ประกาศรับรองรายชื่อผู้สมัครส.ส.ยังมีลุ้น หลังตรวจสอบพบเป็นสมาชิกซ้ำซ้อน สังกัดพรรคไม่ครบ 90 วัน ไม่พบชื่อในฐานข้อมูลสมาชิก 506 รายอาจถูกตัดสิทธิ์
วันนี้ ( 14 ก.พ.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีที่ผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำเขตเลือกตั้งทั้ง 350 เขต จะต้องตรวจสอบคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามผู้สมัครส.ส.เขตที่มียอดการสมัครกว่า1หมื่นคน และต้อง
เมื่อวันที่ 14 ก.พ.62 ผู้สื่อข่าวรายงานถึงการประกาศรับรองรายชื่อผู้สมัครส.ส.แบบแบ่งเขตในวันพรุ่งนี้ ( 15 ก.พ.) พบว่าขณะนี้สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)ได้แจ้งผลการตรวจสอบการเป็นสมาชิกพรรคการเมืองของผู้สมัคร ส.ส.แบบแบ่งเขตเลือกตั้ง ไปยังผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำจังหวัดทั่วประเทศเพื่อเป็นข้อมูลให้ผู้อำนวยการประจำเขตเลือกตั้งใช้พิจารณาประกาศรายชื่อให้เป็นผู้สมัคร ลงวันที่ 11 ก.พ.โดยมีรายงานว่าผลการตรวจสอบแยกเป็นการเป็นสมาชิกพรรคการเมืองของผู้สมัคร ส.ส.แบบแบ่งเขตที่บันทึกเข้าระบบฐานข้อมูลพรรคการเมือง กรณี ไม่พบว่ามีชื่ออยู่ในระบบฐานข้อมูลสมาชิกพรรคการเมือง และไม่เป็นผู้ร่วมจัดตั้งพรรคที่พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส.มาตรา 172 ให้สิทธินับการเป็นสมาชิกนับตั้งแต่วันที่ยื่นคำขอจดทะเบียนจัดตั้งพรรค ซึ่งพบผู้สมัครส.ส.เขตที่เข้าข่ายดังกล่าวรวม 253 ราย และผลการตรวจสอบสมาชิกพรรคของผู้สมัครส.ส.ที่บันทึกเข้าระบบฐานข้อมูลพรรคกรณีพบว่า เป็นสมาชิกพรรคการเมืองเดียวไม่ครบ 90 วัน และเป็นสมาชิกพรรคซ้ำซ้อน ซึ่งพบผู้สมัครเข้าข่ายดังกล่าวรวม 253 ราย
อย่างไรก็ตาม มีรายงานว่ากรณีดังกล่าวสร้างความสับสนให้ผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำจังหวัดทั่วประเทศเป็นอย่างมาก เนื่องจากเมื่อวันที่ 12ก.พ.สำนักงาน กกต. เพิ่งจะได้มีบันทึกข้อความแจ้งเป็นการภายในไปยังผู้อำนวยการเลือกตั้งประจำจังหวัดทั่วประเทศว่า กรณีไม่ปรากฎชื่อผู้สมัครส.ส.ในระบบฐานข้อมูลสมาชิกพรรคการเมือง เนื่องจากพรรคการเมืองยังไมได้นำเข้าข้อมูลสมาชิกพรรคการเมืองให้ยึดหลักฐานการเป็นสมาชิกพรรคการเมืองที่ผู้สมัครนำมาแสดงคือ สำเนาใบสมัครเป็นสมาชิกพรรค สำเนาหลักฐานการชำระเงินค่าบำรุงพรรค และสำเนาหลักฐานการลาออกจากสมาชิกพรรคการเมืองอื่น เป็นหลักฐานในการพิจารณารับสมัคร ส่วนกรณีการนับระยะเวลาการเป็นสมาชิกพรรคของผู้สมัครที่เป็นผู้ร่วมกันจดแจ้งจัดตั้งนั้นให้ยึดหลักฐานสำเนาใบคำขอจดทะเบียนจัดตั้งพรรคการเมือง และสำเนาหลักฐานการรับทุนประเดิมของผู้ร่วมกันจัดตั้งพรรคการเมือง เป็นหลักฐานในการพิจารณารับสมัคร จึงทำให้ ขณะนี้ในกรุ๊ปไลน์สำนักงาน กกต.ที่ใช้สื่อสารกับผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำจังหวัดทั่วประเทศ ทางผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำจังหวัด ได้พยายามขอความชัดเจนว่าตกลงแล้วจะให้แจ้งผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำเขต ยึดข้อมูลของสำนักงานที่แจ้งไป หรือหลักฐานที่ผู้สมัครนำมาแสดง เป็นหลักในการพิจารณาประกาศรับรองรายชื่อผู้สมัครเพราะตามกฎหมายจะต้องประกาศรับรองรายชื่อผู้สมัคร ในวันพรุ่งนี้ (15 ก.พ.)แล้ว แต่ก็ยังไม่มีคำตอบจากทางสำนักงานฯ
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำจังหวัดยังแสดงความกังวลใจว่า หากยึดข้อมูลตามรายงานผลการตรวจสอบ ซึ่งก็จะมีผู้สมัคร ส.สเขต ถูกตัดสิทธิ์ไม่ได้รับการประกาศชื่อจากทั้ง3 เหตุผลมากถึง 506 คนรวมถึงการ ผู้สมัคร ที่จะถูกตัดสิทธิ์ไม่ประกาศรายชื่อจากเหตุผลอื่น ไปยื่นร้องต่อศาลฎีกา และผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำเขตก็ต้องไปชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาซึ่งก็จะถือเป็นภาระหนักพอสมควร หากท้ายที่สุดศาลฎีกายืนตามความเห็นของผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำจังหวัด ที่ไม่ประกาศรายชื่อ ผู้นั้นให้เป็นผู้สมัคร สำนักงานกกต.ก็ต้องแจ้งความ ดำเนินคดีทั้งกับผู้สมัครและหัวหน้าพรรคการเมืองนั้นที่เซ็นรับรองส่งสมัครอีกด้วยหรือไม่
ทั้งนี้ตามมาตรา 49 พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส. กำหนดว่ากรณีที่ผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำเขตเลือกตั้งไม่รับสมัครผู้ใดหรือไม่ประกาศรายชื่อบุคคลใดเป็นผู้สมัครตามมาตรา46 ให้บุคคลนั้นมีสิทธิยื่นคำร้องต่อศาลฎีกาภายใน 7 วันนับแต่วันที่ไม่รับสมัครหรือไม่ประกาศรายชื่อ โดยการพิจารณาและวินิจฉัยของศาลฎีกาให้ดำเนินการให้แล้วเสร็จก่อนวันเลือกตั้งไม่น้อยกว่า 3 วัน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตามข้อมูลที่ผู้สมัคร ส.ส.เขต อาจถูกตัดสิทธิไม่ได้ รับการประกาศชื่อให้เป็นผู้สมัคร มีทั้งพรรคเก่า พรรคใหม่ แต่ส่วนใหญ่แล้วเป็นพรรคการเมืองขนาดเล็ก หรือพรรคที่ตั้งขึ้นใหม่ อาทิ พรรคมหาชนถูกระบุว่าผู้สมัครแบบแบ่งเขตไม่พบชื่อในระบบฐานข้อมูลมากถึง 133 คน พรรคผึ้งหลวงมากถึง 40 คน พรรคประชาธรรมไทย 16 คน พรรคประชาธิปัตย์ 1 คน พรรคอนาคตใหม่ 3 คนที่ ไม่พบข้อมูลในระบบ และไม่เป็นผู้ร่วมจัดตั้งพรรค
ขณะที่ผู้สมัครแบบแบ่งเขตของพรรคเศรษฐกิจใหม่พบเป็นสมาชิกซ้ำซ้อนกับพรรคการเมืองอื่น 27 คน พรรคเพื่อชาติ 20 คน พรรคประชาชาติ 18 คน พรรคเสรีรวมไทย 6 คน พรรคชาติพัฒนา 3 คน พรรคภูมิใจไทย2คน ส่วนพรรคผู้สมัครพรรคครูไทยสังกัดการเมืองไม่ครบ 90 วัน จำนวน 18 คน พรรครวมพลังประชาชาติไทย 7 คน ที่เป็นสมาชิกพรรคการเมือง ไม่ครบ 90 วันและไม่เป็นผู้ร่วมจัดตั้ง พรรคการเมือง เป็นต้น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ ซึ่งกกต.จะต้องพิจารณาประกาศรับรองรายชื่อด้วยนั้น มีรายงานว่าในช่วงเช้าของวันที่ 15 ก.พ. กกต.จะประชุมพิจารณารายงานผลการตรวจสอบคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามในการสมัคร ก่อนที่จะประกาศรับรองรายชื่อ รวมทั้งพิจารณาถอนชื่อ นายสมศักดิ์ โกศัยสุข อดีตหัวหน้าพรรคสังคมประชาธิปไตยไทย ออกจากบัญชีรายชื่อแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีที่ กกต.ประกาศรับรองไปก่อนหน้านี้หรือไม่