"ธุรกิจยามค่ำคืน”ตัวช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจจีน
ขณะนี้จีนกำลังเผชิญหน้ากับภาวะชะลอตัวทางเศรษฐกิจ ทำให้ทั้งรัฐบาลกลางและรัฐบาลท้องถิ่นต่างออกมาตรการต่างๆเพื่อกระตุ้นการใช้จ่ายและการบริโภคภายในประเทศ หนึ่งในมาตรการที่ว่าคือ การสนับสนุนให้เกิดธุรกิจยามราตรีด้วยความหวังว่าผู้คนจะออกไปจับจ่ายใช้สอย
บรรดาเมืองใหญ่ๆอย่างนครเซี่ยงไฮ้ หรือเมืองหลวงอย่างกรุงปักกิ่ง ปีนี้ได้จัดทำแผนมากมายหลายแผนเพื่อกระตุ้นการบริโภค โดยเฉพาะการกระตุ้นผ่านทางแผนการพัฒนาที่เรียกว่า“เศรษฐกิจยามค่ำคืน”ซึ่งแผนนี้จะทำให้ร้านค้าและโรงพยาบาลบางแห่งขยายเวลาการจำหน่ายสินค้าหรือขยายเวลาการให้บริการให้ยาวนานขึ้น ขณะที่เมืองบางเมืองจัดแสดงแสงสีเสียงเพื่อให้ชาวเมืองออกมากินออกมาเที่ยวยามค่ำคืนกันมากขึ้น
เอลเลน เหว่ย หัวหน้าแผนกค้าปลีกของเจแอลแอล ไชนา กล่าวว่า ตามห้างสรรพสินค้าเริ่มมีผู้คนออกมาเดินจับจ่ายซื้อหาสิ่งของและรับประทานอาหารแต่การจับจ่ายซื้อสินค้าและบริการของผู้คนในยามค่ำคืนจะไม่เหมือนกับการใช้จ่ายในเวลาปกติ
ความเคลื่อนไหวดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจของจีน ซึ่งถือว่าเป็นเศรษฐกิจขนาดใหญ่สุดอันดับ2ของโลกชะลอตัวลง และข้อมูลทางเศรษฐกิจล่าสุดในสัปดาห์นี้ยิ่งตอกย้่ำภาวะการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีนมากขึ้น โดยเฉพาะการเติบโตของตัวเลขค้าปลีกที่น่าผิดผวัง 7.5% ในเดือนสิงหาคม ขณะที่ผลสำรวจจากรอยเตอร์ คาดหวังว่ายอดขายในธุรกิจค้าปลีกจะฟื้นตัวอยู่ที่ระดับ 7.9%
ห้างสรรพสินค้าเป็นกลุ่มค้าปลีกที่เร่งปรับตัวเพื่อกระตุ้นยอดขายและใช้แผนส่งเสริมการขายสินค้ายามค่ำคืนกับลูกค้า ไม่ใช่แค่ขยายเวลาจำหน่ายสินค้าให้ยาวนานขึ้นเท่านั้น
“แนวโน้มใหม่สำหรับห้างสรรพสินค้าในขณะนี้คือเปิดพื้นที่จำหน่ายอาหารและเครื่องดื่มกลางแจ้ง มีวงดนตรีบรรเลง มีร้านจำหน่ายเบียร์สด มีห้องสันทนาการ โรงภาพยนต์ และมีห้องโถงสำหรับการแข่งหรือเล่นอีสปอร์ต”เอลเลน จากเจแอลแอล ไชนา กล่าว
เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ฮอปสัน วัน หนึ่งในห้างสรรพสินค้าที่ได้รับความนิยมมากที่สุดของปักกิ่ง ประกาศเปิดร้านอาหารรอบดึกอย่างเป็นทางการ เพื่อเพิ่มทางเลือกในการบริโภคแก่ชาวจีน ถือเป็นการตอบสนองนโยบายของรัฐบาลปักกิ่งที่ต้องการกระตุ้นการบริโภคภายในประเทศ
นอกจากเปิดร้านอาหารรอบดึกแล้ว ฮอปสัน วัน ยังจัดการแสดงหลากหลายรูปแบบเพื่อดึงดูดคนให้เข้ามาใช้บริการ ทั้งมีการเต้นรำตามท้องถนน การเปิดเพลงโดยดีเจชื่อดังและกิจกรรมต่างๆที่เชิญชวนให้ผู้คนที่เข้ามาร่วมงานได้มีส่วนร่วม โดยพื้นที่ในส่วนของร้านอาหารยามดึกเปิดบริการจนถึงเที่ยงคืน และมีบริการส่งอาหารให้ถึงบ้านผ่านการสั่งทางออนไลน์ด้วยเช่นกัน
หนึ่งในบริษัทที่เป็นผู้เล่นหลักในธุรกิจนี้คือ เเหม่ยถวน เตี่ยนผิง ที่บอกว่า ช่วง6เดือนแรกของปีนี้ คำสั่งซื้อสินค้าในเซี่ยงไฮ้ช่วงเวลา 21.00น.และ 05.00 น.ขยายตัวขึ้น 127% จากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว โดยเวลา2ชั่วโมงตั้งแต่ 21.00น.-23.00น. มีการสั่งซื้ออาหารเกือบ 2 ใน3 ของยอดสั่งซื้ออาหารโดยรวม
เหม่ยถวน ระบุด้วยว่า เมืองอื่นๆเช่น หังโจว และเส้าซิง เป็นเมืองที่ผู้คนนิยมสั่งซื้อสินค้าและบริการเพิ่มขึ้นกว่า 40% ในช่วงครึ่งแรกของปีนี้
อย่างไรก็ตาม ค้าปลีกไม่ใช่ธุรกิจเดียวที่ขยายเวลาให้บริการ แม้แต่ธุรกิจด้านการดูแลสุขภาพก็ขยายเวลาให้บริการด้วยเช่นกัน เช่น โรงพยาบาลแห่งหนึ่งชานกรุงปักกิ่ง ที่ประกาศเมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมาว่า เปิดบริการคลีนิกตอนกลางคืนในช่วงเวลาทำการปกติตั้งแต่ 16.50 น.-20.30 น. เพื่อให้สอดรับกับการดำเนินนโยบายเศรษฐกิจยามค่ำคืนของรัฐบาลปักกิ่ง
ขณะที่การท่องเที่ยวเป็นอีกหนึ่งธุรกิจที่รัฐบาลจีนพยายามกระตุ้นรายได้ในส่วนนี้ โดยเฉพาะบางเมืองที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวเริ่มมองเห็นโอกาสจากเศรษฐกิจยามค่ำคืน ทุ่มงบประมาณหลายล้านหยวนเพื่อจัดแสงสี หรือประดับไฟ หรือดึงดูดนักท่องเที่ยวในรูปแบบต่างๆเพื่อให้นักท่องเที่ยวเข้ามาใช้จ่ายเงินเพื่อซื้อบริการและสินค้ายามค่ำคืน
“ภายใต้การสนับสนุนของการดำเนินนโยบายเศรษฐกิจยามค่ำคืน และการสนับสนุนเมืองอัจฉริยะ ได้มีการประดับตกแต่งสถานที่ต่างๆด้วยไฟระย้าสวยงามและบางเมืองจัดสรรงบประมาณในส่วนนี้จำนวนกว่า 100 ล้านหยวนด้วยซ้่ำ เพื่อให้พื้นที่ในเขตเมืองรองลงมามีความสวยงาม กระตุ้นให้เกิดการบริโภค ”บริษัทเกากง ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยด้านแอลอีดี มีฐานอยู่ที่ประเทศจีน กล่าว
เมืองอื่นๆของจีนที่ทุ่มงบประมาณจัดแสดงไฟเพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยวในช่วง 2-3ปีที่ผ่านมารวมถึงเมืองชิงเต่า ยันไต และหังโจว ส่วนในกรุงปักกิ่ง ที่พระราชวังต้องห้ามได้จัดแสดงไฟประดับอย่างสวยงามเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ เป็นส่วนหนึ่งของการเปิดให้ประชาชนเข้าชมในตอนกลางคืนเมื่อพระราชวังแห่งนี้กลายเป็นพิพิธภัณฑ์มานานเกือบ1ศตวรรษที่ผ่านมา
อย่างไรก็ตาม หากพิจารณาในภาพรวมแล้ว ความพยายามนี้ของจีนยังถือว่าเป็นแค่ระยะเริ่มต้น ยังต้องดำเนินไปอีกไกลและต้องทำอะไรอีกมากมายเพื่อผลักดันให้ชีวิตยามราตรีตามเมืองสำคัญๆหรือเมืองท่องเที่ยวได้รับการยอมรับในสายตาชาวโลกไม่แพ้เมืองใหญ่ๆหรือเมืองหลวงที่สวยงามของชาติตะวันตกอย่างมหานครนิวยอร์ก หรือ กรุงลอนดอน
ฉิน กัง รองเลขาธิการเซนเตอร์ ฟอร์ไชนาแอนด์ โกลบอลไลเซชัน ซึ่งเป็นกลุ่มคลังสมองในจีน ให้ความเห็นว่า ในเมืองบางเมืองทั่วโลก เศรษฐกิจยามค่ำคืน"เป็นส่วนที่มีความสำคัญมากที่สะท้อนถึงความสำคัญของเศรษฐกิจประเทศ และการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวยามราตรีมักถูกผลักดันจากการแสดงโชว์ของบรอดเวย์ หรือกิจกรรมทางวัฒธนธรรมต่างๆของเมืองเหล่านั้น แต่ในกรุงปักกิ่ง ยังมีกิจกรรมทางวัฒนธรรมไม่มากพอที่จะสร้างโอกาสเพื่อพัฒนาวัฒนธรรม ความบันเทิงและผลงานศิลปะในเมืองหลวงของจีน
ความท้าทายอีกอย่างที่ถือว่าเป็นประเด็นคือ ข้อจำกัดจากระบบขนส่วมวลชนในปักกิ่งที่ถือเป็นความท้าทายสำหรับการพัฒนาเศรษฐกิจยามค่ำคืนโดยตรง ซึ่งก็เหมือนความท้าทายที่เกิดขึ้นกับเมืองใหญ่ๆหรือเมืองหลวงของหลายประเทศในเอเชีย โดยระบบรถไฟใต้ดินของกรุงปักกิ่งปิดให้บริการในเวลาเที่ยงคืน
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- ชาวจีนยกเลิกทัวร์ฟาร์มสหรัฐฉุดดาวโจนส์ร่วง
-'สหรัฐ-จีน' ฟื้นเจรจาเทรดวอร์
-ลุ้นแผนกดดันจีนของ“โจชัว หว่อง”
-นักเดินทาง 'จีน' ขาลง ฉุดท่องเที่ยว 'อาเซียน'