'ศรีสุวรรณ' เข้าให้ปากคำกกต.ยื่นยุบพรรครปช.
“ศรีสุวรรณ” เข้าให้ถ้อยคำกกต.ยัน รปช.เป็นปฏิปักษ์ต่อระบอบประชาธิปไตย ควรส่งศาลยุบพรรค ฟันธง กกต.ยังสรุปปมหุ้นสื่อ “ธนาธร” ไม่ได้ เหตุต้องรอผู้ร้องมาให้ถ้อยคำ เผยว่าที่ส.ส.อนค.อีก 6-7 ราย ซ้ำรอยหัวหน้าพรรค
เมื่อวันที่ 22 เม.ย.62. เวลา 15.30 น. นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย กล่าวภายหลังเข้าให้ถ้อยคำกับคณะกรรมการสืบสวน ไต่สวน และวินิจฉัย กกต. กรณีที่สมาคมฯได้เคยร้องเรียนว่านางเบญญา นันทขว้าง ผู้สมัครส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรครวมพลังประชาชาติไทย (รปช.) และนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ผู้ร่วมก่อตั้งพรรครปช. โพสต์ข้อความและปราศรัยหาเสียงว่า ”หากเลือกพรรคตระกูลเพื่อ… ก็จะไปจะไปจบที่ราชดำเนิน” ซึ่งสื่อให้เห็นถึงการชุมนุมประท้วงบนถนนราชดำเนินที่ไม่เป็นไปตามวิถีทางประชาธิปไตย แสดงให้เห็นว่าผู้สมัครและผู้ร่วมก่อตั้งพรรครปช. ไม่มีเจตจำนงที่จะรักษาระบอบประชาธิปไตย ไม่เคารพสิทธิของประชาชนจึงไม่สมควรที่จะมีพรรคการเมืองเช่นนี้อีกต่อไป จึงขอให้กกต.ส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่าการกระทำดังกล่าวเป็นปฏิปักษ์ต่อการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นพระประมุขหรือไม่ หากเข้าข่ายความผิดขอให้ศาลสั่งยุบพรรครปช.
นายศรีสุวรรณ กล่าวอีกว่า เดิมในวันนี้ (22 เม.ย.) เวลา 10.00น. กกต.ทำหนังสือเชิญตนเข้าให้ถ้อยคำประกอบคำร้องกรณีนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ขาดคุณสมบัติสมัคร ส.ส. เนื่องจากถือครองหุ้นสื่อ บริษัท วี-ลัค มีเดีย จำกัด แต่ตนต้องไปขึ้นศาลปกครอง จึงต้องรอให้คณะอนุกรรมการไต่สวนทำหนังสือเชิญตนมาอีกครั้ง ดังนั้นที่มีกระแสข่าวว่ากกต.จะสรุปผลการไต่สวนหุ้นของนายธนาธรในวันนี้ จึงยังทำไม่ได้เพราะยังต้องรอให้ตนในฐานะผู้ร้องเข้าให้ถ้อยคำก่อน ส่วนกรณีที่ทนายความของนายธนาธร อ้างว่า ในวันที่ 8 ม.ค. นายธนาธรนั่งรถกลับจากบุรีรัมย์มากรุงเทพฯ เพื่อเซ็นโอนหุ้น ส่วนตัวมองว่าเป็นข้อเท็จจริงที่จะนำมากล่าวอ้าง แต่ขึ้นอยู่กับน้ำหนักความน่าเชื่อถือเพราะคำกล่าวอ้างใครๆก็สามารถอ้างได้ ประเด็นสำคัญคือเอกสารหลักฐานที่จะต้องนำมาสำแดงเพื่อให้กกต.นำไปตรวจสอบ อย่างไรก็ตามทราบมาว่ากรณีหุ้นของนายธนาธรเป็นประเด็นที่สังคมให้ความสนใจ กกต.จึงตั้งคณะอนุกรรมการไต่สวนฯชุดใหญ่ ขึ้นมาเพื่อรวบรวมคำร้องทั้งหมดมารวมพิจารณาเป็นเรื่องเดียว
“สำหรับพรรคอนาคตใหม่คงไม่ได้มีแค่นายธนาธรที่ถูกตรวจสอบเรื่องการถือครองหุ้นสื่อ เพราะเท่าที่ตรวจสอบจากกรมทะเบียนธุรกิจการค้า พบว่ามีว่าที่ส.ส.ของพรรคอนาคตใหม่ 6-7 รายที่ถือครองหุ้นสื่อ กรณีดังกล่าวกฎหมายได้เขียนเอาไว้ชัด แม้จะเป็นบริษัทที่ไม่เคยประกอบธุรกิจด้านสื่อสารมวลชน แต่หากจดทะเบียนครอบคลุมกิจการด้านสื่อเอาไว้ก็อยู่ในข่ายขาดคุณสมบัติสมัครส.ส.ได้ โดยคาดว่าเร็วๆนี้จะสามารถรวบรวมหลักฐานนำมายื่นให้กกต.พิจารณา” นายศรีสุวรรณ กล่าว
นายศรีสุวรรณ กล่าวถึงกรณีที่ข่าวว่าพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ติดโผลเศรษฐีเอเชียลำดับต้นๆว่า เรื่องนี้ตนอยากได้ข้อมูลเพิ่มเติมเพราะเท่าที่มีข้อมูลปรากฎตามสื่อยังไม่เพียงพอต่อการทำเป็นคำร้อง ดังนั้นหากใครมีหลักฐานโดยเฉพาะเรื่องเงินฝาก 3,000 ล้านเหรียญสิงคโปร์ ขอให้ช่วยส่งมายังตนเพื่อยกร่างคำร้องให้มีการตรวจสอบอย่างจริงจัง