ผบ.ทบ. เล็งซื้อยานเกราะสไตรเกอร์เพิ่มอีก 50 คัน
"ผบ.ทบ." เล็งซื้อสไตรเกอร์ มือ 2 เพิ่ม 50 คัน ปีงบหน้า
เมื่อวันที่ 30 ส.ค.62 ที่กองบัญชาการกองทัพบก พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) กล่าวถึงการส่งมอบยานเกราะลำเลียงพลสไตรเกอร์ ( Stryker M1126) ว่า เมื่อวันที่ 29 ส.ค.ที่ผ่านมา สหรัฐฯ ได้ส่ง สไตรเกอร์ถึงประเทศไทยจำนวน 2 คัน โดย พลเรือเอก ฟิลลิป เอส เดวิดสัน ผู้บัญชาการกองกำลังสหรัฐภาคพื้นอินโดแปซิฟิค มารอรับด้วยที่ ท่าอากาศยานทหาร 2กองบิน 6 ดอนเมืองด้วย ตามสัญญาจะมีการส่งมอบให้ครบ 60 คันภายในสิ้นปีนี้ เป็นไปตามการจัดหาในปีงบประมาณ 2562 ที่ ทบ.ได้ซื้อจำนวน 37 คัน และ สหรัฐฯให้เปล่าอีก 23 คัน สำหรับปีงบประมาณหน้าคาดว่ามีงบประมาณพอที่จะจัดซื้อเพิ่มเติมอีก 50 คัน และสหรัฐฯอาจให้เปล่าอีก 30 คัน จะทำให้กองทัพบกไทยจัดตั้งกรมยานเกราะล้อยางสไตรเกอร์ ที่มียานเกราะบรรจุในอัตรา 100 กว่าคัน
พล.อ.อภิรัชต์ กล่าวว่า ยานเกราะรุ่นดังกล่าวมีหลายรุ่น เช่น M1126, M1127,M1129 โดย 60 คันแรก จะเป็น M1126 และ M1127 คละกัน มีการติดเครื่องยิงลูกระเบิดขนาด 120 ม.ม.โดยแต่ละรุ่นออกแบบมาใช้ในภารกิจต่างกัน ขึ้นอยู่กับอัตราการจัดของหน่วย โดยราคาแต่ละรุ่นไม่แตกต่างกันมากนัก ระหว่างนี้กำลังพล 30 นายของ ทบ.กำลังเดินทางไปฝึกที่สหรัฐฯ และสหรัฐฯเองก็ได้ส่งช่างซ่อมมาสนับสนุนเราด้วย เพราะถือว่ายังเป็นยุทโธปกรณ์ที่สหรัฐฯ ใช้อยู่ ซึ่งจะแตกต่างจากการซื้ออาวุธในโครงการความช่วยเหลือทางด้านทหารของสหรัฐฯ หรือ ระบบ เอฟเอ็มเอสที่ผ่านมา เช่น รถถังบางประเภทที่ไม่ได้ใช้งาน หรือโอนไปให้หน่วยNational Guard ใช้ ก็จะจำหน่ายให้ประเทศอื่นได้ แต่สำหรับสไตรเกอร์ แล้ว ทาง ผบ.กกล.สหรัฐฯ ภาคพื้นแปซิฟิค ยืนยันว่า เป็นยานเกราะที่สหรัฐฯใช้ประจำการอีกไม่ต่ำกว่า 10 ปีแน่นอน เพราะฉะนั้นเรื่องอะไหล่ สแปร์พาร์ท จะดูแลเป็นพิเศษ
ส่วนที่มีข้อมูลทางเว็บไซต์ว่าสไตร์เกอร์เป็นยานเกราะเก่ามือสองนั้น พล.อ.อภิรัชต์ กล่าวว่า หลายสื่อพยายามไปหาข้อมูล แต่อยากให้เข้าใจว่ายานเกราะที่ ทบ.ไทยซื้อเป็นยานเกราะ Refurbished เครื่องยนต์ถูก เซ็ตซีโร่ สีของตัวรถ เบาะของพลประจำรถมีการเปลี่ยนใหม่หมด เป็นแบบ Level A ไม่ใช่เป็นการซื้อตามสภาพ บางคันกลับจากภารกิจในอิรัก อัฟกานิสถาน แล้วนำมาเปลี่ยนชิ้นส่วนที่สำคัญทุกอย่างให้ ทั้งระบบเครื่องยนต์ ระบบขับเคลื่อน ยาง เขาใส่ใจเพราะเป็นรถที่ทบ.สหรัฐฯใช้ประจำการอยู่
ผบ.ทบ.กล่าวอีกว่า ถือได้ว่ากองทัพบกสหรัฐ โดยเฉพาะรัฐบาลสหรัฐฯ ออกมาแสดงท่าทีชัดเจนในการที่รัฐบาลที่มีการเลือกตั้ง มีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรี มีผู้นำสหรัฐฯ หลายระดับให้ความสนใจและให้การสนับสนุน ส่วนการสนับสนุนด้านการทหารเป็นไปตามโครงการเอฟเอ็มเอส และ ทุนการศึกษา IMET ให้กำลังพลในกองทัพ การกลับมาของสหรัฐ ครั้งนี้คงมีความช่วยเหลือต่างๆ อีกเยอะ โดย วันที่ 7-8 ก.ย.นี้จะมีการประชุมผู้บัญชาการทหารบกภาคพื้นแปซิฟิคซึ่งเป็นเจ้าภาพร่วมกันระหว่างกองทัพบกไทยและสหรัฐฯ จะมีผบ.ทบ.32ประเทศร่วมปรึกษาหารือ ทั้งนี้เป็นไปตามแผนงานอินโดแปซิฟิคของ ทบ.สหรัฐฯ
เมื่อถามว่า จะสะท้อนให้สาธารณชนให้รับทราบว่าทำไมต้องซื้ออาวุธเยอะขนาดนี้ทั้งที่ไทยไม่มีภัยคุกคามเรื่องการสู้รบแล้ว ผบ.ทบ. กล่าวว่า “เดี๋ยวพูดไปก็ไปเข้าเรื่องการเมืองอีก ไม่เป็นไร รอให้มาเยอะๆ ก่อน”