พิษไวรัสโคโรน่า ประเมินท่องเที่ยวครึ่งปีสูญ 3 แสนล้าน
ไวรัสโคโรน่าพ่นพิษ “พิพัฒน์” ชี้ท่องเที่ยว“ครึ่งปี”สูญ 3 แสนล้าน ด้านธุรกิจภูเก็ตขอซอฟท์โลน 2 หมื่นล้านเสริมสภาพคล่อง รถบัสภูเก็ตจอดนิ่ง 1,200 คัน
วานนี้ (3 ก.พ.) ในการประชุมคณะกรรมการนโยบายการท่องเที่ยวแห่งชาติ (ท.ท.ช.) ครั้งที่ 1/2563โดยมีนายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เป็นประธาน กล่าวว่า ผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา กระทรวงการท่องเที่ยวฯประเมินว่า ตั้งแต่ วันที่ 24 ม.ค. 2563 ที่ประธานาธิบดีสีิิจิ้นผิงประกาศห้ามกรุ๊ปทัวร์จีนเดินทางออกจากเมืองอู่ฮั่น ทำให้จำนวนนักท่องเที่ยวที่เข้ามาในประเทศไทยลดลงอย่างมาก
จากการได้คุยกันหลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ได้มีการประเมินว่า น่าจะมีการสูญเสียรายได้ประมาณ3แสนล้านบาท ถ้าเหตุการณ์ยุติได้ในเดือนมี.ค.การฟื้นตัวทั้งหมดกว่าจะเข้าสู่สภาพเดิมได้น่าจะต้นเดือนก.ค.ซึ่งทำให้เสียโอกาสไป 5 เดือน ซึ่งเราคาดว่า จะสูญเสียรายได้ประมาณ3แสนล้านบาท
“เบื้องต้นหากกระตุ้นไม่ทันไทยจะสูญเสียรายได้ 3 แสนล้านบาท แต่ถ้าเหตุการณ์ไม่ได้เลวร้ายและการท่องเที่ยวกลับมาได้เร็วขึ้น การสูญเสียอาจไม่ถึง3 แสนล้านบาท แต่หากไม่สามารถยุติไวรัสโคโรนาไม่ได้และต้องลากยาวไปการเสียหายอาจมากกว่า3 แสนล้านบาทก็ได้ ซึ่งตรงนี้เป็นปัจจัยไม่สามารถกำหนดได้”
ดันตลาดไทย-ซีแอลเอ็มวี-อินเดีย
ดังนั้นทางกระทรวงท่องเที่ยวฯ จึงมองหาวิธีการที่หายรายได้แหล่งอื่นมาชดเชย สิ่งแรกที่ทำคือการประชาสัมพันธ์รณรงค์ให้คนไทยหันมาเที่ยวในประเทศ สองการดึงนักท่องเที่ยวในอาเซียน โดยเฉพาะตลาดซีแอลเอ็มวี ประกอบไปด้วย ประเทศกัมพูชา ลาว เมียนมา เวียดนาม ซึ่งภาวะเศรษฐกิจประเทศเหล่านี้ เจริญเติบโตและมีกลุ่มนักท่องเที่ยวมาเที่ยวในประเทศไทยมากขึ้นและสาม กลุ่มนักท่องเที่ยวอินเดีย โดยเข้าไปหารือกับทางการอินเดียว่า จะทำอย่างไรให้นักท่องเที่ยวอินเดียมากประเทศไทยมากขึ้น ซึ่งอาจต้องมีการอำนวยความสะดวกให้มากขึ้น เพราะปัจจุบันอาจมีข้อติดขัดบางประการ
“พิพัฒน์”แจงยุโรปเที่ยวไทยเพิ่ม
นายพิพัฒน์ กล่าวว่า สำหรับตลาดนักท่องเที่ยวประเทศอื่นๆจากการคุยกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.)พบว่า ไม่ได้ลดลง โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวยุโรปมาเที่ยวประเทศไทยเพิ่มขึ้น จากเดิมจะไปเที่ยวประเทศจีน เมื่อเกิดเหตุการณ์แพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาเบนเข็มกลับมาเที่ยวประเทศไทยแทน ถือว่า ประเทศไทยได้อานิสงส์จากการที่จีนปิดประเทศ หันมาเที่ยวประเทศไทย
ชงงบ500ล้านกระตุ้นท่องเที่ยว
โดยเมื่อวันที่ 31 ม.ค.ที่ผ่านมาในการประชุมครม.เศรษฐกิจ ทางกระทรวงท่องเที่ยวฯ ได้ของบประมาณ500ล้านบาท เพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยวภาพรวมหลังจากนี้ในลักษณะของงบกลาง ซึ่งจะนำเข้าสู่การประชุมครม.วันนี้
ประเมินผลกระทบ4สมมติฐาน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กองเศรษฐกิจการท่องเที่ยวและกีฬา กระทรวงการท่องเที่ยวฯ ได้ประมาณการณ์ผลกระทบของมาตรการที่จีนประกาศให้บริษัทนำเที่ยวในจีนหยุดดำเนินกิจกรรมท่องเที่ยวระหว่างประเทศ ห้ามจำหน่ายแพ็กเกจท่องเที่ยวที่จัดการเดินทางด้วยตัวเอง (เอฟไอที) ซึ่งมาตรการดังกล่าวจะส่งผลกระทบต่อจำนวนนักท่องเที่ยวจีนที่เดินทางเข้าไทย ซึ่งกระทรวงการท่องเที่ยวฯได้ตั้งสมมติฐานไว้ 4 กรณี คือ กรณีที่ 1 จีนห้ามเดินทางตั้งแต่ ม.ค.-มี.ค.2563 จะส่งผลให้จำนวนนักท่องเที่ยวจีนลดลง 1.47-1.98 ล้านคน รายได้จะหายไป 6.7-9.1 หมื่นล้านบาท
กรณีที่ 2 จีนห้ามเดินทางตั้งแต่ ม.ค.-เม.ย. 2563 จะส่งผลให้จำนวนนักท่องเที่ยวจีนลดลง 2.16-2.83 ล้านคน รายได้จะหายไป 0.99-1.3 แสนล้านบาท, กรณีที่ 3 จีนห้ามเดินทางตั้งแต่ ม.ค.-มิ.ย.2563 จะส่งผลให้จำนวนนักท่องเที่ยวจีนลดลง 3.23-4.37 ล้านคน รายได้จะหายไป 1.48-2.01 แสนล้านบาท และกรณีที่ 4 จีนห้ามเดินทางตั้งแต่ ม.ค.-ก.ย.2563 จะส่งผลให้จำนวนนักท่องเที่ยวจีนลดลง 5.21-7.07 ล้านคน รายได้จะหายไป 2.4-3.25 แสนล้านบาท
ธุรกิจภูเก็ตขอซอฟท์โลน2หมื่นล.
นายภูมิกิตติ์ รักแต่งาม นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า จากเหตุการณ์ระบาดของไวรัสโคโรน่า ส่งผลกระทบกับการท่องเที่ยวประเมินว่า ความเสียหายที่เกิดขึ้นในช่วง 3-6 เดือนนั้นคาดว่านับหมื่นล้านบาท และจำเป็นต้องดึงนักท่องเที่ยวสัญชาติอื่นที่มีศักยภาพ เช่น เยอรมัน อินเดีย เป็นต้น ซึ่งเป็นความท้าทายค่อนข้างมาก
ขณะเดียวกันสิ่งที่ภาคเอกชนด้านท่องเที่ยวต้องการให้ภาครัฐเข้ามาช่วย ซึ่งเป็นมาตรการที่เคยทำมาแล้วในช่วงที่เกิดเหตุสึนามิ โรคซา หรือไข้หวัดนก ทั้งมาตรการด้านการเงิน การคลัง และแรงงาน โดยเฉพาะเรื่องของซอฟท์โลน เบื้องต้นคำนวณไว้ที่ประมาณ 20,000 บาท อัตราดอกเบี้ย 2% ซึ่งเท่ากับในช่วงที่เกิดเหตุการณ์สึนามิ นอกจากนี้ยังอยากให้หน่วยงานภาครัฐได้เร่งความเชื่อมั่นและความปลอดภัย
นายก้องศักดิ์ คู่พงศกร นายกสมาคมโรงแรมไทยภาคใต้ กล่าวว่า เป็นที่ชัดเจนแล้วว่านักท่องเที่ยวจีนที่มาเป็นกรุ๊ปหรือเป็นหมู่คณะได้ยกเลิกการจองห้องพักไปจนถึงสิ้นเดือนก.พ. ส่วนของนักท่องเที่ยวเอฟไอที คาดว่าจะมีการยกเลิกห้องพักไปไม่ต่ำกว่า 50% หรืออาจจะเป็น 80-90 % ส่วนของนักท่องเที่ยวสัญชาติอื่นๆ มีการสอบถามและมีการยกเลิกการจองห้องพักแล้วบางส่วน ขณะที่ยังไม่ได้จองก็มีการชะลอการเดินทางมายังจังหวัดภูเก็ตและจังหวัดอันดามัน
รถบัสภูเก็ตโอดจอดนิ่ง1,200 คัน
นายวิพงศ์ศักดิ์ มงคลบุตร ผู้ประกอบการรถบัส 30 ในจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า บริษัทได้รับผลกระทบนับตั้งแต่ทางการจีนประกาศห้ามทัวร์จีนเดินทางออกนอกประเทศ โดยทางเอเย่นทัวร์ได้ทยอยแจ้งยกเลิกการนำนักท่องเที่ยวเข้ามา ทำให้รถบัสที่ให้บริการรับส่งนักท่องเที่ยว จำนวน ประมาณ 1,200 คัน ต้องจอดนิ่ง เนื่องจากไม่มีงานทำ
“สิ่งที่อยากให้หน่วยงานรัฐ แบ่งเป็น 2 ส่วน คือ ส่วนของผู้ประกอบการ ต้องการให้ภาครัฐเข้าไปคุยกับสถานบันการเงิน โดยเฉพาะไฟแนนท์ พักชำระหนี้อย่างต่ำ 6 เดือน ส่วนของพนักงานขับรถ ได้เข้ามาดูแลและหาแนวทางในการเยียวยา เนื่องจากเขามีภาระที่ต้องรับผิดชอบครอบครัวและอื่นๆ เมื่อไม่มีงานทำลำบาก เช่น ประกันสังคม เป็นต้น”