'สุริยะ' มั่นใจราคาอ้อยสดทะลุ 1,000 บาทต่อตัน
"สุริยะ" มั่นใจราคาอ้อยสดทะลุ 1,000 บาทต่อตันอ้อย พร้อมเสนอโครงการเงินช่วยเหลือเกษตรกรชาวไร่อ้อยเพื่อซื้อปัจจัยการผลิต ฤดูการผลิตปี 2562/2563
เมื่อวันที่ 19 ม.ค.63 นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยภายหลังจากให้ผู้บริหาร 4 องค์กรชาวไร่อ้อย ประกอบด้วย สหพันธ์ชาวไร่อ้อยแห่งประเทศไทย ชมรมสถาบันชาวไร่อ้อยภาคอีสาน สหสมาคมชาวไร่อ้อยแห่งประเทศไทย และสมาพันธ์ชาวไร่อ้อยแห่งประเทศไทยเข้าพบ เพื่อหาแนวทางช่วยเหลือเกษตรกรชาวไร่อ้อย เนื่องจากราคาอ้อยตกต่ำ และมาตรการสนับสนุนจากภาครัฐในการช่วยเหลือแก่เกษตรกรชาวไร่อ้อยที่ตัดอ้อยสดก่อนส่งโรงงาน
นายสุริยะ กล่าวว่า จากมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 14 มกราคม 2563 เห็นชอบการกำหนดราคาอ้อยขั้นต้น และผลตอบแทนการผลิตและจำหน่ายน้ำตาลทรายขั้นต้น ฤดูการผลิตปี 2562/2563 ในอัตราอ้อยตันละ 750 บาท ณ ระดับความหวานที่ 10 ซี.ซี.เอส และกำหนดอัตราขึ้นลงของราคาอ้อยเท่ากับ 45 บาทต่อ 1 หน่วย ซี.ซี.เอส และผลตอบแทนการผลิตและจำหน่ายน้ำตาลทรายขั้นต้น ฤดูการผลิตปี 2562/2563 เท่ากับ 321.43 บาทต่อตันอ้อย ตามที่กระทรวงอุตสาหกรรมเสนอ
กระทรวงอุตสาหกรรม ซึ่งเป็นหน่วยงานหลักในการกำกับดูแลอุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลทราย ไม่ได้นิ่งนอนใจ ได้ทราบถึงความเดือดร้อนของพี่น้องชาวไร่อ้อย โดยได้สั่งการให้สำนักงานคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย (สอน.) เร่งรัดเสนอโครงการเงินช่วยเหลือเกษตรกรชาวไร่อ้อยเพื่อซื้อปัจจัยการผลิต ฤดูการผลิตปี 2562/2563 ภายใต้กรอบวงเงิน 10,000 ล้านบาท เสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาให้ความเห็นชอบ
โดยมีนโยบายในการให้ความช่วยเหลือเป็น 2 ส่วน คือ วงเงิน 6,500 ล้านบาท ช่วยเหลือปัจจัยการผลิต และวงเงิน 3,500 ล้านบาท ช่วยเหลือเฉพาะชาวไร่อ้อยที่ตัดอ้อยสด ทั้งนี้ มั่นใจว่าการช่วยเหลือภายใต้โครงการดังกล่าว ชาวไร่อ้อยที่ตัดอ้อยสดส่งเข้าโรงงานจะได้รับราคาอ้อยมากกว่า 1,000 บาทต่อตันอ้อย ซึ่งจะได้รับเงินค่าอ้อยมากกว่าอ้อยไฟไหม้อยู่ประมาณ 130 บาทต่อตันอ้อย เพื่อสนับสนุนและจูงใจให้เกษตรกรชาวไร่อ้อยตัดอ้อยสดก่อนส่งโรงงาน ยังเป็นการตอบสนองนโยบายของรัฐบาลในการแก้ไขปัญหามลพิษด้านฝุ่นละออง
จากสถานการณ์ปริมาณฝุ่นละอองขนาดเล็กไม่เกิน 2.5 ไมครอน หรือ PM 2.5 และเพื่อเป็นการบรรเทาความเดือดร้อนให้กับเกษตรกรชาวไร่อ้อย โดยเฉพาะชาวไร่อ้อยรายเล็ก ให้สามารถเข้าถึงปัจจัยการผลิตที่จำเป็น และสามารถนำไปเป็นเงินทุนหมุนเวียนในการประกอบอาชีพต่อไป
โดยเกษตรกรชาวไร่อ้อย เป็นเกษตรกรกลุ่มแรกที่ให้ความร่วมมือสนับสนุนมาตรการแก้ไขปัญหาการเผาอ้อย ซึ่งในปี 2563 มีเป้าหมายอ้อยสดเข้าหีบโรงงานน้ำตาลร้อยละ 50 ของผลผลิตรวมปีนี้