'หุ้นสายการบิน' ร่วงหนัก หลังขาดทุนกว่า 1.3 หมื่นล้าน

'หุ้นสายการบิน' ร่วงหนัก  หลังขาดทุนกว่า 1.3 หมื่นล้าน

“กลุ่มการบิน” ทรุดหนัก ผลดำเนินงานงวด9 เดือนปีนี้ ขาดทุนรวม 1.32 หมื่นล้านบาท ขณะที่ราคาหุ้นดิ่งต่อเนื่อง  “การบินไทย” ต่ำสุดในรอบ 10 ปี  ส่วนอีก3สายการบิน “แอร์เอเชีย-นกแอร์-บางกอกแอร์เวย์”  กอดคอนิวโลว์ ตั้งแต่เข้าตลาด

ความเคลื่อนไหวของราคาหุ้นกลุ่มสายการบิน  ได้แก่ การบินไทย (THAI) การบินกรุงเทพ (BA) เอเชีย เอวิเอชั่น (AAV) และสายการบินนกแอร์ (NOK) ล่าสุดยังคงปรับตัวลดลงต่อเนื่อง โดยราคาหุ้น THAI ช่วงปลายเดือน ต.ค.ที่ผ่านมา ลดลงไปทำจุดต่ำสุดในรอบ 10 ปีที่ 7.15 บาท หลังจากที่ราคาหุ้นเริ่มปรับตัวลงมาตั้งแต่ปลายปี 2559 ซึ่งเคยอยู่สูงถึง 32 บาท

ขณะที่หุ้นอีก 3 บริษัทที่เหลือในกลุ่มสายการบิน ราคาหุ้นต่างปรับตัวลดลงมาอยู่ในระดับต่ำที่สุดตั้งแต่เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ โดยหุ้น BA ลดลงมาแตะ 6.95 บาท จากจุดสูงสุดที่ 27.50 บาท หุ้น AAV ลดลงมาแตะ 2.12 บาท จากจุดสูงสุดที่ 7.90 บาท และหุ้น NOK ลดลงมาอยู่ที่ราว 2 บาท จากจุดสูงสุดที่ 12.30 บาท

ทั้งนี้ ราคาหุ้นที่ปรับตัวลดลง เป็นไปในทิศทางเดียวกันกับผลประกอบการของบริษัทในกลุ่มนี้ โดยในงวด9 เดือนปี 2562 ทั้ง 4 บริษัทขาดทุนรวมกัน  1.32 หมื่นล้านบาท ขาดทุนเพิ่มขึ้นกว่าเท่าตัวจากปีก่อนที่ขาดทุนรวม 5.04 พันล้านบาท สำหรับผลขาดทุนในปีนี้มาจาก THAI 1.11 หมื่นล้านบาท NOK 1.61 พันล้านบาท AAV 401 ล้านบาท และ BA 131 ล้านบาท

157383494738

ข้อมูลจากผู้บริหารการบินไทย (THAI) ระบุว่า ช่วงไตรมาส 3 ที่ผ่านมา อุตสาหกรรมการบินของโลกขยายตัวในอัตราที่ลดลงจากปีก่อน แต่มีอัตราส่วนการบรรทุกผู้โดยสารอยู่ในระดับสูงเป็นประวัติการณ์เฉลี่ย 84.4% จากข้อมูลของสมาคมขนส่งทางอากาศระหว่างประเทศ (IATA) ภาพรวม 9 เดือนปริมาณผู้โดยสารเพิ่มขึ้น 3.9% และมีอัตราบรรทุกผู้โดยสารเฉลี่ย 82.9% แต่การขนส่งสินค้าลดลง 3.5%

ส่วนอุตสาหกรรมการบินของไทยเติบโตชะลอตัวเล็กน้อยตามภาวะเศรษฐกิจ ประกอบกับค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้น ส่งผลให้ค่าใช้จ่ายในการมาเที่ยวประเทศไทยสูงขึ้น ทำให้นักท่องเที่ยวส่วนหนึ่งเปลี่ยนจุดหมายการเดินทาง อุปทานการให้บริการการบินของสายการบินขยายตัวทำให้เกิดการแข่งขันด้านราคาที่รุนแรงยิ่งขึ้น ทั้งนี้ ราคาน้ำมันดิบช่วงไตรมาส 3 เฉลี่ยอยู่ที่ 61.2 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ต่ำกว่าปีก่อน 17.5%  ขณะที่สถิตินักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้าประเทศไทยช่วงเดือน ม.ค. - ก.ย. 2562 มีจำนวน 29.4 ล้านคน เพิ่มขึ้น 4% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ส่วนไตรมาส 3 ที่ผ่านมา มีนักท่องเที่ยว 9.7 ล้านคน เติบโต 7%

บล.โนมูระ พัฒนสิน เปิดเผยว่า มีมุมมองเป็นลบต่อผลประกอบการไตรมาส 3 ปี 2562 ของ THAI แม้ผลขาดทุนสุทธิจะแย่น้อยกว่าคาด แต่เป็นเพราะมีกำไรพิเศษที่ไม่ได้รวมในประมาณการกว่า 2 พันล้านบาทเข้ามาช่วย โดยรวมมีผลขาดทุนสุทธิ 4.68 พันล้านบาท ลดลงจากปีก่อนที่ขาดทุนสุทธิ 3.7 พันล้านบาท การลดลงของรายได้ 10% กดดันจากราคาตั๋วโดยสารเฉลี่ยที่ลดลง 8% จากปีก่อน แต่อัตราบรรทุกผู้โดยสารเพิ่มขึ้น และบริหารต้นทนและค่าใช้จ่ายได้ดีขึ้น

ทั้งนี้ คาดไตรมาส 4 ปีนี้ จะยังคงมีผลขาดทุนสุทธิ 2,612 ล้านบาท โดยปรับประมาณการผลขาดทุนสุทธิรวมทั้งปีแย่ลง เป็นขาดทุน 13,732 ล้านบาท จากเดิมที่คาด 12,908 ล้านบาท เพราะราคาตั๋วหดตัวมากกว่าคาด และปรับลดราคาเป้าหมายลงเป็น 4 บาท จากเดิม 4.10 บาท คงคำแนะนำขาย

บล.เคจีไอ เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานจากธุรกิจหลักของ AAV ในช่วงไตรมาส 3 ปี 2562 ดีขึ้นทั้งจากปีก่อนและจากไตรมาสก่อน แม้ว่าจะยังมีผลขาดทุนปกติ 337 ล้านบาท ลดลงจากปีก่อนที่ขาดทุน 462 ล้านบาท ปัจจัยบวกที่สำคัญได้แก่ ค่าตั๋วเฉลี่ยต่อผู้โดยสารที่เพิ่มขึ้น 3% เป็น 1,457 บาท จากการปรับขึ้นค่าตั๋วเฉลี่ยของเที่ยวบินในประเทศขึ้นประมาณ 5% ในขณะที่ค่าตั๋วเฉลี่ยของเที่ยวบินระหว่างประเทศลดลง 4%   ในไตรมาส 3 ยังถูกกระทบจากผลขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยน 80 ล้านบาท ทั้งนี้จำนวนผู้โดยสารอยู่ที่ 5.28 ล้านคน เพิ่มขึ้น 3% และจำนวนเที่ยวบินอยู่ที่ 36,253 เที่ยว เพิ่มขึ้น 3% ขณะที่อัตราการบรรทุกผู้โดยสาร ทรงตัวที่ 81%

แนวโน้มไตรมาส 4 นี้ คาดว่าน่าจะดีขึ้นทั้งจากปีก่อนและจากไตรมาส 3 เนื่องจากผลประกอบการปีก่อนติดลบผิดปกติ และเป็นฤดูท่องเที่ยวที่แข็งแกร่งขึ้น นอกจากนี้ บริษัทจะเผชิญแรงกดดันน้อยลงจากต้นทุนน้ำมันมีเสถียรภาพมากขึ้น และไตรมาส 4 เป็นฤดูกาลท่องเที่ยว รวมทั้งสายการบินต่างๆ อาจจะลดแผนขยายฝูงบิน โดยรวมปรับลดประมาณการปี 2562 ลงเป็นขาดทุนสุทธิ 60 ล้านบาท จากเดิมคาดมีกำไรสุทธิ 23 ล้านบาท และปี 2563 คาดมีกำไรสุทธิ 101 ล้านบาท