กยศ.แจงกรณีลูกหนี้ยื่นหนังสือเรียกร้องให้ยกเลิกดอกเบี้ย-เบี้ยปรับ
กยศ.แจงกรณีลูกหนี้ยื่นหนังสือเรียกร้องให้ยกเลิกดอกเบี้ย-เบี้ยปรับ
นายชัยณรงค์ กัจฉปานันท์ ผู้จัดการกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา เปิดเผยว่า "จากกรณีที่ตัวแทนกลุ่มลูกหนี้ กยศ. ที่ถูกบังคับคดี สืบทรัพย์ และยึดทรัพย์ ยื่นหนังสือร้องเรียนต่อผู้นำฝ่ายค้านเพื่อให้หาทางช่วยเหลือในการชำระหนี้ กยศ. โดยมีข้อเรียกร้องให้ยกเลิกดอกเบี้ย เบี้ยปรับ ค่าทนายความ และค่าธรรมเนียมต่างๆ ให้ชำระเงินคืนเฉพาะเงินต้นทั้งหมดภายในเวลา 15 ปี ยกเลิกการยึดทรัพย์ของผู้กู้และผู้ค้ำประกันทั้งหมด และกรณีผู้ที่ชำระเบี้ยปรับแล้วนั้น ขอให้นำยอดเงินส่วนนี้ไปหักลบจากเงินต้นแล้วให้ชำระคืนต่อไปตามศักยภาพของแต่ละคน รวมถึงขอขยายเวลาการชำระเงินคืน เพราะลูกหนี้ไม่ได้มีงานทำหรือมีเงินเดือนสูงทุกคน นั้น
กองทุนขอชี้แจงว่า ที่ผ่านมากองทุนได้มีมาตรการในการช่วยเหลือผู้กู้ยืมเพื่อแก้ไขปัญหาหนี้สิน กยศ. อย่างต่อเนื่อง ซึ่งมาตรการที่กองทุนได้ออกในช่วงที่ผ่านมา มีดังนี้ 1. ลดเบี้ยปรับในอัตราร้อยละ 80 สำหรับผู้กู้ยืมเงินทุกกลุ่มที่ค้างชำระหนี้และปิดบัญชีในครั้งเดียว ตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน 2562 29 กุมภาพันธ์ 2563 2. ลดเบี้ยปรับในอัตราร้อยละ 75 เฉพาะผู้กู้ยืมเงินกลุ่มก่อนฟ้องคดีที่ชำระหนี้ค้างทั้งหมดให้มีสถานะปกติ (ไม่ค้างชำระ) ตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน 2562 29 กุมภาพันธ์ 2563 3. พักชำระหนี้ 1 ปี สำหรับผู้กู้ยืมที่มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ เฉพาะกลุ่มผู้กู้ยืมก่อนฟ้องคดี กรณีผู้ที่มีงวดชำระเป็นรายปี จะพักชำระหนี้ในงวดปี 2563 และผู้กู้ยืมจะต้องกลับมาชำระหนี้ ในวันที่ 5 กรกฎาคม 2564 ส่วนกรณีผู้ที่มีงวดชำระเป็นรายเดือน จะพักชำระหนี้ 12 เดือน นับตั้งแต่เดือนถัดไปที่กองทุนอนุมัติ โดยในระหว่างพักชำระหนี้กองทุนจะไม่ถือว่าผู้กู้ยืมผิดนัดชำระหนี้ ตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน 2562 29 กุมภาพันธ์ 2563 4. ปรับลดอัตราเบี้ยปรับหรือค่าธรรมเนียมกรณีผิดนัดชำระเงินกู้ยืมคืน จากอัตราปัจจุบัน (ร้อยละ 12-18 ต่อปี) เหลืออัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี มีผลตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2562 เป็นต้นไป 5. ลดเบี้ยปรับในอัตราร้อยละ 75 ของเบี้ยปรับที่มีอยู่ ณ วันทำสัญญาประนีประนอมยอมความที่ศาล สำหรับผู้กู้ยืมที่ถูกดำเนินคดีในปี 2562 และให้โอกาสผ่อนชำระได้สูงสุดไม่เกิน 15 ปี 6. ลดหย่อนเงินต้น 3% ณ วันที่ชำระหนี้ปิดบัญชี สำหรับกลุ่มผู้กู้ยืมปกติที่ไม่เคยผิดนัดชำระหนี้ ซึ่งถือว่าเป็นผู้กู้ยืมชั้นดี หรือผู้กู้ยืมที่อยู่ในช่วงปลอดหนี้
สำหรับข้อเรียกร้องของกลุ่มลูกหนี้ กยศ.นั้น เป็นกลุ่มผู้กู้ที่ถูกฟ้องร้องดำเนินคดีและบังคับคดี ซึ่งลูกหนี้เหล่านี้มีคำพิพากษาแล้วและมีกำหนดอายุความบังคับคดี ทำให้มีข้อติดขัดในประเด็นข้อกฎหมายในการแก้ไขปัญหา อย่างไรก็ตาม กองทุนจะรับเรื่องนี้ไปพิจารณาและส่งเรื่องเพื่อหารือปัญหาข้อกฎหมายกับทางสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเพื่อขอคำวินิจฉัยในแนวทางการปฏิบัติเกี่ยวกับเรื่องนี้ต่อไป
อย่างไรก็ตาม เนื่องจากกองทุนเป็นหน่วยงานของรัฐ จึงจำเป็นต้องดำเนินการตามกฎหมาย แต่ในการดำเนินการบังคับตามกฎหมายนั้น กองทุนพยายามดำเนินการด้วยความระมัดระวังและผ่อนปรน เพื่อให้โอกาสแก่ผู้กู้เสมอมา ทั้งนี้ในรายที่ไม่ชำระหนี้ตามคำพิพากษา กองทุนจำเป็นต้องใช้สิทธิในการบังคับคดีภายในอายุความ แต่ก็ให้โอกาสแก่ลูกหนี้ในการผ่อนชำระต่อได้อีกระยะหนึ่ง โดยการชะลอการขายทอดตลาดไว้ ซึ่งที่ผ่านมากองทุนได้ทำความเข้าใจกับลูกหนี้ให้รับทราบและเข้าใจในสิ่งที่กองทุนดำเนินการ
ทั้งนี้ ปัจจุบันกองทุนอยู่ระหว่างดำเนินคดีปี 2562 หากผู้กู้รายใดถูกดำเนินคดีขออย่าได้กังวลใจ และให้ไปศาลตามที่นัดหมาย เพื่อขอทำสัญญาประนีประนอม โดยกองทุนจะให้สิทธิในการผ่อนชำระหนี้ต่อได้สูงสุดไม่เกิน 15 ปี ขึ้นกับจำนวนทุนทรัพย์ และยังได้ลดเบี้ยปรับอีก 75% แต่หากผู้กู้ยืมผิดนัดชำระงวดใดงวดหนึ่งในปีที่ 2 จะนำส่วนลดเบี้ยปรับกลับเข้ามาเป็นหนี้คำพิพากษา" ผู้จัดการกองทุนฯ กล่าวในที่สุด