ย้อนแต่งตั้งโยกย้ายยุค 'หมอสุขุม' กับคำถามที่ยังคาใจคนสธ.

จนถึงครั้งแต่งตั้งระดับ 10 ล่าสุดก็ยังมีการสร้างบรรทัดฐานอย่างที่ไม่มีมาก่อน และแว่วว่าการแต่งตั้งผู้ตรวจราชการสธ.อีก 3 ตำแหน่งก็อาจจะซ้ำรอยเดิม แม้ทั้ง 2 ครั้งมิใช่อำนาจการลงนามแต่งตั้งโยกย้ายโดยตรงของปลัดกระทรวงก็ตาม

ย้อนไปในครั้งแรก เป็นการแต่งตั้งโยกย้าย ผู้อำนวยการรพ. จนเกิดการแต่งดำประท้วงของบุคลากรรพ.ศูนย์ขอนแก่น จากการที่มีการโยกย้ายผอ.คนเดิมไปเป็นผอ.รพ.พระปกเกล้า จ.จันทบุรี และตั้ง นพ.เกรียงศักดิ์ วัชระนุกูลเกียรติ ผอ.รพ.ชุมแพ จ.ขอนแก่น และประธานชมรมแพทย์ชนบทเป็นผอ.รพ.ศูนย์ขอนแก่นแทน ท้ายที่สุดสู้แรงต้านไม่ไหว จนต้องกลับคำสั่ง ให้ผอ.รพ.ชุมแพไปเป็นผอ.รพ.พระปกเกล้าแทน

กระทั่ง แม้เปลี่ยนรมว.สาธารณสุขเป็น “อนุทิน ชาญวีรกูล” ที่ควบตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรีด้วย และมีการแต่งตั้งโยกย้าย ผู้บริหารระดับสูงก่อนสิ้นปีงบประมาณ 2562จำนวน 4 ตำแหน่ง คือ รองปลัดสธ. 2 ตำแหน่ง อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ(สบส.) และเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา(อย.) โดยในตำแหน่งนี้เป็นการตั้งนพ.ไพศาล ดั่นคุ้ม จากรองปลัด ไปเป็นเลขาฯอย.

ครั้งนี้ ตำแหน่งที่ดูเหมือนจะสร้างความ “กังขา”ให้กับคนสธ.อย่างมาก คือการแต่งตั้ง “นพ.ยงยศ ธรรมวุฒิ” จากผู้ทรงคุณวุฒิ (ด้านเวชกรรมป้องกัน) กลุ่มที่ปรึกษาระดับกระทรวง ที่เป็นสายวิชาการ ข้ามฟากมารับตำแหน่งรองปลัดฯที่เป็นสายบริหาร
แม้ “อนุทิน”จะออกโรงเคลียร์ให้ว่า “สิ่งที่ผมพยายามทำคือ ซี 10 คือ ซี10 ไม่ใช่ซี 10 ต้องเป็นผู้ตรวจราชการกระทรวงฯ หรือสาธารณสุขนิเทศก์เท่านั้นถึงจะโต อย่างผู้ทรงคุณวุฒิยังมาเป็นรองปลัดได้”

นับว่าเป็นการสร้าง “บรรทัดฐาน”ใหม่ในการแต่งตั้งผู้บริหารระดับ 10 ที่เปิดให้มีการข้ามจากสายวิชาการ มาเป็น สายบริหารได้ เพราะฉะนั้น ในอนาคตเมื่อเปลี่ยนปลัดกระทรวงคนใหม่ และมีการแต่งตั้งระดับ 10 ผู้ที่อยู่ในตำแหน่งผู้ทรงคุณวุฒิ ก็สามารถหยิบยกแบบอย่างครั้งนี้มากล่าวอ้างได้ว่า “มีคุณสมบัติ”ที่จะข้ามไปเป็นระดับ 10 สายบริหารได้เช่นกัน เพิ่มตัวเลือกและคู่แข่งในตำแหน่ง “ผู้บริหารระดับ10”มากขึ้น เว้นแต่ ระดับสายวิชาการในอนาคตจะแน่วแน่ในสายวิชาการ ไม่หักเหเลี้ยวมาสายบริหาร
        

ล่าสุดร้อนระอุขึ้นอีกครั้ง เมื่อวันที่ 16 ต.ค.2562 มีการประชุมคณะกรรมการคัดเลือกข้าราชการพลเรือนสามัญเพื่อเลื่อนและแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งประเภทอำนวยการ ระดับสูง และประเภทบริหาร ระดับสูง สังกัดกระทรวงสาธารณสุข(สธ.) ซึ่งมีนพ.ยงยศ และนพ.ไพศาลเป็นกรรมการด้วย

แว่วว่าผู้ผ่านการคัดเลือก จำนวน 3 คนตามตำแหน่งผู้ตรวจราชการสธ.ที่มีอยู่ ได้แก่ นพ.พงศ์เกษม ไข่มุกด์ รองอธิบดีกรมสุขภาพจิต ที่อยู่ในตำแหน่งนี้ 6 ปี พญ.อัมพร เบญจพลพิทักษ์ รองอธิบดีกรมอนามัยที่อยู่ในตำแหน่งนี้ 1 ปี และพญ.วิพรรณ สังคหะพงศ์ ผู้ช่วยปลัดสธ.ที่อยู่ในตำแหน่งนี้ 6 เดือน โดยจะมีการเสนอรายชื่อนี้ให้กับปลัดสธ.และเสนอต่อนายอนุทิน ก่อนนำเข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรี(ครม.)ในสัปดาห์หน้า

เกิดเสียงวิจารณ์แซดกระทรวงหมออีกรอบถึงความเหมาะสมหากมีการแต่งตั้งตามรายชื่อดังกล่าวจริง โดยเฉพาะอย่างส่วนของ “พญ.วิพรรณ” ที่เพิ่งเข้ารับตำแหน่งผู้ช่วยปลัดได้เพียง 6 เดือน ขณะที่มีคนอื่นที่คุณสมบัติครบและอยู่ในตำแหน่งเดิมมานานกว่าตั้งแต่ 1-6 ปี รวมราว 20 คน เสียงว่า “ข้ามหลายคน”ขึ้นไปทีเดียว โดยมีผู้ที่อยู่ในตำแหน่งเดิมนาน 6 ปี 2 คน , 5 ปี 1 คน ,4 ปี 1 คน ,3ปี 5 คน ,2ปี 7 คน ,1 ปี 6 คน และ 6 เดือน 5 คน

- นพ.สุขุม กาญจนพิมาย - 

เรื่องนี้ นพ.สุขุม กล่าวว่า เรื่องนี้ต้องดูที่คุณสมบัติมากกว่า ว่าครบหรือไม่ ทุกคนสามารถสมัครได้หากมีคุณสมบัติครบ เพราะมีเกณฑ์ของก.พ.อยู่แล้วไม่ได้เป็นการตั้งเองได้ตามอำเภอใจต้องมีคณะกรรมการพิจารณา

อย่างไรก็ตาม หาก “ปลัดกระทรวงฯ”ที่เปรียบเสมือนแม่ของข้าราชการทั้งกระทรวง ยังมีการขยับตำแหน่งให้เฉพาะคนใกล้ตัว ก็อาจทำให้ลูกคนอื่นๆเกิดอาการ “เสียขวัญกำลังใจ”ในการทำงานได้อย่างมาก ทั้งที่มุ่งเน้นการทำงานเป็นหลักแต่อยู่พื้นที่ห่างไกล ไม่ได้ “ใกล้ชิด” หรือ“เข้าหา” กลายเป็นลูก “นอกสายตา”

เมื่อเป็นเช่นนี้ ต้องรอดูว่า หากผลการคัดเลือกส่งถึงมือปลัดสธ.แล้วจะมีการ “เปลี่ยนตัว”หรือไม่ และเมื่อถึงมือ “อนุทิน” ที่เป็นประหนึ่ง “พ่อ”ของลูกจะตัดสินให้ความเป็นธรรม และมีการ “พลิกตัว” ก่อนนำเข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรี(ครม.)ในสัปดาห์หน้าหรือไม่
หรือจะ”เอาตาม”ปลัดเสนอ จนต้องเป็นคนเดินสายทำความเข้าใจกับข้าราชการในกระทรวงเองอีกครั้ง เหมือนดั่งกรณีการแต่งตั้ง “เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา”

ในเมื่อวันที่ตรวจเยี่ยมสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา(อย.) “อนุทิน”พูดอย่างชัดเจนว่าการแต่งตั้งโยกย้ายครั้งนั้น “ผมก็ทำตามที่ปลัดเสนอชื่อ”!!! 

เหล่านี้ล้วนเป็นสิ่งที่คนสธ.ยังคาใจ