญา" มีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 30 ม.ค.60 จำคุกจำเลยที่ 1-2 คนละ 10 ปี ส่วนจำเลยที่ 3-5 ให้ยกฟ้องเนื่องจากพยานหลักฐานของโจทก์ยังไม่มีน้ำหนักเพียงพอ จึงประโยชน์แห่งความสงสัยให้จำเลย โดยให้ขังจำเลยไว้ระหว่างอุทธรณ์ ซึ่งต่อมาจำเลยที่ 3,4 ,5 ได้ยื่นประกันตัวไปคนละ 200,000 บาท โดยเมื่อถึงเวลาศาลได้แจ้งให้จำเลยทั้งหมดรับทราบก่อนว่า ศาลจะอ่านคำสั่งของศาลอุทธรณ์ที่จำเลยที่ 3,4 ได้ยื่นขอขยายระยะเวลาอุทธรณ์คดีนี้ โดยศาลระบุว่า หลังจากที่ศาลชั้นต้น มีคำพิพากษายกฟ้องจำเลยที่ 3, 4 , 5 ต่อมาจำเลยที่ 3-4 ได้ยื่นขอขยายเวลาอุทธรณ์ ซึ่งศาลชั้นต้นวินิจฉัยเมื่อวันที่ 31 มี.ค.60 ว่าการยื่นคำร้องนั้น ได้ล่วงเลยระยะเวลาในการยื่นขอขยายอุทธรณ์มาแล้ว จึงให้ยกคำร้อง ซึ่งจำเลยที่ 3-4 ได้ยื่นอุทธรณ์
เมื่อวันที่ 27 เม.ย.60 โดยศาลอุทธรณ์มีคำสั่งกลับให้จำเลยทั้งสองขยายระยะเวลาอุทธรณ์ได้เป็นเวลา 30 วันนับจากที่ศาลมีคำสั่งนี้ ซึ่งขณะนี้จำเลยที่ 3-4 ยังไม่ได้ยื่นคำอุทธรณ์และยังไม่แน่ว่าจำเลยทั้งสองจะยื่นอุทธรณ์คดีภายในกำหนดระยะเวลาดังกล่าวหรือไม่ ดังนั้นศาลศาลอุทธรณ์ จึงยังไม่ได้มีคำพิพากษาในคดีนี้ เนื่ิองจากต้องรอให้ชัดเจนก่อนว่าจำเลยที่ 3-4 จะยื่นอุทธรณ์หรือไม่ หากยื่นอุทธรณ์ก็จะนำไปพิจารณาพร้อมกับอุทธรณ์ของโจทก์และจำเลยที่ 1, 2 และ 5 โดยระหว่างนี้ศาลมีคำสั่งให้จำหน่ายคดีออกจากสารบบความของศาลอุทธรณ์ไว้ก่อน
ภายหลัง "นายวิญญัติ ชาติมนตรี" ทนายความจำเลย กล่าวว่า ก่อนหน้านี้มีทนายความที่รับผิดชอบในคดีด้วย ซึ่งได้ดูแลคดีจำเลยที่ 3-4 ซึ่งศาลชั้นต้นยกฟ้อง ได้ยื่นขอขยายระยะเวลาอุทธรณ์นั้น โดยจะให้มีการพิจารณาในชั้นศาลอุทธรณ์ชี้ขาดเรื่องการยกประโยชน์แห่งความสงสัยของพยานหลักฐานโจทก์ โดยก่อนหน้านี้ จำเลยที่ 5 ซึ่งศาลชั้นต้นยกฟ้องเช่นกัน ก็ได้ยื่นอุทธรณ์ไปก่อนหน้านี้แล้ว อย่างไรก็ดี ตนก็จะหารือกับจำเลยที่ 3-4 อีกครั้งเพื่อยืนยันว่ายังประสงค์ที่จะยื่นอุทธรณ์อีกหรือไม่ ซึ่งเบื้องต้น จำเลยที่ 3-4 ก็จะไม่ยื่นอุทธรณ์หากเป็นเช่นนั้น ตนก็จะทำคำร้องยื่นต่อศาลอุทธรณ์แจ้งให้ทราบภายในสัปดาห์นี้ เพื่อการพิจารณาคำอุทธรณ์คดนี้ของจำเลยอื่นจะได้ดำเนินการต่อไปตามระยะเวลา โดยปัจจุบันจำเลยที่ 1-2 ก็ยังถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำ ซึ่งระหว่างนี้ตนคิดว่ายังไม่สามารถที่จะยื่นประกันตัวได้เพราะคำพิพากษาลงโทษของศาลชั้นต้น อัตราโทษค่อนข้างสูง ขณะที่ศาลอุทธรณ์ก็ยังไม่มีคำพิพากษาเกี่ยวกับคดีนี้ออกมาจึงเป็นไปได้ว่า หากจะยื่นประกันก็อาจจะยังไม่ได้รับการประกันตัวออกมา