สธ.แนะอีเวนต์เลื่อนได้ให้เลื่อนป้องกันไวรัสโคโรน่า2019
สธ.แนะอีเวนต์เลื่อนได้ให้เลื่อนป้องกันไวรัสโคโรน่า2019 หากจำเป็นจัดต้องวัดไข้คนก่อนเข้างาน -จัดหาเจลล้างมือให้เพียงพอ-ใส่หน้ากากอนามัย ยืนยันไทยยังไม่มีระบาดในประเทศวงกว้าง แจงมาเลเซียไม่ได้ติดเชื้อที่ไทยแน่นอน
นายแพทย์ธนรักษ์ ผลิพัฒน์ รองอธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวถึงสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคน่า2019 หรือโควิด-19ว่า ปัจจุบันจำนวนผู้ป่วยยืนยันของประเทศไทยเพิ่มขึ้นค่อนข้างช้าเมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆที่เริ่มมีการแพร่ระบาดในประเทศชัดเจน มีผู้ป่วยที่เกิดขึ้นจากการที่แพร่ระบาดภายในประเทศเองจริงๆ เช่น สิงคโปร์มีการแพร่ระบาดของโรคภายในประเทศชัดเจนแล้ว ส่วนประเทศไทยขณะนี้มีความพยายามสูงมากในการที่จะตรวจหายตรวจหาผู้ติดเชื้อภายในประเทศ เช่น การขยายวงการเฝ้าระวัง และทำทุกอย่างแล้ว แต่ยังไม่เจอว่ามีการแพร่ระบาดในวงที่กว้างออกจากเดิม อยากยืนยันให้ประชาชนทราบว่าขณะนี้มีความพยายามทุกวิถีทางจริงๆ ตั้งใจที่จะยืดสถานการณ์ให้อยู่ระยะ2ที่มีการแพร่เชื้อในวงจำกัดออกไปให้ได้นานที่สุด ด้วยการค้นพบผู้ป่วยให้ได้เร็วและเข้าควบคุมโรคโดยเร็ว ซึ่งดำเนินการเต็มที่ แต่ปัจจุบันยังไม่เจอการแพร่ระบาดในประเทศจริงๆ และหวังว่าเมื่อมีการแพร่ระบาดจะเจอได้โดยเร็ว
นายแพทย์ธนรักษ์ กล่าวอีกด้วยว่า ประเทศไทยมีความเสี่ยงที่จะเดินไปเจอคนติดเชื้อค่อนข้างต่ำ เพราะประเทศไทยไม่เจอคนติดเชื้อมากนัก แต่ขอแนะนำในคนไทยกลุ่มเสี่ยงที่ต้องเกี่ยวข้องกับคนที่เดินทางเข้ามาในประเทศไทย เช่น คนขับรถโดยสารสาธารณะ ร้านขายของที่นักท่องเที่ยวนิยมไปซื้อ ขอให้หลีกเลี่ยงผู้ป่วยที่มีอาการไอ จาม ล้างมือบ่อยๆ และพิจารณาใส่หน้ากากอนามัยตามความเหมาะสม ส่วนหากเป็นการทำงานอยู่ในพื้นที่จำกัดหรือแคบ จะต้องใส้หน้ากากอนามัยทุกกรณี เพื่อเป็นการช่วยลดการแพร่เชื้อได้
น้ำสบู่ล้างเชื้อผิวสัมผัสได้
“พลังอำนาจในการหยุดการระบาดของโรคอยู่ที่ตัวผุ้ป่วยเป็นหลัก ถ้าผู้ป่วยร่วมมือดี ไข้ ไอ เจ็บคอ พักอยู่บ้าน หากมีความจำเป็นต้องออกไปข้างนอกให้ใส่หน้ากากอนามัย ถ้าหาไม่ได้ เมื่อไอหรือจามให้ปิดด้วยการไอใส่ข้อศอก ห้ามใช้มือปิดปากไอ จาม เพราะมือที่เปื้อนเชื้อมีโอกาสที่จะไปจับสิ่งต่างๆเป็นการแพร่เชื้ออกไปได้ รวมถึง ล้างมือบ่อยๆ และเลี่ยงไปสถานที่ที่มีคนจำนวนมาก ซึ่งการติดเชื้อจากการสัมผัสไม่ว่าเชื้อจะอยู่ในสิ่งแวดล้อมได้นานกี่วัน ก็สามารถจัดการได้ด้วยการใช้น้ำสบู่ล้างทำความสะอาด”นายแพทย์ธนรักษ์กล่าว
เป็นสิทธิ์อิสราเอลกักคนไทย
ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่ประเทศอิสราเอลให้คนไทยที่เดินทางเข้าประเทศจะต้องกักตัวเองเป็นเวลา 14 วันก่อน นายแพทย์ธนรักษ์ กล่าวว่า ทุกประเทศมีเอกสิทธิ์ตัดสินใจดำเนินการอย่างใดอย่างหนึ่ง ซึ่งวิธีคิดจำกัดการเดินทางมีหลายระดับ ตั้งแต่ 1.การห้ามไม่ให้เข้าประเทศ 2.อนุญาตให้เข้าประเทศได้แต่จะต้องกักตัวเองเป็นเวลา 14 วัน 3.ไม่ได้ให้มีการกักตัวอยู่ที่บ้าน แต่ขอความร่วมมือให้ปฏิบัติตามคำแนะนำ หากมีอาการไข้ ไอ เจ็บคอให้รีบไปพบแพทย์และแจ้งประวัติการเดินทาง ซึ่งประเทศไทยใช้มาตรการนี้ที่ถือเป็นมาตรการกลางๆ และหวังว่าจะได้รับความร่วมมือจากผู้เดินทาง และได้มีการกำชับไปยังสถานพยาบาลต่างๆแล้ว หากมีผู้เดินทางมีอาการดังกล่าว ให้นึกถึงโรคโควิด-19และส่งตรวจหาเชื้อ และ4.ไม่ทำอะไรเลย ดังนั้นการดำเนินกรณีผู้เดินทางแต่ละประเทศมีระดับดำเนินการต่างกัน ตามการประเมินความเสี่ยงที่คิดว่าจะจัดการได้
อีเวนต์เลื่อนได้ให้เลื่อน
ผู้สื่อข่าวถามว่าแม้สถานการณ์โรคในประเทศไทยยังไม่มีการแพร่ระบาดในวงกว้าง แต่จำเป็นหรือไม่ที่การจัดงานอีเวนต์ต่างๆจะต้องเลื่อนออกไป เช่น กรณีการเลื่อนของมหกรรมสมุนไพรแห่งชาติ นายแพทย์ธนรักษ์ กล่าวว่า ในหลักการระยะที่มีการแพร่เชื้อ หากมีการรวมตัวของคนจำนวนมากเป็นการสร้างโอกาสการแพร่ระบาดโรคได้มากขึ้น อย่างกรณีการระบาดของไข้หวัดใหญ่ 2009 เมื่อ 10 ปีก่อนก็เกิดการระบาดในคอนเสิร์ตใหญ่ของนักร้องวงเกาหลี เพราะฉะนั้นคำแนะนำคือการจัดงานไหนที่มีคนรวมตัวจำนวนมาก หรืออีเวนต์ต่างๆหากเลื่อนได้ให้เลื่อน แต่หากจัดใน 1-2 วันนี้ยังไม่มีความเสี่ยง แต่ข้างหน้าไม่สามารถพยากรณ์ได้ เพราะสถานการณ์เปลี่ยนแปลงได้เสมอ จะมีการออกมาตรการคำแนะนำที่เข้มข้นขึ้นตามการประเมินความเสี่ยง
กรณีที่มีความจำเป็นไม่สามารถเลื่อนการจัดงานได้ แนะนำให้มีการคัดกรองอุณหภูมิ วัดไข้ ผู้ที่เข้าร่วมงานบริเวณหน้างานทุกราย เพื่อคัดคนที่มีอาการป่วยออกจากงาน คนที่เข้าร่วมงานก็จะเป็นคนที่ปลอดเชื้อ แต่แนะนำให้ใส่หน้ากากอนามัยขณะร่วมงานด้วย และผู้จัดงานจะต้องจัดหาเจลล้างมือให้เพียงพอเต็มที่ เพื่อให้คนร่วมงานสามารถล้างมือได้บ่อยๆ และอยากเรียกร้องไปยังภาคเอกชนที่เป็นสถานที่ศูนย์ประชุม และโรงแรมต่างๆที่สามารถจัดอบรมสัมมนาได้ ควรลงทุนในการติดตั้งเครื่องเทอร์โมสแกนให้เพียงพอในการตรวจวัดคนไข้ หรืออย่างน้อยควรจัดหาเทอร์โมสแกนแบบใช้มือ
ขู่จังหวัดที่ปิดข้อมูลโอกาสระบาดสูง
เมื่อถามว่าขณะนี้มีการแชร์ข้อมูลว่านายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) ในหลายจังหวัด สั่งไม่ให้มีการตรวจแล็บกลุ่มเสี่ยงเพื่อไม่ให้มีรายงานผู้ป่วยเพิ่ม นายแพทย์ธนรักษ์ กล่าวว่า โดยหลักการทั่วไป โรคระบาดเร็ว ถ้ามีการดำเนินการอย่างที่มีการแชร์ข้อมูลนั้นไม่เป็นผลดีกับจังหวัดนั้นๆ แต่กลับส่งผลร้าย การที่ไม่ตรวจคือการที่ไม่สามารถลงไปควบคุมโรคได้เร็ว ถ้าจังหวัดใดมีคำสั่งแบบนี้ก็จะกลายเป็นพื้นที่ที่มีการระบาดของโรคอย่างรวดเร็ว ส่วนตัวไม่คิดว่าจะมีใครที่คิดได้ขนาดนั้น คิดที่จะให้บ้านเมืองที่ตนเองดูแลอยู่ต้องกลายเป็นพื้นที่มีการระบาดของโรคแห่งแรกในประเทศไทย เพราะฉะนั้นมาตรการที่ดีในการควบคุมโรค และยืดระยะเวลาการระบาดของโรคออกไปให้นานที่สุด คือการพยายามตรวจจับให้ได้เร็วที่สุด และลงไปควบคุมโรคให้เร็วที่สุด กระทรวงพร้อมใช้มาตรการเข้มที่สุดในการดำเนินการเรื่องนี้
แจงมาเลเซียไม่ได้ติดเชื้อที่ไทย
ต่อข้อถามกรณีที่มาเลเซียมีรายงานเจอผู้ป่วยที่เดินทางจากประเทศไทยบริเวณด่านสะเดา นายแพทย์ธนรักษ์ กล่าวว่า กรณีจากการที่มีทีมลงไปสอบสวนโรคเพื่อที่จะได้ติดตามผู้สัมผัสใกล้ชิดทั้งหมดได้โดยเร็ว แต่ปรากฏว่าผู้ป่วยรายดังกล่าว เดินทางเข้ามาในประเทศไทยและค้างคืนในประเทศไทยเพียง 1 คืนและกลับออกไป ซึ่งตอนเข้าประเทศไทยไม่มีอาการ แต่ขากลับออกไปมีอาการ เพราะฉะนั้นรายนี้ไม่ได้ติดเชื้อจากประเทศไทยแน่นอน เป็นการติดเชื้อมาก่อน