ล็อกเป้าซักฟอก‘นายกฯ-3รมต.’ พท.ดีเดย์ชงญัตติหลัง12ธ.ค.
เพื่อไทย ล็อกเป้าซักฟอก “นายกฯ-3รมต.” ดีเดย์ชงญัตติหลัง 12 ธ.ค. ด้าน “ประวิตร” มั่นใจแจงงบมั่นคงได้ “ศักดิ์สยาม” เมินติดโผ ขณะที่ 20 ส.ส.อนาคตใหม่ยื่นหนังสือลาออกต่อกกต. เผย 100 คน เตรียมไขก๊อก “ธนาธร” ยันให้ความสำคัญ ยอมรับกระทบภาพลักษณ์พรรค
ความเคลื่อนไหวพรรคการเมืองต่อการเตรียมความพร้อมการเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลรัฐบาลในช่วงเดือนธ.ค.ล่าสุดมีรายงานว่านายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) ได้มีการเรียกประชุมคณะกรรมการบริหารพรรค เมื่อวันที่ 24 ต.ค. ที่ผ่านมา โดยที่ประชุมได้มีการลงลึกรายละเอียดการอภิปรายว่า อาจจะเกิดขึ้นในช่วงหลังวันที่ 12 ธ.ค.นี้ แต่ต้องอภิปรายให้แล้วเสร็จก่อนวันที่ 20 ธ.ค. โดยพรรคเพื่อไทย ได้มีการล็อกเป้าอภิปราย คือ 1. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ในประเด็นการบริหารเศรษฐกิจที่ล้มเหลว และการปล่อยปละละเลยในเรื่อง การทุจริตคอร์รัปชัน 2.นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เรื่องการบริหารงานเศรษฐกิจ
3.พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว. มหาดไทย ในประเด็นรถไฟฟ้า BTS ที่ กรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาการขยายสัญญาสัมปทานทางด่วนและรถไฟฟ้า (บีทีเอส) สภาผู้แทนราษฎร คัดค้าน ไม่ให้ต่อสัญญาสัมปทานออกไปอีก 40ปี และหากเรื่องดังกล่าวนี้ ครม.เห็นชอบ ให้ต่อสัญญาไปอีก 40 ปี ทางพรรคเพื่อไทย เชื่อว่าจะสามารถเอาผิดรัฐมนตรี ได้ทั้งครม.
และ 4.นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม ประเด็นการใช้อำนาจผิดกฎหมาย และการล้วงลูกในการแต่งตั้งโยกย้ายในระบบราชการและรัฐวิสาหกิจต่างๆ ในกระทรวงคมนาคม รวมถึงการแทรกแซงการบริหารในรัฐวิสาหกิจต่างๆ.
ด้านนายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด โฆษกพรรคเพื่อไทย(พท.) กล่าวว่า ตั้งแต่ครั้งที่รัฐบาลแถลงนโยบาย มาจนถึงการอภิปรายงบประมาณ เราพยายามทำหน้าที่อย่างดีที่สุดหลายครั้ง แต่รัฐบาลก็ไม่ได้ตอบคำถามใดๆชัดเจน ดังนั้นการใช้ช่องทางในการเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจน่าจะเป็นช่องทางที่เหมาะสมที่สุด
ทั้งนี้ เราไม่ได้ยึดกรอบระยะเวลาเป็นหลัก แต่เรายึดหลักฐานข้อมูลข้อเท็จจริงเป็นหลักตั้งแต่คุณสมบัตินายกฯ การถวายสัตย์ปฏิญาณไม่ครบ และการแถลงนโยบายโดยไม่บอกที่มาของรายได้ ฯลฯ หลังจากนี้จะหารือกับพรรคร่วมฝ่ายค้านเพื่อกำหนดกรอบเวลาต่อไป
“ประวิตร”ยันพร้อมแจงงบมั่นคง
พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่ากรณีที่นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รองประธานกรรมาธิการพิจารณาร่างงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2563 ระบุฝ่ายค้านจับตากับงบฝ่ายความมั่นคง กระทรวงกลาโหม และงบกลาง ซึ่งหากรัฐบาลชี้แจงไม่ชัดเจนก็จะไม่ยอมให้ผ่านนั้น ยืนยันว่ารัฐบาลพร้อมชี้แจงละเอียด
ด้านนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯและรมว.สาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวว่ากรณีที่พรรคเพื่อไทยเตรียมจะยื่นญัตติขอเปิดการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีโดยมีชื่อนายศักดิ์สยาม รวมอยู่ด้วยนั้น ตนได้พูดคุยกับนายศักดิ์สยามแล้ว ซึ่งนายศักดิ์สยามมีความมั่นใจ เมื่อเรามาดำรงตำแหน่งคณะรัฐมนตรีในระบอบประชาธิปไตยและระบอบรัฐสภา ต้องพร้อมถูกตรวจสอบพร้อมกับตอบข้อซักถามต่างๆให้ชัดเจน
ถ้าเราทำทุกอย่างด้วยความซื่อสัตย์สุจริต มีเจตนารมณ์และความตั้งใจที่ดี เราต้องพร้อมตอบข้อซักถามตลอดเวลา
“ศักดิ์สยาม”เมินถูกล็อกเป้า
เช่นเดียวกับนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยถึงกรณีที่ฝ่ายค้านยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลว่า ในส่วนของกระทรวงคมนาคมตอนนี้รอฟังข้อมูล เพราะยังไม่รู้ว่าฝ่ายค้านจะอภิปรายเรื่องใด ขณะนี้ยังเดินหน้าทำงานอย่างเต็มที่ ส่วนตัวพร้อมตอบทุกประเด็น ตอนนี้ก็ยังไม่เห็นเหมือนกันว่า มีเรื่องอะไรที่ตนเองทำเพื่อเอื้อประโยชน์กับใคร
“ก็ดี ผมจะได้ชี้แจงให้หมดว่าทำอะไรไปบ้างแล้วถ้ามองในแง่ดี ผมก็จะได้พูดเพราะที่ผ่านมาก็ไม่เคยได้พูดถึงภาพรวมเป็นฝั่งชี้แจงเสียมากกว่า หรือไม่แน่ ฝ่ายค้านอาจจะมองว่าผมทำงานมากเกินไป” นายศักดิ์สยาม กล่าว
20ผู้สมัครอนค.ยื่นใบลาออก
ขณะที่ความเคลื่อนไหวพรรคอนาคตใหม่ต่อกรณีการลาออกของอดีตผู้สมัคร วันเดียวกันที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) อดีตผู้สมัคร ประมาณ 20 คน ได้เดินทางมาเพื่อยื่นหนังสือลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรค
โดยนายนิพนธ์ แจ่มจำรัส อดีตผู้สมัครส.ส. จังหวัดชลบุรี เขต 2 กล่าวว่า วันนี้มีสมาชิกที่ยื่นใบลาออกแล้วประมาณ 100 คน โดยทุกคนที่เดินทางมาลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรค เพื่อต้องการแสดงให้เห็นว่ามีความคิดและอุดมการณ์แตกต่างกับพรรค การมาแสดงอุดมการณ์ในวันนี้ไม่ได้ต้องการทำร้ายพรรค ทุกคนยังมีความรักและความปรารถนาดีต่อนโยบายของพรรคอนาคตใหม่ ส่วนเส้นทางชีวิตหลังจากนี้ทุกคนจะไปกลับบ้านไปทำงานตามปกติ
ส่วนที่มีการมองว่าการลาออกมีสาเหตุมาจากไม่ได้รับตำแหน่งทางการเมืองยืนยันว่า ที่ผ่านมาไม่มีใครมาต่อรองตำแหน่งใด แต่ต้องให้ข่าวไปในทำนองนั้น เพราะต้องการจะสื่อให้เห็นว่าเรื่องของตำแหน่งเป็นเพียงส่วนหนึ่งที่จะทำให้เห็นว่าสัจจะของผู้นำเป็นส่วนสำคัญ
“ธนาธร”เมิน50ผู้สมัครไขก๊อก
ด้านนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ กล่าวว่า ประเด็นการลาออกเป็นสิทธิ์ของสมาชิกทุกคน พรรคมีสมาชิก 6 หมื่นคน ยืนยันที่จะเดินก้าวต่อไปข้างหน้าโดยให้ความสำคัญกับสมาชิก มีสิทธิ์ มีโอกาสได้แสดงความคิดเห็น เราไม่มีอะไรกังวลใจ ให้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์พวกเรา
ส่วนที่มีสมาชิกจำนวนมากที่ไม่พอใจการบริหารของคณะกรรมการบริหารพรรค ยืนยันว่า มีสมาชิกเพียงคน 50 คน ยอมรับว่าสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นธรรมดาที่จะกระทบกับภาพลักษณ์ของพรรค โดยเฉพาะในจังหวะที่พรรคอนาคตใหม่กำลังถูกผู้มีอำนาจตั้งใจทำร้ายและลดความน่าเชื่อถือของแกนนำพรรค
อนค.เรียกสอบปมโหวตสวนวันนี้
เช่นเดียวกับนายปิยบุตร แสงกนกกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อและเลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ กล่าวถึงความคืบหน้ากรณีการสอบวินัย ส.ส. โหวตสวนมติพรรคว่าจะเริ่มกระบวนการวันนี้ (29 ต.ค.) ซึ่งจะมีการเรียกส.ส.เข้าชี้แจง ก่อนจะสอบสวนกันตามกระบวนการ ตามข้อบังคับ ถ้าชี้แจงอะไรเสร็จเรียบร้อย เรื่องก็ยังไม่จบในชั้นคณะกรรมการพิจารณาอย่างเดียว จะส่งคณะกรรมการบริหารพรรคทำคำวินิจฉัยต่อไป เป็นกระบวนการภายในพรรค ส่วน น.ส.กวินนาถ ตาคีย์ ส.ส.ชลบุรี ยังไม่ได้ติดต่อไป น่าจะเร็ว ๆ นี้
ขณะที่กรณีของน.ส.ศรีนวล บุญลือ ส.ส.เชียงใหม่ ที่ก่อนหน้านี้ไม่พอใจที่มีการกล่าวหาว่าเป็นงูเห่า ยืนยันว่าไม่มีใครในพรรคไปกล่าวหาว่า น.ส.ศรีนวลเป็นงูเห่า เราก็มั่นใจว่า น.ส.ศรีนวล ไม่ได้รับผลประโยชน์อะไรทั้งสิ้น และยังเป็นบุคลากรที่สำคัญของพรรค
ชงกกต.สอบเงินบริจาค2กรณี
วันเดียวกันนายศรีสุวรรณ จรรยา นายกสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เข้ายื่นคำร้องต่อกกต.ขอให้ตรวจสอบกรณีการบริจาคเงินเข้าพรรคอนาคตใหม่ ของ น.ส.พรรณิการ์ วานิช โฆษกพรรคอนาคตใหม่และกรรมการบริหารพรรค จำนวน 1 ล้านบาท เมื่อเดือนพ.ย.2561 เนื่องจากเห็นว่าในการแสดงบัญชีรายการทรัพย์สินหนี้สินต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ของ น.ส.พรรณิการ์ มีทรัพย์สินไม่มาก มีเงินฝากเพียงหลักหมื่น
แต่กลับมีเงินไปบริจาคให้พรรคถึง 1 ล้านบาท มีข้อน่าสังเกตว่า เงินบริจาคดังกล่าวอาจไม่ใช่เงินส่วนตัว แต่เป็นเงินที่ได้มาจากผู้อื่น หรือได้มาโดยวิธีการอื่น จึงขอให้ กกต.ดำเนินการสืบสวน หรือส่งเรื่องไปยังคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ป.ป.ง.) เพื่อดำเนินการ
รวมทั้งขอให้ตรวจสอบการบริจาคเงินให้กับพรรคอนาคตใหม่ ของนายธนาธร ที่บริจาคเข้าพรรคช่วงเดือนต.ค. 2561 – ม.ค.2562 จำนวน 10 ล้านบาท และนางรวิพรรณ จึงรุ่งเรืองกิจ ภรรยาบริจาคจำนวน 7.2 ล้านบาท เนื่องจากเห็นว่าบุคคลทั้ง 2 เป็นที่รับรู้กันในทางกฎหมาย ว่าเป็นสามีภรรยากันโดยชอบด้วยกฎหมาย เปรียบเสมือนเป็นบุคคลคนเดียวกัน
นอกจากนี้กกต. ได้ออกประกาศรับรองผลการเลือกตั้งของนายเผดิมชัย สะสมทรัพย์ ส.ส.นครปฐม เขต 5 พร้อมแจ้งให้ผู้ที่ได้รับการเลือกตั้ง รับหนังสือรับรองการได้รับเลือกตั้งเป็น ส.ส.(ส.ส.6/5) นับตั้งแต่วันที่ 29 ต.ค.2562 เป็นต้นไป