“เสรี” ชี้ "7พรรคฝ่ายค้าน” ยื่นสอบการได้มาส.ว. เข้าข่ายล้มล้างการปกครอง-ส่อโดนยุบพรรค เหตุมีเจตนาล้มล้าง ส.ว. เตือนให้ระวัง - ใช้เวลาทำงานเพื่อชาวบ้าน ดีกว่าเล่นการเมือง
นายเสรี สุวรรณภานนท์ ส.ว. เปิดเผยว่า วันจันทร์ ที่ 1 กรกฎาคม ตนและส.ว.บางส่วนจะเข้าหารือกับนายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานวุฒิสภา เพื่อปรึกษาและหารือต่อประเด็นที่มีหลายฝ่ายยื่นตรวจสอบกระบวนการสรรหา ส.ว. ทั้งกรณีของ 7 พรรคร่วมฝ่ายค้าน ที่ยื่นญัตติต่อสภาผู้แทนราษฎร ให้ตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญตรวจสอบกระบวนการการได้มาซึ่ง ส.ว. และนายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ อดีตสมาชิกพรรคไทยรักษาชาติ ที่ยื่นเรื่องต่ออัยการสูงสุดให้ตรวจสอบกระบวนการและที่มาของส.ว. ทั้งนี้ความเห็นส่วนตัวมองว่าทั้ง 2 กรณี นั้นเข้าข่ายเป็นพฤติกรรมล้มล้างการปกครองตามที่รัฐธรรมนูญกำหนด และขัดต่อพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยพรรคการเมือง มาตรา 92 เนื่องจากกระบวนการสรรหาส.ว. นั้นตามรัฐธรรมนูญกำหนดวิธีและขั้นตอนไว้ชัดเจนว่ามีกระบวนการอย่างไร และ ส.ว. ถือเป็น 1 ใน 3 อำนาจอธิปไตย ดังนั้นหากพรรคฝ่ายค้านและตัวบุคคลพยายามทำเรื่องดังกล่าวโดยมีเจตนาที่ชัดเจนว่าต้องการให้การสรรหาส.ว. เป็นโมฆะ เท่ากับเป็นการล้มล้าง ส.ว. ฐานะฝ่ายนิติบัญญัติ จึงเข้าข่ายล้มล้างการปกครองด้วยเช่นกัน ซึ่งตามกฎหมายพรรคการเมืองกำหนดโทษไว้สูงสุดคือการยุบพรรค
“ผมไม่ได้ขู่ แต่นี่คือข้อเท็จจริงที่เห็นชัดเจน แม้ว่าจะกระทำโดยอ้างว่าตรวจสอบกระบวนการได้มาซึ่ง ส.ว. แต่เจตนาที่แท้จริงคือ การล้มล้าง ส.ว. โดยพยายามบอกว่ากระบวนการสรรหานั้นไม่ชอบ ทั้งที่กระบวนการสรรหาส.ว. เป็นไปตามที่รัฐธรรมนูญกำหนดไว้ชัดเจน ดังนั้นผมขอให้พรรคฝ่ายค้านยุติการเล่นเกมการเมืองแบบนี้ และเอาเวลาไปทำงานแก้ปัญหาให้ชาวบ้านจะเหมาะสมกว่า” นายเสรี กล่าว
นายเสรี ยังกล่าวต่อประเด็นที่นายเรืองไกร ยื่นเรื่องต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ให้ตรวจสอบคุณสมบัติของ ส.ว. กรณีถือครองหุ้นในกิจการสื่อสารมวลชน ว่า เป็นประเด็นที่ทำได้ และสามารถตรวจสอบในขั้นตอนดังกล่าวได้โดยไม่มีข้อขัดข้อง ส่วนกรณีที่มีส.ว.บางคนซึ่งถูกยื่นให้ตรวจสอบระบุว่ากรณีของนายเรืองไกรนั้นเข้าขายละเมิดสิทธิของส.ว. นั้น ตนไม่ทราบรายละเอียดแต่อาจเป็นประเด็นที่สามารถพิจารณาได้