เร่งล่าส.อบจ.ฉาว คดีนายทุนจ้างขนไอซ์ 459 กก.
ตำรวจ ปส. เร่งล่า ส.อบจ.ฉาว ตามหมายจับศาลอาญา คดีนายทุนจ้างขนไอซ์ 459 กก.
เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 15ก.ค. ที่กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด(บช.ปส.) พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รอง ผบ.ตร. พล.ต.ท.ชินภัทร สารสิน ผบช.ปส. พล.อ.ธีรวัฒน์ บุณยะวัฒน์ เลขาธิการ กอ.รมน. พ.ต.ต.สุริยา สิงหกมล รองเลขาธิการ ป.ป.ส. พล.ท.ฉลองชัย ชัยยะคำ แม่ทัพภาคที่3 พล.ต.ท.มนตรี สัมบุณณานนท์ ผบช.ภ.5 พล.ต.ท.วิชิต ปักษา รรท.ผบช.ตชด. ร่วมกันแถลงการจับกุมมผู้ต้องหาเกี่ยวกับยาเสพติด จำนวน 4 ราย ประกอบด้วย 1. นายวราวุฒิ ไกรวงศ์ อายุ 32 ปี จ.ราชบุรี 2.น.ส.อังสุรีย์ ศรีคำนวณ อายุ 33 ปี จ.ราชบุรี 3.นายเปาะสา ดิง อายุ 51 จ.นราธิวาส 4.นายกอเซ็ง นิเกาะ จ.นราธิวาส พร้อมของกลาง ไอซ์ น้ำหนักประมาณ 459.30 กิโลกรัม , รถยนต์นั่งสองตอนท้ายบรรทุก 1 คัน , รถยนต์กระบะบรรทุก (เสริมกระบะข้าง) 1 คัน , โทรศัพท์มือถือ จำนวน 6 เครื่อง โดยแจ้งข้อกล่าวหาว่า “ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ไอซ์) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย โดยไม่ได้รับอนุญาต”
การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจาก ทางเจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งว่าจะมีขบวนการลักลอบลำเลียงยาเสพติด ซึ่งอาศัยอยู่ในจ.ท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมาร์ จะรับจ้างขนยาเสพติดให้กับนายจ้างชาวพม่า โดยจะนำยาเสพติดลำเลียงผ่านชานแดนจ.เชียงราย ก่อนนำสู่พื้นที่กทม.และปริมณฑล ซึ่งจะพักไว้แล้วนำส่งให้ลูกค้าในพื้นที่ภาคใต้อีกครั้ง ทางชุดจับกุมจึงได้วางแผนสกัดกั้น ได้จับกุม นายวราวุฒิและ.น.ส.อังสุรีย์ ที่บริเวณริมถนนกาญจนาภิเษก แยกต่างระดับพระราม 2 แขวงแสมดำ เขตบางขุนเทียน กรุงเทพฯ พร้อมยึดยาไอซ์ดังกล่าวที่ซุกซ่อนไว้กระบะท้ายรถยนต์ โดยปิดคลุม ด้วยผ้าใบเขียวเข้มอย่างมิดชิด นกจากนี้ยังสามารถขยายผลไปจับกุมนายเปาะสาและนายกอเซ็ง ได้ที่บริเวณภายในปั๊มน้ำมัน ปตท.ลพบุรีราเมศวร์
หลังจากกจับกุมผู้ต้องหาทั้ง 4 ราย แล้วนั้น ทางเจ้าหน้าที่ได้สืบสวนจนสามารถขยายผลออกหมายจับผู้จ้างวานในคดีนี้คือ นายก. ชาวต.โละจูด อ.แว้ง จ.นราธิวาส สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด ในภาคใต้ ตามหมายจับศาลอาญา ที่ 313/2562 ลงวันที่ 12 ก.ค.62 ข้อหา “ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ไอซ์หรือเมทแอมเฟตามีน) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต”
ด้าน พล.ต.ท.ชินภัทร สารสิน ผู้บัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด เปิดเผยว่า ในคดีนี้จากการสืบสวนพบว่านักการเมืองท้องถิ่นเป็น ผู้ดำเนินการจัดการเรื่องการเงิน และจากพยานหลักฐานที่ชัดเจนพบว่าทำมาแล้วเป็นครั้งที่ 2 ขณะนี้อยู่ระหว่างการไล่ตรวจสอบเส้นทางการเงิน แม้เจ้าตัวจะหลบหนี แต่ก็จะเร่งติดตามตัว รวมถึงการอายัดทรัพย์ ทั้งนี้ยังไม่พบความเชื่อมโยงกับนักการเมืองท้องถิ่นรายอื่นๆ