4 พรรคใหม่ 'ตัวเลือก' ส.ส.อดีตอนค. 'นักศึกษา-นักเรียน' จัดแฟลชม็อบต่อเนื่อง

 ความเคลื่อนไหวของ ส.ส.อดีตพรรคอนาคตใหม่ ที่ต้องหาสังกัดพรรคการเมืองใหม่ภายใน 60 วันนั้น ล่าสุดหลัง ส.ส.กลุ่มหนึ่งย้ายไปร่วมงานกับพรรคภูมิใจไทยแล้ว ในส่วนของกลุ่มที่เหลือที่ยังมีอุดมการณ์ยึดโยงกับอดีตพรรคอนาคตใหม่ เตรียมที่จะจับกลุ่มย้ายไปยังพรรคใหม่ โดยขณะนี้มี ส.ส.บางส่วนรวมทั้งเจ้าหน้าที่อดีตพรรคอนาคตใหม่ ได้ทยอยกรอกใบสมัครพรรคใหม่แล้ว แต่ยังไม่มีการเปิดเผยชื่อ

โดยมีตัวเลือกอยู่ประมาณ 3-4 พรรค คือ พรรคสามัญชน พรรคก้าวไกล พรรคพลังใหม่ และพรรคพลังอนาคต โดยจะมีนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ เป็นผู้นำ ซึ่งขณะนี้ยังรอดูความชัดเจนจาก ส.ส.ที่ยังเหลือบางส่วน ที่มีกระแสข่าวว่าอาจจะย้ายไปร่วมกับพรรคร่วมรัฐบาลอีกส่วนหนึ่ง

นอกจากนี้ ยังมีกระแสข่าวอีกทางหนึ่งระบุว่า จะมี ส.ส.อดีตพรรคอนาคตใหม่ ส่วนหนึ่งจะไม่ย้ายไปร่วมงานกับนายพิธา แต่จะไปร่วมกับอีกพรรคหนึ่ง โดยมี นายเอกภพ เพียรพิเศษ ส.ส.เชียงราย เป็นผู้นำ โดยพรรคดังกล่าวมีความเชื่อมโยงกับ ตระกูลติยะไพรัช ซึ่งเป็นผู้กว้างขวางในจ.เชียงราย โดยมีแนวทางการทำงานควบคู่ไปกับพรรคของนายพิธา

อย่างไรก็ตามขณะนี้ยังคงไม่มีความชัดเจนว่า จะมีส.ส.อดีตพรรคอนาคตใหม่อีกจำนวนเท่าไรที่จะตัดสินใจย้ายไปร่วมพรรครัฐบาล เบื้องต้นคาดการณ์ว่าหากมีการย้ายฟากอีกจะมีส.ส.อดีตพรรคอนาคตใหม่เหลือประมาณ 40-50 คน นอกจากนี้ในตัวเลือกจากพรรคข้างต้น มีบางพรรคที่เจ้าของพรรคเดิมจะเข้ามาขอมีส่วนร่วมในการบริหารจัดการด้วย ซึ่งอาจทำให้เกิดอุปสรรคในการทำงานร่วมกัน ทั้งนี้คาดว่าความชัดเจนทั้งหมดจะมีขึ้นในสัปดาห์หน้า

ด้าน น.พ.เอกภพ กล่าวถึงกระแสข่าวการแยกตัวออกไปเป็นแกนนำพรรคการเมืองอีกพรรคหนึ่งโดยมีอดีตส.ส.อนาคตใหม่บางส่วนตามไปด้วย และจะเคลื่อนไหวร่วมกับบพรรคที่มีนายพิธา เป็นแกนนำ ว่า เรื่องดังกล่าวเป็นเพียงข่าวลือ ที่ว่าตนจะออกไปเป็นแกนนำตั้งพรรคใหม่ แต่ตนเข้าใจได้เพราะการเกิดเหตุการณ์การยุบพรรค ซึ่งทุกคนก็คาดการณ์ไปอย่างโน้นอย่างนี้ ซึ่งส.ส.ที่ยังอยู่ อาจจะมีคนที่รู้สึกหวั่นไหว เพราะทุกคนไม่เคยโดนยุบพรรคมาก่อน อย่างไรก็ตาม เมื่อได้คุยกันแล้ว ก็ได้ข้อสรุปว่าจะเดินหน้าร่วมกันต่อ

นอกจากนี้ การแยกตัวออกไปอีก อาจทำให้พรรคยิ่งเล็กลง จากส.ส.ส่วนที่หายไป ตอนนี้เราเหลือ ส.ส.เพียงประมาณ 50 คน ซึ่งเป็นจำนวนที่น้อย หากเราแยกไปอีก ยิ่งทำให้แรงในการขับเคลื่อนน้อยลงไปกันใหญ่ และยังมีผลกับเรื่องเก้าอี้กรรมาธิการชุดต่างๆ และโควตาในบางเรื่องอีกด้วย

“เท่าที่บอกได้ คือตอนนี้แนวทางของเรายังคงเป็นแบบเดิม หากจะมีการเปลี่ยนแปลงก็ขอเป็นแกนนำเกาะกลุ่มเดิมที่คุยกันไว้แต่แรกดีกว่า” นายเอกภพ กล่าว

 

“เบญจา”แจ้งความโดนขู่ปูดซื้อ23ล.

น.ส.เบญจา แสงจันทร์ ส.ส. อดีตพรรคอนาคตใหม่ เดินทางเข้าไปลงบันทึกประจำวันที่ สน.บางโพ หลังจากเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา น.ส.เบญจา ได้ออกมาเปิดหลักฐานคลิปเสียงการขอซื้อตัว อดีต ส.ส.พรรคอนาคตใหม่ โดยให้ค่าตัวคนละ 23 ล้านบาท

จนกระทั่งวันที่ 25 ก.พ. เวลา 12.00 น. ระหว่างการประชุมสภา ได้มี ส.ส.คนหนึ่งเดินเข้ามาหา น.ส.เบญจา พร้อมระบุว่า “มีบุคคลหนึ่งไม่ทราบชื่อนามสกุล ฝากมาบอกว่า ให้ระวังตัวให้ดี จากการที่ได้มีการเปิดเผยคลิปสนทนาดังกล่าว” นอกจากนี้ยังมี ส.ส.ฝ่ายรัฐบาล เข้ามาพูดคุยกับ น.ส.เบญจา ว่า รู้นะว่าเป็นใครและบอกให้ น.ส.เบญจา ระวังตัวไว้

ล่าสุดวันนี้ได้มีบุคคลหนึ่งเข้ามาข่มขู่อีกครั้ง ทำให้เกิดความกลัวว่าจะไม่ปลอดภัย จึงได้เดินทางเข้าแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบ สน.บางโพ เพื่อป้องกันอันตรายที่จะเกิดขึ้น

นักศึกษาจัดกิจกรรมต่อเนื่อง

กลุ่มนักศึกษาจากหลายมหาวิทยาลัย ยังคงรวมตัวจัดกิจกรรมแสดงจุดยืนไม่พอใจ กรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยให้ยุบพรรคอนาคตใหม่ (อนค.) จากคดีที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ส่งคำร้องให้วินิจฉัยคดีนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ อดีตหัวหน้าพรรคอนค. ให้กู้เงินจำนวน 191 ล้านบาท โดยตั้งแต่วันที่ 24 ก.พ.ที่ผ่านมา มีกลุ่มนักศึกษาออกมาแสดงจุดยืนในหลายมหาวิทยาลัย

สำหรับบรรยากาศวานนี้ (26 ก.พ.) ที่มหาวิทยาลัยศิลปากร วังท่าพระ มีการจัดกิจกรรม ‘ศิลปากรไม่สายลมแสงแดด’ โดยมีนักศึกษาทยอยร่วมเขียนป้ายแสดงความรู้สึก พร้อมติดแฮชแท็ก #ชีวิตสั้นประชาธิปไตยยืนยาว คล้ายคลึงกับประโยค ศิลปะยืนยาว ชีวิตสั้น นอกจากนี้บริเวณผนังอาคารเรียนรวม ฝั่งโรงอาหาร มีการเขียนข้อความต่างๆ บางส่วนอ้างอิงถึงเนื้อหาการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ในประเด็นการใช้งบประมาณของรัฐทำปฏิบัติการข้อมูลข่าวสาร หรือไอโอ

ขณะที่ มหาวิทยาลัยบูรพา จ.ชลบุรี ที่บริเวณลานหน้าหอประชุมธำรงบัวศรี มีกลุ่มนักศึกษารวมตัวกันประมาณ 1,000 คน พร้อมทั้งปิดป้ายขนาดใหญ่ว่า “บูรพาถามหาประชาธิปไตย” โดยการดำเนินงานของกลุ่มโกงกาง พร้อมทั้งมีการเปิดปราศรัยจากนิสิตมหาวิทยาลัยบูรพา เพื่อเรียกร้องประชาธิปไตย พร้อมทั้งเรียกร้องสิทธิเสรีภาพ เพราะถูกกดดันทางการเมืองมานาน

นอกจากนี้ยังมีการปราศรัยเรื่องของประชาธิปไตยจงเจริญ อำนาจเผด็จการจงหมดไป รวมทั้งยังกล่าวถึงในเรื่องงบประมาณของรัฐบาลที่กระทรวงศึกษาธิการลดลง แต่ไปเพิ่มให้กับกระทรวงกลาโหม และค่าเล่าเรียนของมหาวิทยาลัยบูรพายังแพงมากอีกด้วย

อาจารย์ม.บูรพาชี้เคลื่อนไหวไม่รุนแรง

นายโอฬาร ถิ่นบางเตียว อาจารย์ภาควิชาการรัฐศาสตร์ คณะรัฐศาสตร์และนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา กล่าวว่า การรวมตัวครั้งนี้มาจากความเดือดร้อนของนักศึกษาทั้งประเทศ โดยมีการปิดกั้นสิทธิเสรีภาพนับตั้งแต่มีการรัฐประหารปี 2557 รวมทั้งควบคุมความคิดเห็นของครู อาจารย์ ที่ต้องการแสดงความคิดเห็นทางการเมือง เพื่อให้เกิดการพัฒนาประเทศ

รวมทั้งต้องการแสดงให้เห็นถึงการเคลื่อนไหวการยุบพรรคการเมืองที่พวกนิสิตรักและชอบอยู่ในใจ คาดว่าความเคลื่อนไหวของนิสิตครั้งนี้ไม่รุนแรง เพราะเคารพในกติกา และต้องการแสดงออกเท่านั้น เหมือนกันต้องการสร้างสัญลักษณ์การต่อสู้ทางการเมืองภายใต้กฎหมายเท่านั้น ส่วนอนาคตไม่สามารถคาดเดาได้ว่าจะมีความรุนแรงเกิดขึ้นหรือไม่

มศว.จี้เปิดพื้นที่การเมืองภาคประชาชน

ที่มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ศูนย์ประสานมิตร กลุ่มนักศึกษาหลายร้อยคนรวมตัวกันจัดกิจกรรม “#มศวขอมีจุด(ยืน)” โดยมีนักศึกษาบางส่วน ได้ชูป้ายผ้าเขียนข้อความว่า “อุดมการณ์สานฝันอันลือชา” และตัวแทนนักศึกษาจากคณะนวัตกรรมสื่อสารสังคม ขึ้นกล่าวหัวข้อ ‘ฟรีดอมออฟสปีช’ ว่า พวกเรามารวมกันที่นี่เพื่อต้องการสร้างความเปลี่ยนแปลง อย่างน้อยๆ ก็ในมหาวิทยาลัยของเราเอง

ต่อมาได้มีนักศึกษาขึ้นอ่านแถลงการณ์สภานิสิตมศว. แสดงความคิดเห็นต่อกรณียุบพรรคการเมืองในอดีตที่ผ่านมานับตั้งแต่ ปี 2549 ถึงปัจจุบันรวมทั้งหมด 8 ครั้งนั้น สภานิสิตมศว. เห็นว่าพรรคการเมืองเป็นสถาบันทางการเมืองที่มีความสำคัญในระบอบประชาธิปไตย เนื่องจากพรรคการเมืองสามารถเปิดพื้นที่ให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมในการปกครองผ่านตัวแทนได้

มอ.ปัตตานีชงตั้งสสร.แก้รัฐธรรมนูญ

ขณะที่ กลุ่มนักศึกษา มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี นำโดยนักศึกษาคณะรัฐศาสตร์ ร่วมกันหลายคณะได้แสดงออกทางการเมืองอีกครั้งหนึ่ง โดยมีคณาจารย์ ประชาชนทั่วไป และนักศึกษาเจ้าร่วมกว่า 200 คน โดยผู้มาร่วมกิจกรรมครั้งนี้เป็นการแสดงออก ว่าไม่พอใจการทำงานของรัฐบาล การรู้สึกถูกกดขี่ ไม่เป็นประชาธิปไตย รัฐบาลปกครองโดยไม่มีความยุติธรรม การแก้ปัญหาจังหวัดชายแดน ปัญหาความเป็นอยู่ที่ไร้สันติภาพภาคใต้ และการแก้ปัญหาอื่นๆ

นอกจากนี้ยังได้ออกแถลงการณ์ข้อเรียกร้อง ดังนี้ 1.ขอเรียกร้องให้มีการตั้งสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (สสร.) เพื่อให้มีการร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ 2.ขอเรียกร้องต่อผู้ดำรงตำแหน่ง องค์กรอิสระที่ได้รับการแต่งตั้ง หรือขยายระยะเวลาการดำรงดำแหน่งจาก คสช.ให้ลาออก และให้มีการสรรหาบุคคลเข้าดำรงตำแหน่ง โดยมีที่มาที่ยึดโยงกับประชาชน 3.ขอให้พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี รมว.กลาโหม ลาออกจากตำแหน่ง

ห้ามนร.สตรีวิทฯจัดกิจกรรมในโรงเรียน

นอกจากกลุ่มนักศึกษาแล้ว ในวันเดียวกันยังมีกลุ่มนักเรียนจากโรงเรียนสตรีวิทยา นัดรวมตัวกันจัดกิจกรรม โดยร่วมกันชูป้ายไม่เอาเผด็จการ ที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย พร้อมเชิญชวนเข้าร่วมกิจกรรมแฟลชม็อบ ในเวลา 15.00 น. อย่างไรก็ตามทางโรงเรียนสตรีวิทยา ไม่อนุญาตให้ใช้สถานที่ โดยระบุว่าเป็นสถานที่ราชการไม่ควรเลือกข้าง

จากนั้นมีนักเรียนหญิงกลุ่มหนึ่งทั้งสวมชุดนักเรียนม.ต้น ม.ปลาย และใส่ชุดไปรเวท เดินจากโรงเรียนสตรีวิทยา มายังวงเวียนอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย เพื่อจัดกิจกรรมแสดงออกพร้อมทั้งชูป้าย ข้อความ อาทิ ‘สว.อยู่ข้างประชาชน’ ‘พักก่อน’ ‘สเปค=ไม่เป็นสลิม’ ‘ไม่เอาเผด็จการ’ ‘โตไปไม่โกง’ ฯลฯ

โดยตัวแทนระบุว่า การแสดงออกในครั้งนี้ไม่ใช่การชังชาติ แต่ชังเผด็จการ การออกมาแสดงออกเป็นส่วนหนึ่งเพื่อเรียกร้องประชาธิปไตย การมารวมตัวกันในวันนี้ไม่ได้มาในนามโรงเรียน แต่มาในนามของคนรุ่นใหม่ โดยที่โรงเรียนเราไม่อนุญาตให้ทำกิจกรรมโดยชี้แจงว่าทุกคนในโรงเรียนไม่ได้คิดเหมือนเรา ดังนั้นจึงอยากเรียกร้องไปยังเพื่อนๆโรงเรียนอื่น อย่าให้ถูกปิดกั้นเหมือนโรงเรียนเรา ควรปล่อยให้นักเรียนได้จัดกิจกรรมแสดงออก