กกต.แจงคลิป 'คะแนนบัตรดี-เสีย' คลาดเคลื่อนความจริง
สนง. กกต. แจงคลิป "คะแนนบัตรดี-เสีย" คลาดเคลื่อนจากความเป็นจริง
กรณีที่มีภาพปรากฏตามสื่อสังคมออนไลน์ และปรากฏเป็นคลิปการขานคะแนนบัตรเลือกตั้งของเขตเลือกตั้งที่ 5 หน่วยเลือกตั้งที่ 2 แขวงบางกะปิ เขตห้วยขวาง กรุงเทพมหานคร โรงเรียนวัดอุทัยธาราม
สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง ได้ตรวจสอบกับสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำกรุงเทพมหานครแล้ว ได้รับการชี้แจงว่า ในการลงคะแนนเลือกตั้งดังกล่าว มีผู้มาใช้สิทธิ 516 คน เป็นบัตรดี 501 ใบ เป็นบัตรเสีย 6 ใบ บัตรไม่เลือกผู้สมัครผู้ใด 9 ใบ โดยในการนับคะแนนมีสื่อมวลชน ผู้แทนพรรคการเมืองที่แจ้งชื่อเข้าร่วมสังเกตการณ์ขั้นตอนการนับคะแนนจนสิ้นสุดการนับคะแนนด้วย
ในกรณีการขานบัตรเสียเป็นบัตรดีที่ปรากฏตามคลิป สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำกรุงเทพมหานคร ได้ดำเนินการตรวจสอบมูลกรณีดังกล่าวแล้ว โดยปรากฏข้อเท็จจริงว่า กรรมการประจำหน่วยเลือกตั้ง (กปน.) ตามคลิปที่ปรากฏให้การยืนยันว่าได้ดำเนินการนับคะแนนถูกต้องตามระเบียบกฏหมายทุกประการ
คลิปที่ปรากฏเป็นเพียงบางช่วงบางตอนของเหตุการณ์การนับคะแนน โดยขณะที่กรรมการคนหนึ่งกำลังขานคะแนน ปรากฏว่ามีบัตรเลือกตั้งที่กากบาท (X) ทับหมายเลขผู้สมัครแล้วขานคะแนนว่า “บัตรดี” กรรมการอีกคนหนึ่งจึงได้ท้วงว่าบัตรดังกล่าวเป็นบัตรเสีย ซึ่งผู้ขานคะแนนจึงขานคะแนนใหม่ในทันทีว่า “บัตรเสีย”
กรรมการอีกหนึ่งคนที่ทำหน้าที่ขีดคะแนนในแบบขีดคะแนนได้ขานรับว่าเป็นบัตรเสียและขีดลงในช่องบัตรเสียของแบบขีดคะแนน จากนั้น ประธานกรรมการประจำหน่วยพร้อมด้วยกรรมการประจำหน่วยอีกหนึ่งคน ได้ลงลายมือชื่อสลักหลังบัตรว่า “เสีย” และพับบัตรใบนั้นลงใส่ตะกร้าบัตรเสียทันที ซึ่งเหตุการณ์ตั้งแต่ช่วงขานคะแนนเป็นบัตรเสียจนถึงการขีดคะแนน เป็นบัตรเสียนั้นมิได้ปรากฏในคลิปที่ถูกนำมาเผยแพร่แต่อย่างใด และเมื่อนับคะแนนเสร็จสิ้นแล้ว กรรมการประจำหน่วยดังกล่าวได้รายงานผลการนับคะแนนตามแบบ ส.ส. 5/18 ปรากฏว่า มีจำนวนบัตรดี บัตรเสีย บัตรไม่เลือกผู้สมัครผู้ใด ตรงตามจำนวนผู้มาแสดงตนรับบัตรเลือกตั้งทุกประการ คลิปที่นำมาเผยแพร่ดังกล่าวได้แสดงเหตุการณ์เพียงบางช่วง แต่ไม่ได้แสดงแสดงทั้งหมด (ดูคลิปเหตุการณ์ทั้งหมดจากโพสต์ประกอบการชี้แจงการปฏิบัติงานของกรรมการประจำหน่วยเลือกตั้ง)
ดังนั้น คลิปที่มีการเผยแพร่ดังกล่าว อาจคลาดเคลื่อนจากความเป็นจริง จึงขอให้ประชาชนระมัดระวังในการเผยแพร่หรือแชร์คลิป ซึ่งอาจเข้าข่ายการกระทำผิดตามพระราชบัญญัติคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2560