อียู-ตลาดร่วมอเมริกาใต้บรรลุเอฟทีเอประวัติศาสตร์
“อียู” บรรลุข้อตกลงการค้าเสรีฉบับประวัติศาสตร์ กับกลุ่มตลาดร่วมอเมริกาใต้ตอนล่างหลังเจรจานาน 20 ปีและเป็นความร่วมมือการค้ากับนอกภูมิภาคมูลค่ามากที่สุดที่อียูเคยทำมา
คณะกรรมาธิการยุโรป (อีซี) ซึ่งเป็นฝ่ายบริหารของสหภาพยุโรป (อียู) ออกแถลงการณ์เมื่อวันศุกร์ (28 มิ.ย.) ว่า ได้บรรลุข้อตกลงการค้าเสรี (เอฟทีเอ) กับกลุ่มตลาดร่วมอเมริกาใต้ตอนล่างในนาม “เมร์โกซูร์” ซึ่งประกอบด้วยอาร์เจนตินา บราซิล ปารากวัย และอุรุกวัย
นายฌอง-คล็อด ยุงเกอร์ ประธานอีซี กล่าวว่า เอฟทีเอร่วมกับเมร์โกซูร์ถือเป็นข้อตกลงการค้าเสรี “ฉบับประวัติศาสตร์” เท่าที่อียูเคยประสบความสำเร็จในการเจรจามา และวันประกาศการบรรลุข้อตกลงฉบับนี้ยังเป็นวันครบรอบ 20 ปีที่ทั้ง 2ฝ่ายเริ่มการเจรจากันพอดีด้วย
สำหรับเมร์โกซูร์ อียูถือเป็นคู่ค้ารายใหญ่แห่งแรกที่บรรลุข้อตกลงการค้าฉบับสำคัญนี้
ด้านบราซิลซึ่งเป็นประเทศมีขนาดเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดในละตินอเมริกา กล่าวว่า ข้อตกลงการค้าฉบับนี้จะช่วยลดกำแพงภาษีนำเข้าสินค้าเกษตรหลายรายการจากเมร์โกซูร์เข้าสู่ยุโรป ไม่ว่าจะเป็นผลไม้สด น้ำผลไม้ และเมล็ดกาแฟที่เป็นหนึ่งในสินค้าส่งออกสำคัญของละตินอเมริกา
ขณะเดียวกัน เมร์โกซูร์ยังจะได้โควตาส่งออกเนื้อวัวสู่ยุโรปเพิ่มเป็น 9.9 หมื่นตันในอัตราภาษี 7.5% ครอบคลุมระยะเวลา 5 ปีนับจากนี้ และภาษี 0% สำหรับสินค้าจำพวกเนื้อสัตว์ปีกและน้ำตาลทรายอย่างละ 1.8 แสนตันในช่วงเวลาเดียวกัน
ส่วนอียูประเมินการลดค่าใช้จ่ายทางการค้าได้มากกว่า 4,000 ล้านยูโรจากข้อตกลงการค้ากับเมร์โกซูร์ ซึ่งครอบคลุมผู้บริโภคทั้งสองฝ่ายรวมกันประมาณ 780 ล้านคน