Asianization | Think Marketing Weapon
เอเชีย ไม่เพียงเป็นฐานการผลิตให้กับบริษัทยักษ์ใหญ่ แต่ตอนนี้จากความร่วมมือทางการค้าต่างๆ ทำให้หลายประเทศเร่งปรับตัว มีการนำนวัตกรรมเทคโนโลยีเข้ามาใช้จนขึ้นเป็นแถวหน้าของโลก ก็สร้างความเปลี่ยนแปลงอย่างมาก และส่งไปถึงการเป็นผู้กำหนดทิศทางเศรษฐกิจโลก
ค้างไว้จากสัปดาห์ก่อนเรื่องการเติบโตของ Asia ที่ไม่ได้เป็นแค่การรองรับสินค้าบริการจากฝั่งตะวันตกที่ต่างพากันเข้ามาแสวงหาโอกาสจากการขยายตัวของ Asia แต่ถึงยุคที่ Asia จะผงาดขึ้นเป็นผู้กำหนดทิศทางเศรษฐกิจและการเปลี่ยนแปลงของโลกเอง
เมื่ออาทิตย์ก่อนชวนคิดถึงฝั่งอุปสงค์เรื่องการบริโภคและเทรนด์จากความนิยมและไลฟ์สไตล์ของคน Asia ที่จะมีผลกับแนวโน้มตลาดโลก ในสัปดาห์นี้มาต่อกันที่ฝั่งอุปทานกันดูบ้าง
Asia เป็นฐานการผลิตสำคัญของโลกมาหลายทศวรรษแล้ว โดยเฉพาะยุคอุตสาหกรรมที่มีการขยายฐานการผลิตมาใช้ประโยชน์จากอัตราค่าจ้างที่ถูกกว่าในฝั่ง Asia แต่เมื่อเวลาผ่านไปก็เกิดปรากฏการณ์ที่ค่าจ้างในหลายประเทศปรับตัวสูงขึ้นไปตามการเติบโตของเศรษฐกิจ ทำให้หลายบริษัทต้องพากันย้ายฐานการผลิต แต่เนื่องจาก Asia มีความหลากหลายในระดับการพัฒนาของประเทศจึงทำให้ยังมีทางเลือกการเคลื่อนตัวสู่ประเทศกำลังพัฒนาอื่นๆ
อย่างไรก็ดี มาถึงขณะนี้พบว่าสถานการณ์กำลังทวีความกดดันจากความไม่สามารถสร้างกำไรจากการคงต้นทุนการผลิตในราคาต่ำไว้ได้ ทำให้ถึงเวลาที่ธุรกิจต้องขยับตัวอีกครั้ง โดยการหานวัตกรรมเทคโนโลยีเข้ามาทดแทนการผลิตแบบใช้แรงงานเป็นหลัก จะว่าไปภาวะดังกล่าวไม่ใช่เรื่องใหม่เพราะเป็นสิ่งที่ประเทศพัฒนาแล้วในฝั่งตะวันตกเคยดำเนินไป แต่เมื่อถึงเวลาที่เกิดขึ้นในฝั่ง Asia สิ่งที่น่าสนใจคือการที่โลกสมัยนี้เทคโนโลยีรุดหน้าไปกว่าเดิมมากและเป็นยุคดิจิทัลที่สามารถสร้างการเปลี่ยนแปลงให้เกิดขึ้นได้แบบฉับพลัน (Disruption)
ประเทศใน Asia ที่เป็นผู้นำการพัฒนาและเทคโนโลยีดิจิตัลซึ่งกำลังเป็นที่ถูกจับตา ได้แก่ จีนและอินเดีย ที่เต็มไปด้วยบุคลากรที่มีความพร้อมและทักษะในด้านนี้ ปัจจุบันกำลังทยอยส่งนวัตกรรมใหม่ออกสู่ตลาดแบบต่อเนื่อง ยิ่งประกอบกับจำนวนประชากรที่ทั้งสองประเทศมีก็ยิ่งเพิ่มโอกาสที่จะมีการผลิตเทคโนโลยีเพิ่มแบบมหาศาลมาสู่ตลาด ที่พูดถึงกันเยอะและเป็นที่น่าสนใจเช่นเรื่อง AI (Artificial Intelligence) ซึ่งบริษัทยักษ์ใหญ่อย่าง Alibaba กำลังเร่งสปีดพัฒนาใช้ควบคู่กับการทำ Data Analytic เพื่อเข้าใจตลาดเชิงลึกและสามารถนำเสนอสินค้าบริการมาตอบโจทย์ตามความต้องการได้ถึงระดับบุคคล
ต่างจากภาพในอดีตที่เคยเป็นฐานผลิตสินค้าส่งออก เพราะเศรษฐกิจ Asia เวลานี้มีความเข้มแข็ง
ปัจจุบัน Alibaba ขยายตัวเข้าไปเป็นทางเลือกของผู้บริโภคทั้งโลกแน่นอนที่ส่งผลกระทบกับบริษัทใหญ่หลายแห่งจากฝั่งตะวันตกโดยเฉพาะความสามารถสร้างข้อได้เปรียบทางการแข่งขันจากการมีตัวเลือกสินค้าหลากหลายในราคาเข้าถึงได้
อย่างไรก็ดีความแตกต่างอีกส่วนที่สำคัญได้แก่การเติบโตของการบริโภคในภูมิภาค Asia เองที่กลายมาเป็นสัดส่วนสำคัญของการค้าสำหรับสินค้าบริการที่ผลิตใน Asia เรียกได้ว่าภาพอดีตที่เคยเป็นฐานผลิตสินค้ามุ่งส่งออกสู่ตลาดโลกกำลังเปลี่ยนไป ภาวะนี้นับเป็นการสะท้อนความเข้มแข็งของเศรษฐกิจ Asia ที่สามารถลดการพึ่งพิงปัจจัยแวดล้อมภายนอก
คาดการณ์ว่าแบนด์ดังของ Asia จะเติบโตและเป็นที่ยอมรับมากขึ้น โดยเฉพาะกับคนในภูมิภาคที่มาพร้อมกับความภูมิใจในความเป็น Asia ซึ่งจะส่งผลต่อตลาดโลกที่เคยถูกครอบครองโดยแบรนด์ตะวันตกมาเนิ่นนาน ตัวอย่างที่ชัดเจน เช่น การต่อสู้ระหว่าง Apple กับ Samsung หรือการเป็นผู้นำของบริษัทเกมที่ต้องยกให้ Asia เป็นเจ้าตลาด เรียกได้ว่าหมวด Digital Technology น่าจะมี Asia เป็นผู้นำ
ที่ต้องพิจารณาต่อคือลักษณะของบริษัทสัญชาติ Asia ที่จะส่งอิทธิพลมากขึ้นในเศรษฐกิจโลกลักษณะขององค์กร Asia มีความต่างจากฝั่งตะวันตกตรงที่ยังมีความเป็นเจ้าของโดยครอบครัวหรือเครือญาติอยู่สูง และพบการครอบครองอำนาจโดยบริษัทขนาดใหญ่ไม่กี่ราย บางประเทศยังมีการประสานเครือข่าย เช่น Chaebol ในเกาหลีใต้ เป็นต้น
ลักษณะดังกล่าวเมื่อไปเป็นผู้เล่นในตลาดโลกน่าจะส่งผลต่อทิศทางการเคลื่อนตัวและการตัดสินใจ นัยหนึ่งคาดว่าจะมีความรวดเร็วฉับไวได้มากกว่าองค์กรที่ต้องผ่านหลายขั้นตอนกับผู้ถือหุ้นหลากหลาย อีกนัยหนึ่งอาจมีผลต่อเรื่องการเปิดเผยข้อมูล อย่างไรก็ดีโลกยุคนี้ให้ความสำคัญกับเรื่องความโปร่งใสและความยั่งยืน ตลาดและสาธารณชนน่าจะเป็นพลังลุกขึ้นทวงถามตรวจสอบได้มากขึ้นเพื่อสร้างความเป็นธรรมทางการค้า
ลักษณะองค์กร Asia ที่กล่าวมายังมีผลสัมพันธ์กับประเด็นทางสังคมด้านความเหลื่อมล้ำที่ปัจจุบันยังเป็นปัญหาอยู่มากในสังคม Asia สถิติระบุความแตกต่างของมูลค่าทรัพย์สินส่วนใหญ่ที่ถูกครอบครองโดยคนไม่กี่เปอร์เซ็นต์ในประเทศ ประกอบกันมิติทางสังคมว่าด้วยเรื่องชนชั้นเข้ามาเสริม คาดว่าเมื่อ Asia มีการสยายปีกต่อน่าจะมีแรงกดดันจากประชาคมโลก รวมถึงการตื่นตัวของพลเมืองใน Asia ให้ต้องเกิดการเปลี่ยนแปลงสร้างความเท่าเทียมในสังคมให้มากขึ้น
โลกยุคนี้ต่างจากยุคล่าอาณานิคมที่ยุโรปเคยเข้าครอบครองด้วยกำลังทหาร หรือยุคที่สหรัฐฯใช้กำลังนโยบายและการเมืองชี้นำประเทศต่างๆ ถึงตอนนี้พลเมืองโลกเป็นพลังสำคัญและพร้อมเลือกสิ่งที่สร้างคุณค่าแท้จริง Asianization จึงน่าจะมาพร้อมกับการปรับตัวสร้างความร่วมมือมากกว่าการมุ่งครอบงำ