นักวิเคราะห์ แห่หั่นคาดการณ์จีดีพีจีน ปมไวรัสโคโรน่าระบาด
นักวิเคราะห์แห่หั่นคาดการณ์จีดีพีจีนปมไวรัสโคโรน่าระบาด หลังกิจกรรมทางธุรกิจชะลอตัวลงอย่างมาก รวมทั้งปริมาณการค้า-การลงทุน
ปีที่แล้วเป็นปีที่ยากลำบากสำหรับจีน เพราะทำสงครามการค้ากับสหรัฐ มาถึงปีนี้ จีนเจอไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่โจมตีอย่างไม่ทันให้ตั้งตัว จนทำให้จีนสั่งปิดเมืองอู่ฮั่น มณฑลหูเป่ย์ ยุติสายการผลิตทางด้านอุตสาหกรรมชั่วคราว ธุรกิจการบริการระส่ำระสายหนัก ทำให้นักวิเคราะห์จากสำนักต่างๆพากันหั่นคาดการณ์การเติบโตทางเศรษฐกิจของจีน ไปดูกันว่ามีสถาบัน
สถาบันวิจัยเอเวอร์แกรนด์ ออกรายงานประเมินผลกระทบของการระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ต่อเศรษฐกิจของจีน โดยคาดการณ์ว่า อัตราการเติบโตภายในประเทศของจีน ในไตรมาสแรกของปี 2563 จะลดลงเหลือ 4% จากที่เคยเติบโต 6% ในไตรมาสสุดท้ายของปี 2562
รายงานระบุว่า อัตราการเติบโตลดลงเป็นผลจากการขาดทุนของอุตสาหกรรมค้าปลีก ร้านอาหาร และการท่องเที่ยวของจีนในช่วงวันหยุดตรุษจีนที่คาดว่าสูงเกิน 1 ล้านล้านหยวน นอกจากนี้ รายงานยังระบุว่าผลกระทบยังจะขยายไปยังภาคการก่อสร้างและการเงินด้วย
รายงานระบุว่า แม้จะสามารถควบคุมการระบาดได้ภายในสิ้นเดือนเม.ย. แต่อัตราการเติบโตของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศของจีน (จีดีพี) รายไตรมาสยังคงลดลงเหลือ 4% ซึ่งถือเป็นจุดต่ำสุด นับตั้งแต่เริ่มมีการออกตัวเลขการเติบโตรายไตรมาสในประเทศจีน เมื่อปี 2535 และคาดการณ์ว่าอัตราการเติบโตของจีดีพีจีนทั้งปี จะลดลงเหลือ 5.4% ในปีนี้ จาก 6.1% ในปีที่แล้ว
จีน กำลังเผชิญกับภัยคุกคามต่อเศรษฐกิจของประเทศทั้งจากการระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ และจากความขัดแย้งทางการค้ากับสหรัฐก่อนหน้านี้ และการที่จีนซึ่งมีเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับสองของโลกกำลังเผชิญอุปสรรค ก็ทำให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจโลก
นอกจากนี้ เอเอ็นซี หรือกลุ่มธนาคารออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ ยังคงคาดการณ์ตัวเลขการเติบโตของจีดีพีจีนในปีนี้ไว้ที่ 5.8% แม้ว่าที่ผ่านมา ธนาคารได้หั่นคาดการณ์จีดีพีจีนช่วงไตรมาส1ปีนี้จาก 5.9% เหลือ 5.0% ก็ตาม ส่วนธนาคารซิตี้แบงก์ ปรับลดคาดการณ์ตัวเลขจีดีพีของจีนปีนี้เหลือขยายตัวแค่ 5.5% จาก 5.8%
การปรับลดตัวเลขคาดการณ์การเติบโตทางเศรษฐกิจจีนของเหล่านักวิเคราะห์ ประเมินจากกิจกรรมทางธุรกิจ และเศรษฐกิจในจีนที่ลดลง ในช่วงที่รัฐบาลกำลังเร่งหาทางบรรเทาสถานการณ์แพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา โดยล่าสุด วานนี้ (5ก.พ.)กระทรวงศึกษาธิการของจีน กำหนดให้โรงเรียนทุกแห่งในเซี่ยงไฮ้เลื่อนเปิดภาคการศึกษาประจำฤดูใบไม้ผลิปี 2563 ออกไปจนถึงสิ้นเดือนก.พ. เพื่อรับรองความปลอดภัยและสุขภาพของนักเรียน
สำนักงานข้อมูลนครเซี่ยงไฮ้ ระบุว่า วันเปิดภาคการศึกษาจะถูกกำหนดขึ้นมาอีกครั้ง โดยจะพิจารณาจากแนวโน้มการรับมือกับการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ โดยโรงเรียนต่าง ๆ จะติดต่อกับนักเรียน และให้คำแนะนำเกี่ยวกับสื่อการเรียนการสอน รวมทั้งให้คำแนะนำทางการศึกษา และให้คำปรึกษาด้านสภาพจิตใจ
คณะกรรมการการศึกษานครเซี่ยงไฮ้และเจ้าหน้าที่ฝ่ายการศึกษาในแต่ละเขตจะให้คำแนะนำกับโรงเรียนในเรื่องของการเตรียมตัวสำหรับเปิดภาคการศึกษาและการเปิดสอนหลักสูตรออนไลน์ โดยเมื่อวันที่ 23 ม.ค. ที่ผ่านมา สถาบันฝึกอบรมและเลี้ยงดูเด็กอ่อนของเซี่ยงไฮ้ ประกาศระงับบริการที่ออฟไลน์ไปจนถึงสิ้นเดือนก.พ.
ทั้งนี้ กระทรวงศึกษาธิการของจีนประกาศเมื่อปลายเดือนม.ค.ที่ผ่านมา ให้โรงเรียนต่าง ๆ เลื่อนเปิดภาคการศึกษาฤดูใบไม้ผลิปี 2563 ออกไป เนื่องจากการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่
ขณะที่อีโคโนมิสต์ อินเทลลิเจนซ์ ยูนิต (อีไอยู) หั่นคาดการณ์จีดีพีจีนปีนี้เหลือ 4.9% -5.4% จาก5.9% ที่เคยคาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ เช่นเดียวกับ แมคควอรี ที่ปรับลดตัวเลขคาดการณ์จีดีพีจีนเหลือ 5.6% จาก 5.9% ส่วนธนาคารมิซูโฮะ ปรับลดคาดการณ์จีดีพีจีนเหลือ 5.6% จาก 5.9%
มูดีส์ อินเวสเตอร์ส เซอร์วิส คาดการณ์ว่าจีดีพีของจีนจะขยายตัว 5.8% ในปีนี้ และเตือนว่า เศรษฐกิจจีนอาจจะไม่ขยายตัวได้มากเท่ากับที่คาดการณ์ไว้ในปีนี้ รัฐบาลจีนอาจจำเป็นต้องใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจมากกว่าที่เป็นอยู่ เพื่อรับมือกับผลกระทบของไวรัสโคโรนาที่มีต่อการใช้จ่ายของผู้บริโภค เนื่องจากปัจจุบันเศรษฐกิจจีนมีการพึ่งพาการใช้จ่ายของผู้บริโภคมากขึ้นเมื่อเทียบกับในช่วงที่เกิดการระบาดของโรคทางเดินหายใจเฉียบพลันรุนแรง(ซาร์ส)เมื่อปี 2546
“การที่เศรษฐกิจจีนหันมาพึ่งพาอุปสงค์ของผู้บริโภคเป็นแรงขับเคลื่อนการเติบโตนั้น ทำให้มีความเสี่ยงเพิ่มขึ้นว่า ผลกระทบของไวรัสโคโรนาที่มีต่อเศรษฐกิจในขณะนี้ จะรุนแรงมากกว่าเมื่อครั้งโรคซาร์สระบาดในปี 2546” ทีมวิเคราะห์ด้านความเสี่ยงประเทศของมูดี้ส์ ระบุในรายงาน
ส่วนนาติซิส หั่นตัวเลขคาดการณ์จีดีพีจีนปีนี้่เหลือโตแค่ 5.5% จากที่เคยคาดการณ์ไว้ที่ 5.7% และโนมูระ คาดการณ์ว่าจีดีพีจีนปีนี้ขยายตัวต่ำกว่า 6.1% ส่วนแวนการ์ด ยังคงคาดการณ์ว่าจีดีพีจีนจะขยายตัวที่อัตรา 5.8% ส่วนธนาคารยูบีเอส ปรับลดตัวเลขคาดการณ์จีดีพีจีนเหลือขยายตัวแค่ 5.5% จาก6% ที่เคยคาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้
ในส่วนของจีน นอกจากจะเร่งบรรเทาการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาแล้ว รัฐบาลปักกิ่ง ยังต้องหาทางรับมือกับผลกระทบที่เกิดจากการระบาดของเชื้อไวรัสชนิดนี้ด้วย ล่าสุด รัฐบาลท้องถิ่นของจีนและแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซเตรียมปรับลดค่าเช่าและส่งเสริมด้านการเงิน เพื่อช่วยเหลือธุรกิจขนาดเล็กให้สามารถยืนหยัดได้ ท่ามกลางการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่
ตั้งแต่วันอาทิตย์ที่ผ่านมา หลายเมืองของจีน เช่น เซี่ยงไฮ้ ปักกิ่ง ชิงเต่า และซูโจว ได้ออกนโยบายสนับสนุนบริษัทขนาดเล็กและขนาดกลางด้วยการลดภาระด้านการกู้ยืม ค่าเช่า และค่าประกันสังคม ส่วนรัฐบาลของกรุงปักกิ่ง สัญญาว่า จะเพิ่มการสนับสนุนทางการเงินด้านสินเชื่อสำหรับบริษัทที่เผชิญปัญหาที่เกิดขึ้นอยู่ในขณะนี้ ท่ามกลางการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา พร้อมสัญญาว่าจะไม่ระงับหรือถอนเงินกู้
นอกจากนี้ จีนยังขยายระยะเวลาการเก็บเบี้ยประกันสังคมไปจนถึงสิ้นเดือนก.ค. เพื่อให้บริษัทจากภาคธุรกิจการท่องเที่ยว การจัดเลี้ยง และภาคอุตสาหกรรมที่ได้รับผลกระทบชะลอการชำระเงินของบริษัทออกไปก่อน
ส่วนเมืองซูโจว เมืองสำคัญทางตะวันออกเฉียงใต้ของมณฑลเจียงซู ขอให้ธนาคารเพิ่มการสนับสนุนด้านการเงินแก่บริษัทขนาดกลางและขนาดเล็ก (เอสเอ็มอี)พร้อมระบุว่า ธุรกิจเอสเอ็มอีที่เช่าทรัพย์สินของรัฐจะได้รับยกเว้นค่าเช่าเป็นเวลา 1 เดือน และลดค่าเช่าลงอีกครึ่งหนึ่งในอีก 2 เดือนถัดไป