‘ทรัมป์’ ท้า ‘พรรคเดโมแครต’ รีบลงมติถอดถอน ปธน.สหรัฐ
โดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศท้าทายพรรคเดโมแครต รีบลงมติถอดถอนออกจากตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐ พร้อมประกาศกร้าว พรรครีพับลิกันยังมีเอกภาพ ในที่สุดจะเป็นผู้ชนะ
สำนักข่าววีโอเอของสหรัฐ รายงานว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ทวีตข้อความประกาศท้าให้พรรคเดโมแครตรีบลงมติเรื่องการถอดถอนประธานาธิบดี ในสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ โดยเรียกร้องให้วุฒิสภาสหรัฐ ซึ่งครอบครองพรรครีพับลิกันเป็นผู้ตัดสินชี้ขาดว่า จะถอดถอนหรือไม่
“ถ้าหากต้องการจะถอดถอนตน ให้รีบทำเสียตอนนี้ เพื่อที่จะได้มีการตัดสินอย่างยุติธรรมในวุฒิสภา และประเทศจะได้กลับสู่ภาวะปกติอีกครั้ง” ปธน.ทรัมป์ทวีต
ทั้งนี้ ผู้นำสหรัฐได้ทวีตข้อความหลังจากในวานนี้ (6 ธ.ค.) นายแนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ สั่งให้บรรดาผู้นำพรรคเดโมแครตเดินหน้าจัดทำร่างมาตราถอดถอนประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์
โดยในแถลงการณ์ของ ส.ส.เพโลซี ระบุชัดเจนว่า “ประธานาธิบดีทรัมป์ใช้อำนาจหน้าที่ในทางที่ผิด” พร้อมระบุว่า ทรัมป์ ไม่ปฏิบัติตามบรรทัดฐานความประพฤติของประธานาธิบดีสหรัฐที่ควรจะเป็น และละเมิดคำปฏิญาณตนที่กล่าวไว้ตอนรับตำแหน่ง ด้วยการขอให้ยูเครนสอบสวนหนึ่งในคู่แข่งทางการเมืองของตนคือ อดีตรองประธานาธิบดีโจ ไบเด้น เพื่อให้ตนเองได้เปรียบในการลงเลือกตั้งตำแหน่งประธานาธิบดีสมัยที่สอง
ส.ส.เพโลซี ยืนยันว่า ความจริงที่ไม่สามารถโต้เถียงได้ คือประธานาธิบดีทรัมป์ใช้อำนาจหน้าที่ในทางที่ผิดเพื่อประโยชน์ทางการเมืองแลกกับความมั่นคงแห่งชาติ
นอกจากนี้ ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐยังขอให้ ส.ส.เจอร์โรลด์ แนดเลอร์ ประธานคณะกรรมาธิการด้านยุติธรรมของสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ และสมาชิกพรรคเดโมแครตคนอื่นๆ เป็นผู้ร่างมาตราถอดถอนประธานาธิบดีทรัมป์
ทั้งนี้ คาดว่าสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ จะลงมติว่าจะถอดถอนประธานาธิบดีทรัมป์หรือไม่ ก่อนวันคริสต์มาสที่จะถึงนี้ ซึ่งหากผ่านความเห็นชอบของสภาล่างก็จะส่งต่อให้วุฒิสภาพิจารณาในเดือนมกราคมต่อไป
อย่างไรก็ตาม คาดว่าวุฒิสภาสหรัฐ จะไม่ผ่านความเห็นชอบให้ถอดถอนประธานาธิบดีทรัมป์ เนื่องจากต้องใช้เสียงถึง 2 ใน 3 ของวุฒิสภาสหรัฐ ซึ่งเวลานี้ครอบครองโดยพรรครีพับลิกัน จึงจะสามารถถอดถอนผู้นำสหรัฐได้
ส่วนข้อความทวีตของทรัมป์ก็เพื่อตอบโต้คำแถลงของ ส.ส.เพโลซีว่า พรรคเดโมแครต ซึ่งมีแนวคิดซ้ายสุดโต่งกำลังจะพยายามถอดถอนตนทั้งที่ตนไม่ได้ทำอะไรผิด
ปธน.ทรัมป์ กล่าวด้วยว่า การที่สภาล่างพยายามเดินหน้าให้มีการถอดถอนตน หมายความว่าในอนาคตจะมีการใช้การถอดถอนเป็นเครื่องมือทางการเมืองเพื่อโจมตีประธานาธิบดีสหรัฐคนต่อ ๆ ไป ซึ่งเป็นสิ่งที่ผู้ก่อตั้งอเมริกาไม่ต้องการให้เกิดขึ้น แต่สิ่งที่ดีก็คือ “พรรครีพับลิกันยังคงมีเอกภาพ แข็งแกร่ง และในที่สุดเราจะเป็นผู้ชนะ”
หากย้อนกลับไปดูในประวัติศาสตร์การเมืองอเมริกันนั้น มีประธานาธิบดีถูกตั้งข้อหาเพื่อถอดถอนในสภาล่างมาแล้วสองครั้ง คือ อดีตประธานาธิบดีแอนดรูว์ จอห์นสัน ในช่วงกลางศตวรรษที่ 19 และอดีตประธานาธิบดีบิล คลินตัน ซึ่งทั้งคู่ถูกสภาล่างที่ทำหน้าที่คล้ายอัยการตั้งข้อหาเพื่อถอดถอน แต่วุฒิสภาซึ่งทำหน้าที่คล้ายศาล ลงมติไม่เห็นด้วยกับข้อกล่าวหา
ส่วนผู้นำสหรัฐอีกคนหนึ่ง ซึ่งถูกกระบวนการไต่สวนเพื่อถอดถอนเช่นกัน คืออดีตประธานาธิบดีริชาร์ด นิกสัน แต่ได้ชิงลาออกจากตำแหน่ง ก่อนที่กระบวนการดังกล่าวจะเสร็จสมบูรณ์