อียูเตือนเบร็กซิทไร้ข้อตกลงฉุดศก.ชะงัก

อียูเตือนเบร็กซิทไร้ข้อตกลงฉุดศก.ชะงัก

ขณะค่าเงินปอนด์แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบดอลลาร์และยูโรหลังนายกฯอังกฤษเตรียมขอให้อียูขยายกำหนดเส้นตายเบร็กซิทให้เลยวันที่ 12 เม.ย.

นายวอลดิส ดอมบรอฟสกี ประธานคณะกรรมาธิการฝ่ายบริการการเงินของสหภาพยุโรป (อียู) กล่าวว่า หากอังกฤษแยกตัวออกจากสหภาพยุโรป (เบร็กซิท) โดยไม่มีการทำข้อตกลง สิ่งนี้ก็จะทำให้เกิดภาวะชะงักงันต่อระบบเศรษฐกิจ และจะกระทบต่อสภาพคล่องในตลาดการเงินแม้ว่าอียูได้จัดเตรียมมาตรการฉุกเฉินหลายประการเพื่อรับมือกรณีเบร็กซิทไร้ข้อตกลง

“เราจะไม่สามารถขจัดผลกระทบทั้งหมดทางเศรษฐกิจ” นายดอมบรอฟสกีกล่าว พร้อมกับระบุว่า ขณะนี้มีความเสี่ยงอย่างมากที่อังกฤษจะแยกตัวออกจากอียูในวันที่ 12 เม.ย.โดยไม่มีการทำข้อตกลง

นอกจากนี้ นายดอมบรอฟสกี ยังเตือนถึงผลกระทบทางด้านการเงินและเศรษฐกิจที่จะมีต่ออียูและอังกฤษจากกรณีเบร็กซิทที่ไร้ข้อตกลง โดยจะก่อให้เกิดภาวะชะงักงัน และกระทบต่อสภาพคล่องในตลาด

ขณะที่เงินปอนด์ดีดตัวขึ้นเมื่อเทียบดอลลาร์และยูโร หลังจากที่มีรายงานว่า นางเทเรซา เมย์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษ เตรียมเรียกร้องให้อียูให้เวลาแก่อังกฤษมากขึ้น เพื่อให้รัฐบาลมีเวลาในการเจรจากับพรรคแรงงานเพื่อผ่าทางตันกรณีการแยกตัวของอังกฤษออกจากสหภาพยุโรป

เมื่อเวลา 01.42 น.ตามเวลาไทยของวันนี้(3เม.ย.) ปอนด์แข็งค่า 0.14% สู่ระดับ 1.3117 ดอลลาร์ และปรับตัวขึ้น 0.29% สู่ระดับ 0.8532 เทียบยูโร

นางเมย์จัดการประชุมคณะรัฐมนตรีนานกว่า 7 ชั่วโมงในวันนี้ เพื่อแก้ปัญหาภาวะชะงักงันกรณีเบร็กซิท ซึ่งหลังเสร็จสิ้นการประชุมดังกล่าว นางเมย์กล่าวว่า จะเรียกร้องให้อียูให้เวลาแก่อังกฤษมากขึ้นด้วยการขยายกำหนดเส้นตายการแยกตัวจากอียูให้เกินกว่าวันที่ 12 เม.ย. เพื่อให้รัฐบาลมีเวลาในการเจรจากับพรรคแรงงานเพื่อผ่าทางตันกรณีเบร็กซิท

“เราจำเป็นต้องขยายเวลาการบังคับใช้มาตรา 50 เพื่อให้เราสามารถแยกตัวจากอียูตามกำหนดเวลาอย่างเป็นระบบระเบียบ และดิฉันเสนอที่จะนั่งลงเจรจากับฝ่ายค้านเพื่อให้มีการตกลงกันถึงแผนการที่เราจะปฏิบัติตามเพื่อให้มั่นใจว่าเราจะแยกตัวจากอียูโดยมีการทำข้อตกลง” นางเมย์ กล่าว

นางเมย์ ยังกล่าวเพิ่มเติมว่า ตนหวังว่ารัฐสภาอังกฤษจะลงมติรับรองข้อตกลงเบร็กซิท ภายในวันที่ 22 พ.ค. พร้อมกับเสริมว่าการแยกตัวจากอียู โดยมีข้อตกลงถือเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด