พณ.เร่งผลักดันการอำนวยความสะดวกทางการค้าในอาเซียน-ลดต้นทุนธุรกิจการค้าลง10%

พณ.เร่งผลักดันการอำนวยความสะดวกทางการค้าในอาเซียน-ลดต้นทุนธุรกิจการค้าลง10%

"พาณิชย์" ประชุมคณะกรรมการที่ปรึกษาร่วมด้านการอำนวยความสะดวกทางการค้าของอาเซียน ครั้งที่ 15 เร่งผลักดันการดำเนินการด้านการอำนวยความสะดวกทางการค้าในอาเซียน ยันช่วยลดต้นทุนการทำธุรกรรมทางการค้าลง 10% ภายในปี 2563 จนเป็นที่พอใจของสภาธุรกิจร่วมอาเซียน

นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศเปิดเผยผลการประชุมคณะกรรมการที่ปรึกษาร่วมด้านการอำนวยความสะดวกทางการค้าของอาเซียนหรือ ATF-JCC ครั้งที่ 15 ซึ่งไทยเป็นเจ้าภาพจัดขึ้นระหว่างวันที่10 - 11 กรกฎาคม ที่ผ่านมา โดยที่ประชุมได้หารือเรื่องสำคัญ ได้แก่ 1.การดำเนินงานตามแผนงานด้านการอำนวยความสะดวกทางการค้าของอาเซียน 2.การดำเนินงานตามแนวปฏิบัติเรื่องมาตรการที่มิใช่ภาษีของอาเซียน (NTMGuidelines)  3.การดำเนินงานเพื่อลดต้นทุนการทำธุรกรรมทางการค้าภายในอาเซียนลงร้อยละ10 ภายในปี 2563 4. การพัฒนาระบบคลังข้อมูลการค้าของอาเซียนและได้มีการหารือกับผู้แทนสภาธุรกิจร่วมในอาเซียน

ทั้งนี้ การดำเนินงานตามแผนงานด้านการอำนวยความสะดวกทางการค้าของอาเซียนประเทศสมาชิกทั้ง 10 ประเทศพร้อมดำเนินการตามแนวปฏิบัติเรื่องการใช้มาตรการที่มิใช่ภาษี (NTM) ได้แก่1.ใช้มาตรการเมื่อจำเป็นและมีเหตุผลอันควร 2.รับฟังความเห็นผู้มีส่วนได้เสียก่อนใช้มาตรการ3. มีการเผยแพร่รายละเอียดของมาตรการเพื่อความโปร่งใส  4. มีการประเมินผลของมาตรการที่ใช้ และ 5.ปรับปรุงทบทวนมาตรการเป็นระยะ นอกจากนี้ อาเซียนทั้ง 10 ประเทศยืนยันว่าได้จัดตั้งคณะกรรมการแห่งชาติด้านการอำนวยความสะดวกทางการค้าเพื่อกำกับดูแลการใช้มาตรการอำนวยความสะดวกทางการค้าของตนให้สอดคล้องกับกฎระเบียบขององค์การการค้าโลก(WTO)

สำหรับเป้าหมายลดต้นทุนการทำธุรกรรมทางการค้า(Trade Transaction Cost หรือ TTC) ลง10%ภายในปี 2563 ตามมติที่ประชุมรัฐมนตรีเศรษฐกิจอาเซียนเมื่อปี 2560ที่ประชุมมั่นใจว่าจะสามารถดำเนินการได้ตามเป้าหมายที่กำหนดซึ่งขณะนี้สถาบันวิจัยเศรษฐกิจเพื่ออาเซียนและเอเชียตะวันออก (ERIA) กำลังดำเนินการร่วมกับ10ประเทศสมาชิกอาเซียนในการคำนวณตัวเลขที่จะใช้เป็นมาตรวัดการลดต้นทุนการทำธุรกรรมทางการค้าได้แก่ ระยะเวลาที่ใช้ในการตรวจปล่อยสินค้า ณ ด่านศุลกากร  ระยะเวลาที่สินค้าพักรอที่ท่าเรือและระยะเวลาที่ใช้ในการออกใบอนุญาตซึ่งคาดว่าจะเสร็จสิ้นทันเวลาที่อาเซียนจะนำมาใช้