เปิด5ตัวเก็งนายกฯคนใหม่อังกฤษกำหนดอนาคตเบร็กซิท
หลังจากที่นายกรัฐมนตรีเทเรซา เมย์ลงจากตำแหน่ง ได้มีการเผยชื่อนักการเมืองมากถึง 25 คนที่คิดว่าตัวเองมีคุณสมบัติเพียงพอที่จะเข้ามารับตำแหน่งต่อจากเมย์ แต่ดูเหมือนว่า ในเกมชิงเก้าอี้ผู้นำอังกฤษครั้งนี้อดีตรัฐมนตรีต่างประเทศมีโอกาสมากที่สุด
นายบอริส จอห์นสัน อดีตรัฐมนตรีต่างประเทศวัย 54 ปี ที่ลงจากตำแหน่งเมื่อกลางปีที่แล้ว ชูประเด็นการขึ้นเป็นผู้นำพรรคอนุรักษ์นิยมเรื่อยมา และเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ยังยืนยันว่าจะขอชิงตำแหน่งหัวหน้าพรรค โดยจอห์นสัน อยู่ในกลุ่มเบร็กซิทสายเหยี่ยวที่สนับสนุนเบร็กซิทแบบไม่ต้องมีข้อตกลงกับสหภาพยุโรป(อียู) และเขาได้รับการสนับสนุนอย่างมากจากกลุ่มคนที่ภักดีต่อพรรค พูดได้ว่าเขามีโอกาสเป็นนายกรัฐมนตรีคนใหม่ของอังกฤษในอัตราต่อรอง 4 ต่อ 6
คนต่อมาคือนายโดมินิก ร๊าบ วัย 45 เคยเป็นรัฐมนตรีเบร็กซิทช่วงสั้น ๆ เมื่อปีที่แล้ว และลาออกเพราะไม่เห็นพ้องกับนายกฯเมย์ และขณะนี้มีแนวคิดไปทางกลุ่มเบร็กซิทสายฮาร์ดคอร์เหมือนกับจอห์นสัน แต่ยังไม่มีเสียงสนับสนุนในวงกว้าง และมีโอกาสเป็นนายกฯในอัตราต่อรอง 1 ต่อ 4
คนที่3 คือนายเจเรมี ฮันต์ รัฐมนตรีต่างประเทศคนปัจจุบันวัย 52 ปี ถูกมองว่ามีโอกาสเป็นนายกฯเหมือนกัน แม้มีโอกาสเพียง 1 ต่อ 10 ตอนที่มีการลงประชามติปี 2559 เขาโหวตไม่เอาเบร็กซิท แต่ตอนนี้หันมาสนับสนุนเบร็กซิทมากขึ้นเรื่อยๆ จึงถูกมองว่าน่าจะเป็นตัวแทนที่จะเชื่อมโยงคนทั้งสองฝ่ายในพรรคให้กับมาคืนดีกันได้
คนที่4 แอนเดรีย ลีดซอม ผู้ประสานงานคณะรัฐมนตรีกับสภาผู้แทนราษฎร ที่ประกาศลาออกจากตำแหน่งเมื่อวันอังคาร(21พ.ค.) หลังจากมองว่าแผนเบร็กซิทของนายกฯเมย์ ไม่ใช่เบร็กซิทอย่างแท้จริง และเรื่องนี้สร้างความกดดันอย่างใหญ่หลวงให้กับนายกฯเมย์ จนต้องประกาศก้าวลงจากตำแหน่งเมื่อวันศุกร์ (24พ.ค.) โดยลีดซอม เคยเป็นคู่แข่งของเมย์ในการชิงตำแหน่งผู้นำพรรคเมื่อปี 2559 และเธอเป็นเสียงสำคัญในการผลักดันเรื่องเบร็กซิท เช่นเดียวกับจอห์นสัน และร๊าบ แต่มีโอกาสเป็นนายกรัฐมนตรีเพียง 1 ต่อ 16
คนสุดท้ายคือนายไมเคิล โกฟ รัฐมนตรีกระทรวงสิ่งแวดล้อม ที่ถูกมองว่ามีโอกาสเป็นผู้นำคนใหม่ 1 ต่อ 12 แต่เขายังไม่ได้ประกาศตัวว่าจะชิงตำแหน่งหรือไม่ โดยเขาเป็นหนึ่งในผู้สนับสนุนเบร็กซิท และตอนแรกสนับสนุนทิศทางของจอห์นสัน แต่ต่อมาหันไปอยู่ฝ่ายนายกฯเมย์