บช.น. แถลงผลจับ 5 ผู้ต้องหา คดี 'ลัลลาเบล'

เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 18 ต.ค.62 ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผบช.น. พร้อมด้วย พล.ต.ต.นิตินันท์ เพชรบรม รอง ผบช.น. พล.ต.ต.สัมฤทธิ์ ตงเต๊า ผบก.น.8 พ.ต.อ.พยงค์ เอี่ยมสกุล ผกก.สน.บุคคโล แถลงผลการสืบสวนคดีการเสียชีวิตของน.ส.ธิติมา หรือเบล นรพันธ์พิพัฒน์ อายุ 25 ปี พริตตี้สาวชื่อในวงการ “ลัลลาเบล” ซึ่งถูกพบเป็นศพวางไว้บนโซฟาในล็อบบี้คาซ่าคอนโด รัชดา-ราชพฤกษ์ แขวงดาวคะนอง เขตธนบุรี กทม. เมื่อช่วงเช้ามืดวันที่ 17 ก.ย.62 หลังเกิดเหตุ พนักงานสอบสวน สน.บุคคโล ได้ออกหมายจับ นายรัชเดช หรือน้ำอุ่น วงศ์ทะบุตร อายุ 25 ปี อาชีพพริตตี้บอย ข้อหากักขังหน่วงเหนี่ยวเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ,พาผู้อื่นไปเพื่อการอนาจาร และกระทำอนาจารผู้อื่น ส่งคุมตัวฝากขังที่เรือนจำพิเศษธนบุรีไปแล้ว ต่อมา เมื่อวันที่ 17 ต.ค.ที่ผ่านมา ศาลอาญาธนบุรีออกหมายจับผู้ต้องหาเพิ่มเติมอีก 5 คน

ประกอบด้วย 1.นายชัยพล หรือคิว พรรณา อายุ 29 ปี 2.นายนที หรือตี๋ สถิตพงษ์สถาพร อายุ 33 ปี พี่ชายนายคิว 3.น.ส.พิกุลทอง หรือเฟิร์ส บุญตา อายุ 24 ปี แฟนสาวนายคิว 4.นายโกเมศ หรือปิงปอง ฤทธิ์นิธิฤกษ์ อายุ 35 ปี และ 5.นายกฤษฎา หรือโนบิตะ โลหิตดี อายุ 27 ปี ทั้งหมดถูกแจ้งข้อกล่าวว่าหา สนับสนุนนายรัชเดช หรือ น้ำอุ่น วงศ์ทะบุตร กระทำความผิดในฐานพาผู้อื่นเพื่อการอนาจารโดยใช้กำลังประทุษร้ายใช้อำนาจครอบงำจิตครองธรรมหรือใช้วิธีข่มขืนใจด้วยประการใดๆ , กระทำอนาจารแก่บุคคลอายุกว่า 15 ปีโดยใช้กำลังประทุษร้าย โดยบุคคลนั้นอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้ และหน่วงเหนี่ยวกักขังผู้อื่นหรือกระทำด้วยประการใดๆให้ผู้อื่นปราศจากเสรีภาพในร่างกายและเป็นเหตุให้ผู้ถูกหน่วงเหนี่ยวกักขังหรือต้องปราศจากเสรีภาพในร่างกายนั้นถึงแก่ความตาย

พล.ต.ท.ภัคพงศ์ กล่าวว่า ตลอดระยะเวลา 1 เดือน คณะพนักงานสอบสวนและชุดคลี่คลายคดี ได้ทำการสืบสวนสอบสวนและรวบรวมพยานหลักฐานมาอย่างต่อเนื่อง มีการสอบปากคำพยานบุคคลไปทั้งสิ้น 40 ปาก รวมทั้ง หลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ และยังมีการรวบรวมพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้องกับทางตำรวจภูธรภาค 1 จนกระทั่ง มีหลักฐานเชื่อได้ว่านายชยพลกับพวกรวม 5 คน ได้ร่วมกันสนับสนุนนายรัชเดชกระทำความผิด ทางพนักงานสอบสวนจึงยื่นพยานหลักฐานเสนอศาลอาญาธนบุรี เพื่อพิจารณาออกหมายจับ จากนั้น ศาลอาญาธนบุรีได้อนุมัติหมายจับนายชยพลกับพวกรวม 5 คน ความผิดหลักๆ คือ สนับสนุนให้ผู้อื่นกระทำความผิด ฐานพาผู้อื่นไปเพื่อการอนาจารฯ กระทำอนาจารแก่บุคคลอายุกว่า 15 ปีฯ และหน่วงเหนี่ยวกักขังถึงแก่ความตายฯ ซึ่งเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ได้มีการจับกุมและแจ้งข้อกล่าวหากับผู้ต้องหาทั้ง 5 คน เบื้องต้นทั้งหมดให้การปฏิเสธ ส่วนหลักฐานสำคัญที่นำไปสู่การออกหมายจับผู้ต้องหาเพิ่มเติมนั้น ไม่สามารถเปิดเผยต่อสื่อมวลชนได้ เนื่องจากเป็นเรื่องสำนวนคดี

ด้าน พล.ต.ต.สัมฤทธิ์ กล่าวว่า คดีนี้ ตำรวจไม่ได้นิ่งนอนใจ หรือละเลยต่อพยานหลักฐาน ไม่ว่าพยานหลักฐานชิ้นนั้นจะมาจากแหล่งใดก็ตาม รวมถึง มีการส่งหลักฐานให้ทาง บก.ปอท. ตรวจสอบ ซึ่งทาง บก.ปอท. ก็รายงานผลกลับมาบางส่วนแล้ว ส่วนการขออำนาจศาลออกหมายจับ ได้มีการนำผลจากกระทรวงยุติธรรมบางส่วนมาประกอบด้วย สำหรับเรื่องห้วงเวลาการเสียชีวิตของน.ส.ธิติมาขณะนี้ยังคงรอผลตรวจอย่างเป็นทางการจากแพทย์นิติเวชโรงพยาบาลตำรวจ และรอผลตรวจซ้ำจากกระทรวงยุติธรรม