จับตาเศรษฐกิจอังกฤษหลังความเชื่อมั่นผู้บริโภคดิ่ง

พรรคแรงงานระบุว่า กลุ่มผู้ให้คำปรึกษาจะเป็นส่วนหนึ่งของหน่วยงานที่จะช่วยให้บริษัทเข้าถึงคำแนะนำและการเสนอราคาสำหรับสัญญาโครงการต่างๆของรัฐบาลได้ พร้อมทั้งเรียกเก็บภาษาตามมูลค่าที่ดินแทนภาษีอสังหาริมทรัพย์ที่ใช้เพื่อประกอบธุรกิจแบบเดิม นอกจากนี้ นางรีเบคกา ลอง-ไบเลย์ รัฐมนตรีธุรกิจเงาของพรรคแรงงานได้กล่าวว่า บริษัทขนาดเล็กกำลังเผชิญปัญหามากมายจากการที่องค์กรทั่วโลกเลี่ยงภาษีและไม่ชำระเงินตรงเวลา

ขณะเดียวกัน พรรคอนุรักษ์นิยมได้ให้คำมั่นว่า จะลดภาษีอสังหาริมทรัพย์ที่ใช้เพื่อประกอบธุรกิจและให้ส่วนลดการจ่ายภาษีกับบริษัทขนาดเล็ก นอกจากนี้ ยังโจมตีพรรคแรงงานว่า นโยบายดังกล่าวจะทำให้ภาษีสูงขึ้น และเกิดความไม่แน่นอนเพิ่มขึ้น

การเคลื่อนไหวของทั้ง2พรรคการเมืองหลักในอังกฤษ มีขึ้นหลังจากจีเอฟเค บริษัทวิจัยตลาดเปิดเผยผลสำรวจล่าสุดว่า ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคอังกฤษในเดือนพ.ย.อยู่ที่ระดับ -14 ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ปี 2556 และเป็นไปตามความคาดหมายของบรรดานักเศรษฐศาสตร์ เนื่องจากความไม่แน่นอนเกี่ยวกับการเลือกตั้งในวันที่ 12 ธ.ค. และการแยกตัวของอังกฤษออกจากสหภาพยุโรป(เบร็กซิท) ส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของภาคครัวเรือน

อย่างไรก็ตาม การใช้จ่ายของผู้บริโภคได้ช่วยหนุนเศรษฐกิจในช่วงเวลาที่หลายบริษัทปรับลดการลงทุนลง เนื่องจากขาดความชัดเจนเกี่ยวกับเบร็กซิท โดยในช่วงต้นสัปดาห์นี้ สมาพันธ์อุตสาหกรรมอังกฤษ (ซีบีไอ) เปิดเผยดัชนียอดค้าปลีกเดือนพ.ย.พุ่งขึ้นสู่ระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนเม.ย.

ผลสำรวจความเชื่อมั่นดังกล่าว ดูเหมือนสอดคล้องกับดัชนีบ่งชี้อื่นๆ ซึ่งแสดงถึงภาวะที่ซบเซาของเศรษฐกิจอังกฤษ แม้ว่าผลสำรวจของจีเอฟเคฉบับที่มีการปรับตามฤดูกาลซึ่งคณะกรรมาธิการยุโรป (อีซี) เผยแพร่ แสดงถึงความเชื่อมั่นที่ปรับตัวขึ้นเล็กน้อยก็ตาม

ส่วนเงินปอนด์แข็งค่าขึ้นต่อเนื่อง จากคาดกระแสคาดการณ์ที่ว่าพรรคอนุรักษ์นิยมจะคว้าชัยชนะในการเลือกตั้งอังกฤษวันที่ 12 ธ.ค.นี้ โดยเงินปอนด์ ปรับตัวขึ้น 0.2% สู่ระดับ 1.3133 ดอลลาร์ ในการซื้อขายเมื่อวันพฤหัสบดี(5ธ.ค.) ซึ่งยูบีเอส ระบุว่า เงินปอนด์อาจแข็งค่าขึ้นไปแตะที่ 1.35 ดอลลาร์ หากพรรคอนุรักษ์นิยมชนะ และรัฐสภาให้การรับรองข้อตกลงเบร็กซิท

ช่วงต้นสัปดาห์นี้ มีการเปิดเผยผลการสำรวจของกันตาร์ ที่ระบุว่า กระแสความนิยมต่อพรรคอนุรักษ์นิยมของนายบอริส จอห์นสัน นายกรัฐมนตรีอังกฤษ ยังคงนำหน้าพรรคแรงงาน ก่อนการเลือกตั้งทั่วไปของอังกฤษจะมีขึ้นในวันที่ 12 ธ.ค. โดยกระแสความนิยมของพรรคอนุรักษ์นิยมเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 44% ขณะที่พรรคแรงงานทรงตัวที่ระดับ 32%

การสำรวจดังกล่าวจัดทำขึ้นในวันที่ 28 พ.ย.-2 ธ.ค. โดยมีกลุ่มตัวอย่าง 1,096 ราย

การเลือกตั้งในสัปดาห์หน้าจะเป็นการเลือกตั้งทั่วไปครั้งที่ 3 ของอังกฤษในรอบ 5 ปี หลังจากที่เคยมีการเลือกตั้งในปี 2558 และ 2560 และการเลือกตั้งครั้งนี้จะเป็นครั้งแรกที่อังกฤษจัดขึ้นในเดือนธ.ค.นับตั้งแต่ปี 2466

ที่ผ่านมา มูดี้ส์ อินเวสเตอร์ เซอร์วิส สถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือของสหรัฐ ประกาศปรับลดแนวโน้มอันดับความน่าเชื่อถือภาคธนาคารของสหราชอาณาจักรสู่ระดับ “เชิงลบ” จาก “มีเสถียรภาพ” ขณะที่เตือนว่าการขยายตัวของเศรษฐกิจสหราชอาณาจักรจะยังคงอ่อนแอ โดยได้รับผลกระทบจากความไม่แน่นอนของเบร็กซิทในช่วง 2 ปีข้างหน้า

“ภาวะการดำเนินงานที่เลวร้ายลงจะกระทบคุณภาพสินทรัพย์ และความสามารถในการทำกำไรของธนาคาร ขณะที่อัตราดอกเบี้ยในระดับต่ำ และการแข่งขันกันที่เพิ่มขึ้นในการปล่อยเงินกู้เพื่อที่อยู่อาศัยจะลดมาร์จิ้นกำไรของธนาคารส่วนใหญ่ในสหราชอาณาจักร” รายงานของมูดี้ส์ระบุ

มูดี้ส์ ยังระบุว่า เศรษฐกิจสหราชอาณาจักรกำลังอ่อนแอลง ทำให้มีความอ่อนไหวต่อภาวะตื่นตระหนกในตลาด ขณะที่ความไม่แน่นอนเกี่ยวกับเบร็กซิทลดแนวโน้มการขยายตัวของประเทศ พร้อมทั้งคาดการณ์ว่า เศรษฐกิจสหราชอาณาจักรจะชะลอตัวสู่ระดับ 1.2% ในปีนี้ และแตะ 1% ในปี 2563 และ 2564 ขณะที่กระบวนการเบร็กซิท ส่งผลกระทบต่อปริมาณการค้าและการลงทุน