ใช้เครื่องทำน้ำอุ่นระบบแก๊ส ต้องมีช่องระบายอากาศ
โฆษกกระทรวงสาธารณสุข เตือนระวังการใช้เครื่องทำน้ำอุ่นระบบแก๊สอาบน้ำหน้าหนาว ต้องมีช่องระบายอากาศ หากมีอาการวิงเวียน ปวดศีรษะ มึนงง หายใจลำบาก ได้กลิ่นแก๊สมากผิดปกติให้รีบออกจากห้องน้ำทันที
นายแพทย์ณรงค์ สายวงศ์ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุขและโฆษกกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ว่า ในช่วงหน้าหนาวนักท่องเที่ยวนิยมเดินทางไปท่องเที่ยวภูเขา ดอยสูงทางภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ตามรีสอร์ทที่พักมักใช้เครื่องทำน้ำอุ่นระบบแก๊ส ซึ่งทำให้เกิดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์และคาร์บอนมอนนอกไซด์ เมื่อสูดดมเข้าไปในปริมาณมากและเป็นเวลานาน จะมีอาการวิงเวียน ปวดศีรษะ มึนงง หน้ามืด หายใจลำบาก คลื่นไส้ อาเจียน ซึม หมดสติ และเสียชีวิตได้ โดยเฉพาะผู้ป่วยโรคหัวใจ โรคโลหิตจาง หอบหืด ถุงลมโป่งพอง ความดันโลหิตสูง เป็นกลุ่มเสี่ยงมีโอกาสเสียชีวิตสูง จึงควรเปิดช่องหรือพัดลมระบายอากาศในระหว่างอาบน้ำทุกครั้ง และเปิดประตูห้องน้ำทิ้งไว้อย่างน้อย 20 นาทีก่อนที่คนต่อไปจะใช้ห้องน้ำ
นายแพทย์ณรงค์กล่าวต่อว่า กรณีไม่มีพัดลมดูดอากาศให้สำรวจว่าประตูห้องน้ำมีช่องระบายอากาศกว้างพอที่อากาศภายนอกจะเข้ามาได้ แต่หากไม่มีทั้งพัดลมดูดอากาศและประตูห้องน้ำปิดทึบ ควรแง้มประตูห้องน้ำระหว่างอาบน้ำ และไม่ควรอาบน้ำนานเกินไป หากถ้ามีอาการผิดปกติหรือได้กลิ่นแก๊สมากผิดปกติ ควรรีบออกจากห้องน้ำทันที นอกจากนี้ จะต้องใช้เฉพาะการอาบน้ำ ไม่นำไปใช้ทำความร้อนภายในห้องพัก ดังกรณีข่าวนักท่องเที่ยวต่างชาติที่จังหวัดเพชรบูรณ์ เปิดเครื่องทำน้ำอุ่นระบบแก๊สทิ้งไว้เพื่อให้ความร้อนเข้ามาในห้องนอน จนทำให้หมดสติ
สำหรับผู้ที่นอนเต็นท์ขอย้ำว่าห้ามจุดเตาผิงไฟในเต็นท์ ซึ่งจะเกิดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์และก๊าซคาร์บอนมอนนอกไซด์จากการเผาไหม้ขังอยู่ภายในเต็นท์ เมื่อหายใจเข้าไปจะทำให้สมองขาดออกซิเจนไปเลี้ยง ง่วงหลับโดยไม่รู้ตัวและเสียชีวิตได้
“ขอให้ประชาชนรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ดื่มน้ำสะอาดวันละ 6-8 แก้ว ออกกำลังกายสม่ำเสมอ นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ เตรียมร่างกายให้แข็งแรงพร้อมรับการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศ สวมเสื้อผ้า เครื่องกันหนาวให้ร่างกายอบอุ่นอยู่เสมอ สวมถุงมือถุงเท้า และสวมหมวก ไม่ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แก้หนาว ผู้ที่มีโรคประจำตัวต้องนำยาที่แพทย์ติดตัวไปด้วย เพื่อให้เดินทางท่องเที่ยวอย่างมีความสุข ช่วยเศรษฐกิจของประเทศ” นายแพทย์ณรงค์กล่าว