ปัญหา อุปสรรค และโอกาส
การทำงานในองค์กรทุกประเภทล้วนต้องเจอกับปัญหาและอุปสรรคซึ่งถือเป็นเรื่องปกติธรรมดาที่เราจำเป็นต้องทำความเข้าใจและกล้าเผชิญหน้ากับมัน แม้จะก่อให้เกิดความเครียดและความกดดันบ้าง
แต่เมื่อไหร่ก็ตามที่เราสามารถจัดการปัญหาเหล่านั้นได้ ผลที่ได้รับคือความสำเร็จและความภาคภูมิใจที่เราเอาชนะอุปสรรคทั้งหลายและมีภูมิความรู้ที่สามารถนำไปใช้กับปัญหาอื่นๆ ได้อีกในอนาคต
ปัญหาและอุปสรรคจึงเป็นเหมือนส่วนหนึ่งของการเรียนรู้ในชีวิตของเรา ซึ่งมีทั้งปัญหาเล็กและปัญหาใหญ่ และทุกปัญหาล้วนทำให้เราแข็งแกร่งขึ้น ยิ่งถ้าเราศึกษาความสำเร็จของผู้นำธุรกิจแต่ละคนก็ล้วนเติบโตมาท่ามกลางปัญหาต่าง ๆ มากมายแต่เขามุ่งมั่นที่จะเอาชนะมันอย่างถึงที่สุด
สตีฟ จ็อบส์ผู้ล่วงลับเป็นตัวอย่างที่น่าจะเห็นได้ชัดเจนมากที่สุด จากผู้ก่อตั้ง Apple และถูกคณะกรรมการบริษัทปลดกลางอากาศ เขากลับเดินหน้าต่อด้วยธุรกิจแอนิเมชันคือ Pixar จนสำเร็จมหาศาลและก่อตั้งคอมพิวเตอร์ Next เป็นต้นแบบของ Apple Macintosh ที่เขากลับมาเป็น CEO อีกครั้งจนก่อให้เกิดนวัตกรรมเปลี่ยนโลกมากมายทั้ง iPhone และ iPad ที่ขายดีไปทั่วโลก
เช่นเดียวกับยักษ์ใหญ่อย่างไมโครซอฟท์ที่หลังการเติบโตภายใต้การบริหารของบิล เกตส์ที่มีเพียงระบบปฏิบัติการเป็นสินค้าหลัก และเริ่มเข้าสู่ภาวะซบเซาเพราะการแข่งขันที่รุนแรงมากขึ้นของอุตสาหกรรมไอที แต่ไมโครซอฟท์ก็ปรับตัวมาอย่างต่อเนื่องตอบรับกับกระแสการเปลี่ยนแปลงอย่างทันท่วงที
ไม่ว่าจะเป็นด้านคลาวด์, บิ๊กดาต้า, AI จนในรอบ 10 ปีที่ผ่านมาหุ้นไมโครซอฟท์ปรับตัวจากระดับ 40 ดอลลาร์ทะลุ 400 กว่าดอลลาร์หรือมากกว่า 10 เท่าในปัจจุบัน
การเปลี่ยนแปลงเหล่านี้จึงล้วนเป็นวัฏจักรทางธุรกิจที่มีขึ้นมีลง เราเห็นการปรับตัวและการสร้างนวัตกรรมของ Apple และ Microsoft ที่เปลี่ยนวิถีชีวิตของผู้บริโภค การปรับองค์กรอย่างต่อเนื่องและคงเส้นคงวา ไปจนถึงการสร้างระบบนิเวศทางธุรกิจเป็นของตัวเองจนประสบความสำเร็จ
แต่ในทางกลับกันเราก็เห็นบริษัทอีกมากมายที่ไม่สามารถฝ่าคลื่นลมแห่งการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ได้สำเร็จ จนต้องล้มพับปิดกิจการและล้มหายตายจากไป ทั้งที่ๆ หลายๆ บริษัท หลายๆ แบรนด์เคยเป็นผู้นำอันดับหนึ่งที่เราคุ้นเคยมานานหลายปีแล้วก็ตาม
ความผันผวนของธุรกิจในยุคปัจจุบันยังถูกทำให้ซับซ้อนมากขึ้นไปอีกด้วยปมปัญหาภูมิรัฐศาสตร์ ที่ทำให้บริษัทหลายแห่งในจีนถึงกับต้องเปลี่ยนกลยุทธ์ในการทำธุรกิจไปจนถึงต้องปิดตัวลง เพราะเดินหน้าต่อไปไม่ได้เมื่อถูกยักษ์ใหญ่อย่างสหรัฐอเมริกาสั่งแบน
หัวเว่ย ก็เป็นหนึ่งในบริษัทเหล่านั้นแต่ต่างกันที่ยิ่งถูกบีบ ยิ่งถูกกดดัน Huawei ก็ยิ่งเติบโตและหาทางพึ่งพาตัวเองให้ได้เร็วที่สุด จนทุกวันนี้มีรายได้กว่า 3.5 ล้านล้านบาทแม้จะถูกปิดตายไม่สามารถสร้างยอดขายในสหรัฐฯ ได้เลยก็ตาม
ทุกปัญหาจึงเป็นความท้าทายโดยเฉพาะอย่างยิ่งในบ้านเราทุกวันนี้ที่มีวิกฤติเศรษฐกิจซ่อนตัวอยู่
ด้วยภาวะเช่นนี้หลายบริษัทจึงประสบภาวะยากลำบากในการทำยอดขายให้ดีเหมือนที่เคยเป็นมา ยิ่งจะแข่งกับอันดับหนึ่งก็ยิ่งยาก
แต่ในเวลาเดียวกันผมมีโอกาสได้พูดคุยกับบริษัทที่ขึ้นชื่อว่าเป็นอันดับหนึ่งเหล่านั้น เขาก็ได้คุยให้ฟังว่าถึงแม้เขาจะเป็นผู้นำตลาดและมียอดขายสูงสุด แต่ปัญหาที่ใหญ่ที่สุดสำหรับเขาก็คือมีความสามารถในการทำกำไรที่ลดลงมาก
ทุกบริษัทจึงล้วนมีปัญหาในมิติที่แตกต่างกัน และล้วนต้องใช้แนวทางในการรับมือที่ไม่เหมือนกันเลย
การจะก้าวข้ามปัญหาดังกล่าวได้จึงต้องมองให้ออก และถ้าจะให้ดีต้องมีความสนุกที่ได้แก้ปัญหาต่างๆ เพราะมองเห็นโอกาสที่จะเอาชนะและสร้างความสำเร็จได้ในอนาคต
และที่ไม่ควรทำที่สุดคือการมองหาแต่ปัญหาและจมอยู่กับปัญหา และอุปสรรคโดยไม่ได้คิดถึงทางออกซึ่งก็คือความสำเร็จที่รอเราอยู่ปลายทางนั่นเอง