สมาคมแบงก์ลั่นพบ3ล้านบัญชีเข้าข่ายเสียภาษีเงินฝาก มีหลายบัญชี-รับดอกเบี้ยเกิน2หมื่นบาทต่อปี
สมาคมแบงก์ชี้กลุ่มเข้าข่ายเสียภาษีมี3ล้านบัญชีหรือ1% ที่มีหลายบัญชี รวมแล้วมีรายได้ดอกเบี้ยเกินเกณฑ์20,000บาทต่อปี
นางสาวชุลีพร น่วมทนง รองเลขาธิการสมาคมธนาคารไทยกล่าวว่าการเปลี่ยนแปลงประกาศการเก็บภาษีดอกเบี้ยเงินฝากของสรรพากรในเบื้องต้นเชื่อว่าเป็นเรื่องที่ดีเนื่องจากจะทำให้ลดผลกระทบและลดภาระที่มีต่อประชาชนหรือผู้ฝากเงินส่วนใหญ่ที่ไม่ต้องส่งข้อมูลการยินยอม(Consent)ให้กับแบงก์หากเทียบกับเกณฑ์เดิมที่ผู้ฝากเงินจะต้องเซ็นยินยอมในการส่งข้อมูลให้สรรพากรทุกคนซึ่งกลุ่มนี้คิดเป็นเกือบ99% ที่มีรายได้ดอกเบี้ยเงินฝากไม่เกิน20,000บาทจากกว่า80 ล้านบัญชีที่เป็นบัญชีเงินฝากออมทรัพย์
ดังนั้นจะเหลือกลุ่มที่เข้าข่ายต้องเซ็นยินยอมกับแบงก์เพียง1% เท่านั้นหรือคิดเป็น3ล้านคนที่เข้าข่ายต้องเสียภาษีเพราะมีรายรับจากดอกเบี้ยเงินฝากเกิน20,000บาทต่อปีซึ่งหากดูข้อมูลเงินฝากพบว่ากลุ่มนี้ส่วนใหญ่มีบัญชีเงินฝากเกิน3บัญชีหรือคิดรวมเป็นจำนวน30 ล้านบัญชีซึ่งกระจายอยู่ในหลายแบงก์ที่จำเป็นต้องซึ่งหากกลุ่มนี้เซ็นข้อมูลการยินยอมกับแบงก์
ด้านนางจันทวรรณสุจริตกุลผู้ช่วยผู้ว่าการสายยุทธศาสตร์และความสัมพันธ์องค์กรธปท. กล่าวว่าธปท. รับทราบเรื่องที่มีการหารือระหว่างกรมสรรพากรกับสถาบันการเงินในเรื่องกระบวนการนำส่งข้อมูลดอกเบี้ยเงินฝากออมทรัพย์ของลูกค้าให้กับกรมสรรพากรซึ่งมีประเด็นเรื่องของระบบงาน
เช่นระบบIT ของสถาบันการเงินที่อาจต้องใช้เวลาในการปรับเปลี่ยนเพื่อให้สามารถนำส่งข้อมูลดังกล่าวได้อย่างครบถ้วนจึงอาจต้องมีการหารือเพิ่มเติมเพื่อทำความเข้าใจร่วมกันมากขึ้นในเรื่องวิธีการปฏิบัติข้อติดขัดผลกระทบต่อประชาชนและทางเลือกในการดำเนินการเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ของนโยบาย